ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ ศาลรธน. ปิดกล่อง ไม่เปิดไต่สวนคดียุบก้าวไกล นัดชี้ชะตา 7 ส.ค.นี้
ได้เวลานับถอยหลังคดียุบพรรคก้าวไกล ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ผ่านมานั้น ศาลฯได้ให้คู่กรณี คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองในฐานะผู้ร้อง กับพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้อง ได้ยื่นข้อมูล เอกสาร หลักฐาน ให้ศาลฯ ประกอบการพิจารณา
โดยข้อมูลของทางฝ่าย กกต.ที่ยื่นไปนั้น ส่วนใหญ่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งปรากฏตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 คือ คดีที่พรรคก้าวไกล ยื่นแก้มาตรา 112 และนำไปเป็นนโยบายพรรคระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ เข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ขณะที่ พรรคก้าวไกลคาดหวังว่า ศาลฯจะมีการเปิดไต่สวน จึงได้เตรียมพยานปากสำคัญไว้ชี้แจงต่อศาลฯ โดยเฉพาะ “ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์” อดีต อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับกกต.ด้วย
แต่ล่าสุด เมื่อวานนี้ (17ก.ค.) หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุม ปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้ ก็มีความเห็นโดยสรุปว่า คดีนี้ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐาน เพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้แล้ว จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
หากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดี ก็ให้ยื่นเป็นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันพุธที่ 24 ก.ค. 67 ส่วนคำร้องที่คู่กรณียื่น ให้รับรวมไว้ในสำนวนคดี เพื่อประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป โดยศาลฯ กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันพุธที่ 7 ส.ค.67 เวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน
ถ้อยแถลง ไทม์ไลน์ จากศาลรัฐธรรมนูญ ทำเอาบรรดาแกนนำพรรคก้าวไกล ออกอาการผิดหวังไปตามๆ กัน
อย่างเช่น “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่า ในฐานะผู้ถูกร้อง เห็นว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่ไม่เปิดให้ไต่สวน ในมุมมองของเราเห็นว่า ข้อเท็จจริงมีปัญหา ควรเปิดไต่สวนให้ถึงที่สุดก่อน ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย เรายังมีความมั่นใจในข้อต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่เราต่อสู้ว่ากระบวนการยื่นคำร้องของ กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ พยานหลักฐานของ กกต. เป็นเครื่องตอกย้ำว่า กระบวนการยื่นคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร เรายังมั่นใจในข้อกฎหมายส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สิ่งที่พรรคก้าวไกลทำได้ คือ เตรียมแถลงปิดคดี ภายใน 24 ก.ค.นี้ เพราะไม่มีการไต่สวนหน้าบัลลังก์ จึงไม่มีการแถลงปิดคดีด้วยวาจา แต่ให้ส่งเป็นเอกสารไป
ในเมื่อทางฝ่ายพรรคก้าวไกล เตรียมสู้ในข้อกฎหมาย ที่ว่ากระบวนการยื่นคำร้องของ กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แถมยังบอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจยุบพรรค ...คือไม่สู้ในข้อเท็จจริงว่า การกระทำของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองหรือไม่
ทางด้าน “แสวง บุญมี” เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงอำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. เลขาฯกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง ต่อกรณีการยื่นยุบพรรคการเมืองในครั้งนี้ว่า
“เลขาฯกกต.” เป็นหัวหน้าหน่วยบริหารและธุรการของ กกต. เพื่อให้งานในหน้าที่และอำนาจของ กกต. สำเร็จตามที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตาม กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และมติกกต. ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการ กกต. ขึ้นตรงกับ กกต.
