“เชาว์ มีขวด” จวก “หมอเกศ” หยุดส่งทนายขู่ฟ้องหมิ่นประมาท ปิดปากประชาชน ชี้ ส.ว.เป็นบุคคลสาธารณะ ต้องตรวจสอบได้ แนะใช้โอกาสสังคมสนใจพิสูจน์ตัวเอง
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เรื่อง ส.ว.ต้องตรวจสอบได้ หยุดปิดปาก ปชช.มีเนื้อหาระบุว่า เรียกว่า อยู่ในความสนใจของสังคม นับตั้งแต่ก้าวแรกที่มีการประกาศผลเลือก ส.ว. ที่ปรากฏชื่อ หมอเกศ เกศกมล เปลี่ยนสมัย เริ่มจากคะแนนพุ่ง ออราแรง จากการจัดเต็มทั้งเรื่องใบหน้าและเครื่องแต่งกาย กลายเป็นว่าที่ ส.ว.ที่ผู้คนให้ความสนใจ ยิ่งปรากฏพิรุธข้อสงสัยหลายเรื่องเกี่ยวกับวุฒิการศึกษา การใช้คำนำหน้าว่าศาสตราจารย์ โดยอ้างว่า ได้มาจากต่างประเทศ ขอใช้ในไทยด้วย ไม่สน ไม่แคร์ แม้ทั้ง ก.พ.และ อว.จะออกมาบอกว่า มหาวิทยาลัยในต่างแดนที่จบมานั้นไม่ได้รับการรับรอง รวมถึงตำแหน่งศาสตราจารย์ด้วย ยิ่งเมื่อผ่านการรับรองจาก กกต.เป็น ส.ว.แล้ว สปอตไลต์ก็จับไปที่หมอเกศมากขึ้น พร้อมๆ กับความคลางแคลงใจของสังคมต่อความรู้ความสามารถก็มากขึ้นตามไปด้วย การขุดคุ้ยจึงมีออกมาแทบจะรายวัน ซึ่งหมอเกศควรจะขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ เพราะอีกมุมหนึ่งคือโอกาสแจ้งเกิด ถ้าตอบคำถามได้ แสดงภูมิรู้ให้ผู้คนยอมรับก็มีแต่ผลดีต่อตัวเอง แต่ที่มีผลลบตามมามาก โทษใครไม่ได้ต้องย้อนมองความไม่พร้อมของตัวเองมากกว่าหรือไม่ ถ้าจะพิสูจน์ก็ต้องแสดงให้เห็นว่ามีดีอะไร ไม่ใช่ไปจ้างทนายมาขู่ฟ้องชาวบ้านเพื่อปิดปาก นี่ไม่ใช่วิสัยที่บุคคลสาธารณะพึงจะมี
นายเชาว์ ระบุด้วยว่า การที่นางสาวเกศกมล มอบให้ทนายความออกมาข่มขู่ว่าจะฟ้องหมิ่นประมาทคนที่วิพากษ์วิจารณ์ คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่าต้องการปรามสื่อโซเชียลที่กำลังขุดคุ้ย ประวัติส่วนตัวโดยเฉพาะคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็น ส.ว. แม้กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ ว่า ต้องจบการศึกษาระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอก ก็ตาม แต่ถ้ามีการอ้างคุณสมบัติเฉพาะตัวเหล่านี้ต่อสาธารณะที่ไม่เป็นความจริง หรือไม่น่าเชื่อถือ ก็เป็นความชอบธรรมที่จะถูกตรวจสอบจากสาธารณะได้ เพราะถ้าทำให้เกิดความเข้าใจผิด ก็จะเข้าข่ายความผิดกฎหมาย ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.
“ผมจึงเห็นว่า การที่สังคมสังคมกำลังเดินหน้าขุดคุ้ยและตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว รวมทั้งประวัติการศึกษาของนางสาวเกศกมล ซึ่งมีสถานะเป็นสมาชิกวุฒิสภา ถือเป็นบุคคลสาธารณะที่จะต้องถูกตรวจสอบจากประชาชนได้ ถ้าแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทครับ ไม่ต้องไปกลัวคำขู่ คนที่ควรหุบปากคือคนที่เกาะ โหนกระแสเคสนี้ทำมาหากินมากกว่า” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย
