สามขุนคลัง เรียงหน้าแจงกลางสภา ยัน แม้งบรายจ่ายปี 2568 จะจัดงบแบบขาดดุล แต่ยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่เข้มแข็ง ปัดเสียหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โต้ฝ่ายค้านไม่จริง กุ 7 ข้อครหาใช้งบ
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายพิชัย ชุณหวชิระ รมว.คลัง ชี้แจงว่า แม้งบรายจ่ายปี 2568 จะจัดงบแบบขาดดุล แต่ยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่เข้มแข็ง ขณะนี้กำลังซื้อภาคครัวเรือนมีปัญหา โดยเฉพาะยอดซื้อรถยนต์นั่ง รถจักรยานยนต์ รถบรรทุกที่เป็นเครื่องมือทำมาหากิน มีกำลังซื้อลดลง เพราะภาคครัวเรือนไม่มีกำลังจัดซื้อ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเกษตรก็หดตัวลง เป็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน หนี้ภาคครัวเรือนสูงกว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นหนี้จากที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ ส่อแนวโน้มเป็นเอ็นพีแอล เมื่อภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรมมีปัญหา รัฐบาลก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การผลิตภาคอุตสาหกรรม เริ่มมีสัญญาณทางบวกด้านการส่งออก เป็นผลจากการอัดฉีดงบเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น ดังนั้น จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จะช่วยในเรื่องการกระตุ้นให้เกิดกำลังซื้อในการบริโภค และกำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นการกระตุ้นในจังหวะที่เหมาะสม รัฐบาลวิเคราะห์เศรษฐกิจทุกมิติ พร้อมแก้ปัญหาระยะสั้นเรื่องปากท้อง และระยะยาวเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจ จะใช้งบประมาณให้สอดคล้องกับนโยบายการเงินการคลัง พาประเทศไปสู่การเติบโตที่สูงชึ้นกว่าในอดีต และสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ควบคู่ไปกับการรักษาความยั่งยืนทางการคลัง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า เรื่องเสียหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีแน่นอน เพราะไม่ใช่โครงการพรรคใด แต่เป็นโครงการรัฐบาล ยืนยันทำได้ และต้องทำก่อน รัฐบาลเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ ให้ประชาชนมีเงินไปต่อยอดในอาชีพ ดังนั้น คำว่าคิดไปทำไปจึงไม่ใช่ เรารับมรดกมาจากรัฐบาลก่อนหน้าในหนี้ครัวเรือนระดับ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ต่างๆ เป็นข้อเสนอจากหน่วยงานที่เราต้องรับฟัง บางอย่างต้องถอย เพื่อเดินหน้าโครงการ ไม่ใช่การไม่รอบคอบ แต่เป็นการคิดนอกกรอบ เป็นโครงการให้คน 50 ล้านคน มาลงทะเบียนกับรัฐ เพื่อยืนยันตัวตน เพื่อไปใช้บริการของรัฐได้ทุกประเภทในอนาคต ไม่ต้องเสียเวลาไปยังหน่วยงานของรัฐเพื่อรับบริการในธุรกรรมต่างๆ และเป็นกลไกช่วยลดบุคลากรภาครัฐได้ ส่วนการกู้ที่เพิ่มมากขึ้นนั้นเป็นแค่การกู้ชั่วคราว เพื่อมาดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สิ่งที่กลัวว่า หากเกิดวิกฤตอีกจะกู้ไม่ได้แล้วนั้น เข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะยังมีกฎหมายรองรับไม่ว่าจะเกิดวิกฤตใดขึ้น วันนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดีนัก จึงต้องใช้พื้นที่ทางการคลังนี้ลงไป เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤต และเติบโตในจุดเหมาะสม จะปล่อยให้เศรษฐกิจไปถึงจุดตกต่ำ อาจจะต้องใช้เงินมหาศาลไปแก้ปัญหามากกว่านี้
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ชี้แจงว่า มีความจริงที่ฝ่ายค้านพูดไม่หมด 7 เรื่อง คือ 1. การบอกว่ารัฐบาลมีวิสัยทัศน์สั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง ต้องยอมรับเศรษฐกิจประเทศมีปัญหา ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ 2. หนี้สาธารณะประเทศ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ มีปัญหา แต่ความจริง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ เป็นหนี้สาธารณะที่ไม่เป็นภาระต่อรัฐบาล 3. การเสพติดการขาดดุลงบประมาณ แม้ปีนี้จะขาดดุลงบประมาณสูง แต่การขาดดุลจะลดลงในปีต่อๆ ไป ไม่ใช่การเสพติด ถ้าเสพติดจะเพิ่มขึ้นทุกปี 4. รัฐบาลสร้างหนี้แต่ชำระเงินต้นน้อย ความจริงงบปี 2568 ชำระหนี้เงินต้น 1.5 แสนล้านบาท ถือว่าชนเพดาน ไม่สามารถชำระเงินต้นได้สูงกว่านี้อีกแล้ว 5. ภาระดอกเบี้ยที่รัฐบาลชำระน้อย งบรายจ่ายปี 2568 ตั้งงบชำระดอกเบี้ย 2.6 แสนล้านบาท เพื่มขึ้นจากปีก่อน 3 หมื่นล้าน 6. รัฐบาลตั้งตัวเลขจีดีพีสูงเกินจริง ซึ่งไม่เป็นความจริง 7. ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นพายุหมุนไปสู่หลุมดำ เพราะมีสินค้าจากจีนเข้ามาดูดพายุหมุน แต่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้ใช้จ่ายแบบ Face to Face ไม่สามารถใช้จ่ายผ่านทางออนไลน์ได้ ขอให้ไปศึกษาข้อมูลมาให้ดี