“นายทะเบียนพรรคการเมือง”เป็นคนคนเดียวกับเลขา กกต. ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง กกต.ไม่ใช่หัวหน้านายทะเบียนพรรคการเมือง และนายทะเบียนพรรคการเมือง ไม่ได้ตรงขึ้นตรงกับกกต. ต่างคนต่างเป็นอิสระ ต่างทำหน้าที่ตามที่กฎหมายให้ทำเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์กันในเชิงการบริหาร หรือธุรการแต่อย่างใด
การทำงาน/ความสัมพันธ์ กกต.และ เลขาฯกกต. "ทำงานร่วมกัน" ในทุกเรื่องเกี่ยวกับงานของ กกต. เพื่อเป้าหมายของงานในหน้าที่และความรับผิดชอบ ของกกต. ให้บรรลุผลสำเร็จ ตามฐานานุรูป ในตำแหน่งที่ดำรงอยู่ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง "ต่างคนต่างทำงาน" ไม่ขึ้นต่อกัน งานจะสัมพันธ์กันก็ต่อเมื่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองให้ต้องสัมพันธ์กัน กกต. จะมีมติให้ทำนายทะเบียนทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้
ตัวอย่างการทำงาน กกต.และเลขาฯกกต. อาทิ การเลือกตั้ง ส.ส. เลือกตั้งท้องถิ่นทุกประเภท งานประชามติ ฯลฯ กกต. เป็นผู้ออกระเบียบ ประกาศ ให้เลขาฯ ปฏิบัติ มีมติ ให้เลขาฯ ไปดำเนินการในงานข้างต้นได้ทุกเรื่อง เพื่อผลสำเร็จของงาน
กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง อาทิ การเสนอให้ยุบพรรคการเมือง กกต. ก็มีอำนาจเสนอให้ยุบพรรคโดยลำพังตาม มาตรา 92 แต่จะมามีมติ หรือสั่งให้นายทะเบียน พิจารณาดำเนินการเสนอยุบพรรค ตามมาตรา 93 ไม่ได้ เพราะมาตรา 93 เป็นอำนาจเฉพาะของนายทะเบียนพรรคการเมือง
"ดังนั้น การเสนอให้ยุบพรรคตาม มาตรา 92 หรือ 93 จึงไม่ใช่ทางเลือก หรือดุลยพินิจที่ กกต.จะเลือกเพื่อเสนอให้ยุบพรรคการเมือง ว่าจะใช้มาตราใด สำหรับพรรคใด แต่เป็นบทกฎหมายที่ให้อำนาจเสนอยุบพรรค แก่ 2 องค์กร คือ กกต. หรือ นายทะเบียนพรรคการเมือง และแต่ละองค์กรก็เป็นอิสระต่อกัน"
ด้วยข้อกฎหมาย เหตุผลข้างต้น ทั้งหลายทั้งปวง จึงเป็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องมาตรฐานหรือไม่มีมาตรฐาน แต่ประการใด
นั่นเป็นการกางข้อกฎหมายมายืนยันว่า เลขาฯกกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง มีอำนาจ หน้าที่ในการยื่นยุบพรรคได้
จะว่าไปแล้ว เรื่องยุบพรรคนี้ บรรดาแกนนำ และสส.พรรคก้าวไกล ทำใจมานานแล้วว่าคงไม่แคล้วแน่ๆ ถึงกับไปเตรียมพรรคสำรองไว้แล้ว แต่ที่พยายามขอให้เปิดการไต่สวน ก็แค่เป็นการยื้อเวลา เพื่อขยายผลในทางการเมืองเท่านั้น และเมื่อศาลฯ ไม่เปิดไต่สวนก็จะมีข้ออ้างออกมาโจมตีได้ว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างที่ควรจะเป็น
สุดท้าย สัญญาณที่ศาลรัฐธรรมนูญ ส่งออกมาว่า ตอนนี้กำลังพิจารณา “ข้อกฎหมาย” ส่วน “ข้อเท็จจริง” นั้นไม่สงสัยอะไรแล้ว
จึงต้องติดตามว่า วันชี้ชะตา 7 ส.ค.นี้ ที่ตรงกับวันพุธ ซึ่งโบราณว่าไม่ค่อยเหมาะที่จะทำเรื่องดีๆ แม้กระทั่งปลูกต้นไม้ยังไม่ทำกัน เพราะ “วันพุธ หัวกุดท้ายเน่า” ก็รอดูวันนั้น พลพรรคก้าวไกลจะได้เฮ... หรือได้ ฮือฮือ...
++ "หมอคางดำ"ถึงทำเนียบฯ "เศรษฐา" ประกาศทำสงคราม "ลุงปลอด" ไอเดียกระฉูด ขุดหากระดูกตรวจ DNA พิสูจน์ปลาเอเลี่ยน หลุดมาจากไหน !?
