ศบ.ทก.เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังสงบเรียบร้อย ไทยพร้อมปรับมาตรการตามความจำเป็นและเหมาะสม กำลังตรวจสอบข่าวกัมพูชาห้ามนำเข้าสินค้าทุกประเภทผ่านแดนรวมทั้งที่ท่าเรือ แต่ล่าสุดยังไม่ชัดเจน ชี้จะเป็นการขยายปัญหาไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน สวนทางความพยายามของฝ่ายไทยที่จะไม่เพิ่มความตึงเครียด
วันนี้(4 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ในการแถลงข่าวประจำวันของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า สถานการณ์ในพื้นที่วันนี้ ตามที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานด้านความมั่นคงเหมือน ทุกครั้งเกี่ยวกับสถานการณ์การควบคุมด่านจุดผ่านแดนต่างๆ ในภาพรวมใน 2-3 วันที่ ผ่าน ยังคงเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ขอย้ำว่าการเพิ่มความเข้มข้นของจุดผ่านแดนในขณะนี้ เป็นมาตรการที่หน่วยงานในพื้นที่พิจารณาอย่างรอบคอบและโปร่งใสตามนโยบายที่ได้รับการมอบหมายจากศูนย์ ศบ.ทก.และคํานึงถึงชีวิตความเป็นอยู่และการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
“ไทยพร้อมปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความมั่นคงและความจําเป็นในแต่ละพื้นที่ต่อไป และทุกครั้งที่มีมาตรการใหม่หรือมีการปรับเปลี่ยนก็จะมีการสื่อสารไปยังประชาชนให้ทราบอย่างโปร่งใส ตามที่ทุกท่านคงได้เห็นจากการรายงานข่าวจากสื่อต่างๆ จากพื้นที่ก็จะมีการอนุโลมให้กลุ่มบุคคลผ่านแดนตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่จําเป็นต้องรักษาพยาบาลในฝั่งไทย แล้วก็นักเรียนนักศึกษาที่ต้องเข้ามาเรียนหนังสือ รวมถึงประชาชนทั่วไป ในชีวิตประจําวันของทุกท่านที่มีความจําเป็นที่จะต้องข้ามแดนมาจับจ่ายใช้สอย”
นางมาระตี กล่าวต่อว่า สําหรับวันนี้ที่เราเริ่มเห็นปรากฏการณ์เพิ่มเติม ได้รับ รายงานจากหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวกับการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ข้ามชาติมากขึ้น อาจจะเริ่มต้นด้วยการจับกุมอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก แต่เชื่อว่าจากการเพิ่มมาตรการในส่วนนี้เราอาจจะเห็นกิจกรรมในเรื่องนี้มากขึ้นยิ่งขึ้น
“เกี่ยวกับเรื่องนี้จะเกี่ยวกับมาตรการควบคุมผ่านแดน ขอย้ำอีกทีว่าเป็นหนึ่งในมาตรการที่ฝ่ายไทยดําเนินการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่งเป็นปัญหาระดับภูมิภาค ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนของทุกประเทศในภูมิภาค จริงๆ แล้วทั้งในภูมิภาคและนอกภูมิภาค ซึ่งฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้และขอความร่วมมือจากทุกประเทศในภูมิภาค เพื่อร่วมกันแก้ไขขจัดขบวนการอาชญากรรมเหล่านี้ให้หมดสิ้นไป”
นางมาระตี กล่าวต่อว่าสําหรับประเด็นที่ 2 เกี่ยวกับมาตรการเยียวยาประชาชนที่ทาง ศบ.ทก. ก็มีการติดตามในทุกครั้ง ได้มีการรายงานข่าวหรือปรากฏในสื่อต่างๆ ว่าฝ่ายกัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ขนส่งสินค้าจากไทยทุกประเภทตามจุดผ่านแดนต่างๆ ซึ่งรวมถึงจุดผ่านแดนที่ท่าเรือตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในชั้นนี้ฝ่ายไทยกําลังติดตามการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอยู่ เพื่อจะได้ประเมินในอนาคตว่าผลกระทบที่อาจจะมีต่อประชาชนของทั้ง 2 ฝ่ายมีอะไรบ้าง
“ในขณะนี้นะคะ ยังไม่มีความชัดเจน จริงๆ แล้วในการในเรื่องของการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวนะคะ ฝ่ายไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ขอยืนยันว่ามาตรการในลักษณะนี้จริงๆ แล้วจะเป็นการขยายปัญหาออกไปนะคะ โดยที่ไม่ได้คํานึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก และเป็นการสวนทางความพยายามของฝ่ายไทยที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ปัญหาความตึงเครียดระหว่างรัฐบาล 2 รัฐบาล มีผลกระทบต่อประชาชนของทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาลไทยยังคงมองว่าสถานการณ์ความตึงเครียดเป็นปัญหาระหว่าง รัฐบาลไม่ใช่ปัญหาระหว่างประชาชน”
นางมาระตี กล่าวต่อว่าสําหรับประเด็นที่ 3 ที่เกี่ยวกับการดําเนินการด้านการต่างประเทศขอยืนยันว่าฝ่ายไทยพร้อมเสมอที่จะเจรจากับฝ่ายกัมพูชาในทุกการเจรจาระดับทวิภาคี ฝ่ายไทยพร้อมทุกเมื่อด้วยความจริงใจด้วยความสุจริตใจ โดยยึดหลักการความเคารพซึ่งกันและกัน ตามหลักการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและที่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ
“สุดท้ายนี้นะคะ ขอความร่วมมือเช่นเคยนะคะ พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่าน ให้ระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ได้ตรวจทานตรวจสอบก่อนหรือขยายเนื้อหาหรือข่าวปลอมที่อาจมีผลปลุกระดมในขณะนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หรือความเสี่ยงที่จะเกิดให้มีประเด็นขัดแย้งกันเพิ่มเติม ระหว่างประชาชนเป็นการเฉพาะ ในส่วนของข้อมูลข่าวสารจากทางการไทยนั้นขอยืนยันว่าเรามีการตรวจสอบเรามีการประสานงาน และกลั่นกรองอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเข่าปลอมและข่าวบิดเบือน และจะเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ ด้วยความรับผิดชอบและโปร่งใส” นางมาระตี กล่าว