เมืองไทย 360 องศา
มีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า นโยบายเติมเงินหนึ่งหมื่นบาทผ่าน “ดิจิทัล วอลเล็ต” ที่เป็นนโยบาย “เรือธง” ของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยมาถึงตอนนี้ น่าจะมีการแจกแค่ครั้งเดียว โดยแจกให้กับ “กลุ่มเปราะบาง” ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรคนพิการ จำนวนราว 14.5 ล้านคน ส่วนที่เหลือจะเป็นเฟสสอง หรือเฟสต่อไปจนถึงนาทีนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แจกหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบ แต่ยืนยันออกมาแล้วไม่มีแจกเฟสสองในปีนี้แน่นอน
สำหรับการแจกเฟสแรกกับกลุ่มเปราะบางจำนวน 14 ล้านคนดังกล่าว ใช้เงินงบประมาณจำนวน 1.4 แสนล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ ทั้งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รวมไปถึง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ระบุว่า จะเริ่มทยอยจ่ายเป็นเงินสด ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน เป็นต้นไป ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 4 วัน ขณะเดียวกันหากแจกเป็นเงินสดแล้วก็ไม่ถือว่าเป็น “ดิจิทัลวอลเล็ต” อีกต่อไป
ส่วนในเฟสต่อไปไม่ว่าจะเป็นเฟสที่สอง ที่สาม หรือที่สี่นั้น ถือว่าชัดเจนมาตั้งนานแล้วว่า โอกาสที่จะเกิดขึ้นแทบจะไม่มี เพราะหากฟังจากคำชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาวันแถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาของ นายพิชัย ที่ระบุอย่างชัดเจนว่า จะมีการนำงบประมาณไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต คนละ 10,000 บาท ในเฟสที่สอง ว่า การแจกเฟสสอง ที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง หรือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน เราต้องดูสองสามอย่าง ต้องดูความต่อเนื่องและต้องดูเวลาที่เหมาะสม ส่วนจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟสสอง ได้ภายในปีนี้หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ขอดูก่อน แต่ไม่น่าทันในปีนี้
เมื่อถามว่า งบประมาณที่เหลือจะใช้จากโครงการแจกเงินดิจิตอลวอลเล็ต จะเอาไปใช้ทำอะไร นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่ โดยเรื่องอะไรที่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศได้ เราก็จะทำ
เมื่อถามว่าจะนำไปใช้ในการลงทุนในระดับฐานรากหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ก็จะจัดเป็นโครงการที่สำคัญ สามารถที่จะลงไปต่อเนื่อง และเม็ดเงินลงไปได้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ นายพิชัย ได้ชี้แจงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา โดยระบุว่า จะสามารถแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต คนละ 10,000 บาท ระยะแรก สำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง หรือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ รวม 14.5 ล้านคน วงเงิน 1.45 แสนล้านบาท ในวันที่ 25 กันยายน 2567 แต่ที่รัฐบาลจะแจกในเฟสสอง ภายในไตรมาสสี่ ของปี 67 ที่จะใช้เงินในส่วนของงบประมาณในส่วนของงบกลาง ปี 68 รายการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท อาจจะนำไปใช้ในโครงการที่เป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนก่อน
แม้ว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังให้ความมั่นใจว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จะไม่ล้ม เพียงแต่ว่าต้องการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนก่อน และมีความพร้อมอยู่แล้ว และเพิ่งมีการตั้งรัฐบาล หลายอย่างต้องอาศัยการแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งวันนี้เรียบร้อยแล้วการขับเคลื่อนเรื่องนี้คงไม่ช้าแล้ว
ต่อมาวันที่ 17 กันยายน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมายจำนวน 14.5 ล้านคน เป็นเงินสดจำนวน 10,000 บาท จะเริ่มทยอยจ่ายเงินวันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
โดยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานกฤษฎีกา ธนาคารแห่งประเทศไทยและสภาพัฒน์ฯได้เห็นชอบในหลักการและเป็นไปตามกฏหมายทุกประการ ส่วนรายละเอียด เชิงลึก กระทรวงการคลัง จะเป็นผู้แถลง
“ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการทำเฟสแรกก่อน ส่วนเฟสที่สอง และต่อๆไป ขอให้กระทรวงการคลัง เป็นคนให้ในรายละเอียด” นายกฯ กล่าว
และในการแถลงของทีมกระทรวงการคลัง หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่นำโดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ชัดเจนว่า มีการเน้นย้ำถึงการแจกเงินหมื่นให้กับกลุ่ม “เปราะบาง” จำนวน 14.5 ล้านคน เท่านั้น โดยเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 25-30 กันยายนนี้ ส่วนเฟสต่อไป พวกเขาบอกว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพียงแต่ย้ำว่าต้องดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “ระบบการจ่ายเงิน” ที่ต้องใช้เวลา
เมื่อพิจารณาคำพูดและความเป็นจริงแล้ว คงพอมองภาพออกแล้วว่า คงจะมีการแจกเงินหมื่นเพียงแค่เฟสเดียวเท่านั้น โดยให้กับ “กลุ่มเปราะบาง” จำนวนกว่า 14 ล้านคนเท่านั้น ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่ลงทะเบียนเอาไว้จำนวนกว่า 35 ล้านคน โอกาสที่จะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเงินสด หรือแบบดิจิทัล วอลเล็ต แทบจะไม่มีเลย เพราะจากคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก่อนหน้านี้ ที่ย้ำว่าจะนำงบประมาณไปใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งด่วน เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนา และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน
ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณที่มีอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นงบรายจ่ายเพิ่มเติมปี 68 ที่ระบุว่ามีอยู่ราว 1.8 แสนล้านบาท ก็คงไม่เพียงพอกับจำนวนคนที่ลงทะเบียนเอาไว้กว่า 35 ล้านคน แม้ว่าในที่สุดจะเอามาหักกับกลุ่มเปราะบาง ที่มีความซ้ำซ้อนกันก็ตาม อีกทั้งยังตีบตันในเรื่องการจัดหางบประมาณเพิ่มเติม และยังติดขัดเรื่อง “ระบบการจ่ายเงิน” ที่ยังไม่มีการเริ่มเลย และต้องใช้เวลาต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย รวมไปถึงต้องเชื่อมโยงบัญชีกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องการโอนเงิน ทุกอย่างเป็นเรื่องซับซ้อนอ่อนไหว
เอาเป็นว่า จนถึงตอนนี้ทำให้เห็นชัดเจนแล้วว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต นั้นได้ล่มลงแล้ว ตั้งแต่การ “แจกเงินสด” จำนวนหมื่นบาทให้กับ “กลุ่มเปราะบาง” 14.5 ล้านคน ส่วนในเฟสสอง หรือเฟสต่อไป กลับไม่มีการพูดถึงอีกต่อไป ซึ่งรัฐบาลก็คงอ้างว่า ได้ทำตามคำแนะนำเสียงท้วงติงที่ไม่ให้แจกแบบ “หว่านแห” แต่ให้เน้นเฉพาะบางกลุ่มที่มีความจำเป็น ถือว่าได้ทำตามแล้ว !!