ปลาหมอคางดำ วันนี้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ถึงทำเนียบเรียบโร้ย
“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี สั่งการเร่งด่วนจัดการกับปลาเอเลี่ยนสปีชีย์นี้ให้จงได้ ก่อนที่การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพังพินาศ
นายกฯจริงจังขั้นสุดแค่ไหน ก็ต้องบอกว่าจัดเป็น "แผนปฏิบัติการ" กันเลยทีเดียว
แผนดังกล่าว ประกอบด้วย 5 มาตรการ 12 กิจกรรม โดยมุ่งกำจัดปลาหมอคางดำ ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ด้วยเครื่องมือและวิธีการต่างๆ ปล่อยลูกพันธุ์ "ปลาผู้ล่า" เช่น ปลากะพงขาว
นำปลาหมอคางดำที่กำจัดได้ ไปใช้ประโยชน์ เน้นการจัดหาแหล่งกระจายและรับซื้อ เบื้องต้นตั้งราคา
ไว้ที่15 บาท ต่อกิโลกรัม
เรียกว่า ประกาศสงครามกับ หมอคางดำ เต็มสูบ
ผลของสงครามจะได้ดังหวัง ตามหมอคางดำทันหรือไม่ ก็ต้องรอดูกัน
แต่ที่แน่ๆ ที่ผ่านมาน่าตกใจ โดยจากจะข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 จากการดำเนินการการควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำ จากแหล่งน้ำธรรมชาติทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด พบว่า กำจัดปลาหมอคางดำไปแล้ว 623,370 กิโลกรัม
ความที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เกิด "ดรามา" หมอคางดำ หลุดมาจากไหน!?
“ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ” ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ พูดถึงประเด็นที่ถูกเชื่อมโยงถึงการแพร่ระบาดของปลาเอเลี่ยน ว่า ซีพีเอฟ นำเข้าลูกปลาหมอคางดำมาในไทย เมื่อปี 2553 จำนวน 2,000 ตัว แต่เมื่อปลามาถึง มันอ่อนเพลียเหลือรอดแค่ 600 ตัว เลี้ยงแล้วไม่ดี ก็เลิกโครงการนี้ไป ในช่วงม.ค.ปี 2554
ผ่านมา 14 ปี ปลาลอตนั้นมันคงไปสวรรค์ หรือไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แล้วที่มันมาระบาดตอนนี้ มันจะมาเกี่ยวอะไรกับเรา !?
CPFเป็นบริษัทใหญ่ ทำอะไรก็ต้องมีขั้นตอน การนำเข้ามาเราเป็นรายเดียวที่มีเอกสารในการนำเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ไม่รู้ว่ามีใครที่นำเข้าอีกบ้าง และเข้ามาเยอะแค่ไหน ปลาชนิดนี้เคยนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม
ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ ยังบอกว่า หมอคางดำ เลี้ยงเพื่อส่งออกปีละ 5-6 หมื่นตัว ยังมีคนที่เลี้ยงแล้วเบื่อเอาไปทำอะไรกันบ้างก็ไม่รู้ !?
ปริมาณมีเป็นแสนตัว เหมือนปลาซัคเกอร์ ที่คนนำมาเลี้ยงพอมันโต ก็นำไปปล่อยทิ้ง
สรุปว่า ถ้าถามว่าปลาหมอมันมาจากไหน ก็มาจากตรงนี้แหละ แต่ไม่มีหลักฐาน
ขณะที่ "ลุงปลอด" ปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะอดีตอธิบดีกรมประมง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ในหัวข้อ "จับผิดปลาหมอคางดำ ง่ายนิดเดียว" โดยระบุว่า CPF ผู้นำเข้าแจ้งว่า ปลาอ่อนแอ จึงเลิกการทดลอง จากนั้นทำลายจนตายเกลี้ยง แล้วส่งตัวอย่างปลาที่ตายแล้ว 50 ตัว ดองฟอร์มาลีนในโถ 2 ใบ ส่งให้กรมประมง
แต่ กรมประมง ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ไม่เคยได้รับตัวอย่างดังกล่าว
ว่าแล้ว “ลุงปลอด” มีข้อเสนอว่า ในเมื่อตัวอย่างปลา 50 ตัวหายไป การตรวจ DNA ทำไม่ได้ จึงเหลือทางออก 2 ทางไปขุดตรงจุดที่อ้างว่า ฝังกลบแล้วเอากระดูกมาตรวจ DNA
และ ตามไปที่ต้นทาง ในประเทศกานา ผมเชื่อว่า ต้นทางจะมีข้อมูล DNA แน่นอน
“ลุงปลอด” ตบท้ายด้วยว่า ความจริงมีหนึ่งเดียว ประเดี๋ยวก็รู้ว่า ใครเบี้ยว!
งานนี้ ตราบเท่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำยังหยุดไม่ได้ เอาไม่อยู่ ก็เชื่อว่า จะมีดรามา สงครามน้ำลาย ระหว่างคนให้ชมกันอีกเยอะ.. โปรดติดตามกันต่อไป