xs
xsm
sm
md
lg

รวบชาวเขมรลอบเข้าไทยขนซิมการ์ด 200 หมายเลขพร้อมเงิน 1 แสนดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





จันทบุรี-
องบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด รวบ ชาวเขมร ลอบเข้าไทยขนซิมการ์ด 200 หมายเลข  ออกด่านชายแดนจันทบุรีพร้อมเงินสด 1แสนบาทนำตัวดำเนินคดี ก่อนผลักดันออกนอกประเทศ คาดเอี่ยวขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติเร่งขยายผลเอาผิดร้านซื้อ–ขายซิมการ์ดในไทย พบเกี่ยวข้องเจอโทษหนัก

เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) หน่วยประสานงานชายแดนไทย–กัมพูชา กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้ทำการผลักดัน นายโสต ทู อายุ 44 ปี ชาวกัมพูชา กลับประเทศผ่านจุดด่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังถูกเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 521 บ้านแหลม จับกุมในข้อหาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา

การจับกุมดังกล่าวเกิดจากการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี (ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 / กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 524) ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบ้านแหลม และ สภ.บ้านแปลง ที่พบความผิดปกติขณะผู้ต้องหากำลังเดินผ่านประตูเล็กบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม เพื่อกลับประเทศ จึงขอตรวจค้นตัว



กระทั่งพบของกลางเป็น ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือเครือข่ายไทยจำนวน 200 เลขหมาย และเงินสดอีกจำนวน 100,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางไว้ตรวจสอบแหล่งที่มา เบื้องต้นพบว่าเป็นซิมการ์ดที่จดทะเบียนใน ประเทศไทย โดยไม่มีเอกสารประกอบชัดเจน


และหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลตรวจสอบร้านค้าบริเวณตลาดบ้านแหลม ที่คาดว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายซิมโทรศัพท์ให้แก่บุคคลต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย และจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดหากพบการกระทำผิดจริง รวมถึงพิจารณาสั่งปิดกิจการร้านค้าในพื้นที่ที่เข้าข่ายสนับสนุนการกระทำผิด

โดยเจ้าหน้าที่ยังได้แจ้งเตือนผู้ประกอบการร้านค้าว่า การซื้อ–ขายซิมการ์ดโดยไม่ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจถูกนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ การหลอกลวงประชาชน หรือแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้จำหน่าย ผู้ลงทะเบียน และผู้ใช้งานอาจมีความผิดตามกฎหมายหลายฉบับ

อาทิ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14(1)(2) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/1 และ 269/4 เกี่ยวกับการทำและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มีโทษจำคุก 1–7 ปี ปรับ 20,000–140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ








กำลังโหลดความคิดเห็น