ข่าวปนคน คนปนข่าว
** เบื้องหลัง“กฤษฎา”ไขก๊อก รมช.คลัง น้อยใจแบ่งให้ดูแลแค่หน่วยงานเดียว “สุพัฒนพงษ์” เท รทสช.
“ครม.เศรษฐา 1/1” เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้ว แต่ก็ยังไม่นิ่ง เมื่อ “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” คนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง รมช.คลัง
ด้วยเหตุผล “น้อยใจ” หลังจาก “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังคนใหม่ แบ่งงานให้กำกับดูแลส่วนราชการของกระทรวงการคลัง เพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้น คือ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)
นอกนั้นเป็นรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงการคลัง ได้แก่ การยาสูบแห่งประเทศไทย สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ.
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ช่วงที่นายกฯ“เศรษฐา ทวีสิน” นั่งควบรมว.คลัง มี รมช.คลัง เพียง 2 คือ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์”และ “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” โดย “กฤษฎา”มีอำนาจสั่งการ กำกับดูแล กรมบัญชีกลาง, กรมสรรพสามิต, สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์), บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.), องค์การสุรา, การยาสูบแห่งประเทศไทย และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ส่วน “จุลพันธ์” กำกับดูแล กรมสรรพากร, กรมธนารักษ์, สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิม แบงก์) บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด
เมื่อ “เศรษฐา” ลุกออกจากเก้าอี้ รมว.คลัง แล้วให้ “พิชัย ชุณหวชิร” มานั่งแทน พร้อมตั้ง “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” มาเป็นรมช.คลัง เพิ่มอีกคนหนึ่ง รวมแล้วมี รมช.คลัง ถึง 3 คน
“เผ่าภูมิ” ผู้มาใหม่ ได้กำกับดูแล สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ, กรมธนารักษ์ ,ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์, เอ็กซิมแบงก์, กองทุนการออมแห่งชาติ , บสย. และ เอสเอ็มอี แบงก์
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ “กฤษฎา” น้อยใจ จนต้องไขก๊อกได้อย่างไร ?
ในช่วงก่อนปรับครม. คนในพรรครวมไทยสร้างชาติก็วิ่งกันวุ่นมารอบหนึ่งแล้ว มีชื่อ “ธนกร วังบุญคงชนะ” สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค รทสช. ว่าจะได้มานั่ง รมช.คลัง แทน “กฤษฎา” แต่สุดท้ายก็วืด!!
ขณะที่ “กฤษฎา”แม้จะรักษาเก้าอี้ไว้ได้ แต่ก็ถูกริบหน่วยงานที่เคยกำกับดูแลไปเกือบหมด เหลือไว้ให้แค่หน่วยงานเดียว นี่มันบีบกันชัดๆ
แม้แต่“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี พอรู้ข่าว ยังฟันเปรี้ยงว่า สาเหตุคงมาจากความไม่พอใจเรื่องแบ่งงาน จึงได้โทรศัพท์ไปหา “รมช.กฤษฎา” บอกขอระงับใบลาออกไว้ก่อน ใจเย็นๆ ซึ่ง “กฤษฎา” หัวเราะ พร้อมบอกว่า... ขอคิดดูก่อน!!
ส่วนจะต้องแบ่งงานกันใหม่หรือไม่ นายกฯบอก ว่า...ต้องให้เกียรติรัฐมนตรี ท่านแบ่งงานไว้ ซึ่งมันมีงานเพิ่มอีกเยอะ งานบางอย่างไม่ได้ระบุไว้ทั้งหมด มีโปรเจกต์เยอะไปหมด ที่ต้องช่วยกัน และเชื่อว่า รมว.คลัง เหลือขอบเขตงานไว้ใช้ และแบ่งให้กับ “รมช.กฤษฎา” ซึ่งท่านก็เป็นอดีตปลัดกระทรวงการคลัง ที่สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ได้ดี และคงไม่มีปัญหาเพราะการแบ่งงาน มีแพลนอยู่แล้ว คุยกันล่วงหน้าอยู่แล้ว ว่าทำไมถึงแบ่งงานอย่างนี้ และทำไมจึงต้องเหลือบางพื้นที่ ให้ “รมช.กฤษดา” ได้ทำงาน ในแง่ของโปรเจกต์ ที่มีอยู่อีกจำนวนมาก ที่สามารถทำได้
ถ้อยคำที่ตอบ ออกในเชิงแบ่งรับแบ่งสู้ แถมวกวนจนตีความยากว่าจะเอาไงแน่ จะลงมาล้วงลูกหรือไม่!!
ขณะที่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)บอกในตอนที่นักข่าวถามว่า... ยังไม่ทราบเรื่อง เพราะเพิ่งประชุมเสร็จ แต่ถ้า“กฤษฎา” ลาออก ก็หาคนอื่นแทน ก็แค่นั้น ไม่ตกใจ เพราะในทางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคนออกไป ก็ต้องหาคนมาแทน เท่านั้นเอง แต่โควตารัฐมนตรียังเป็นของพรรค รทสช.
ความปั่นป่วนในพรรค รทสช. ยังไม่หมดแค่นี้ เมื่อ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน และ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. ก็ได้ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคด้วยเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า มีภารกิจส่วนตัวหลายประการ จึงขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และตำแหน่งอื่นๆในพรรครทสช. ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.67 เป็นต้นไป
“พีระพันธุ์” ยังคงยืนยันว่า การลาออกของทั้งสองคน เป็นเรื่อองปกติทางการเมือง ไม่ทำให้พรรคสะเทือน
ก็ต้องจับตาว่า“เศรษฐา” จะเบรก“กฤษฎา” ไว้อยู่หรือไม่ และจะต้องมีการเกลี่ยงานในกระทรวงการคลัง กันใหม่หรือไม่
** ปารีณา VS ทนายจุ๊กกรู ร่วมด้วยช่วยขขยายปม “โน้ส อุดม”
“โน้ส” อุดม แต้พานิช และ เน็ตฟิกส์ ดรามาไม่พักจริงๆ
กระแสที่แรงและแรงโปรโมตหลายคนว่า เกิดจาก “โน้ส อุดม”เจตนาตั้งแต่คิดมุกไปจนทำคอนเทนต์ แขวะคนชัง “คืนจาน คืนกล่อง” ไล่หลังดรามา และ เน็ตฟิกส์ผสมโรง ซึ่งมองมุมไหนทั้ง โน้ส และสตรีมมิ่งออนไลน์ยักษ์ใหญ่มีแต่ยิ้มอ่อนๆได้ กับได้
ล่าสุด ดรามา “โน้ส-เน็ตฟิกส์” ได้ดึงดูดดาวโซเชียลฯ อย่าง “ทนายจุ๊กกรู” หรือ “ทนายเดชา” เดชา กิตติวิทยานันท์ กับ “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี มาปะทะกันในความเห็นต่าง กรณีพฤติการณ์ของ โน้ส และเน็ตฟิกส์ เข้าข่ายผิด ม.112 หรือไม่?
“เอ๋-ปารีณา” เคลื่อนไหวก่อนโดยโพสต์เฟซบุ๊ก “# นอนไม่หลับ จริงๆ อยากจะพัก แต่มันทนไม่ไหวจริงๆ ยอมรับเคยชื่นชอบ แต่การเอาเบื้องสูงมาหากิน คือสารเลว
คืนนี้ ปารีณามาดำเนินคดีไอ้จมูกโต ตามมาตรา 112 ที่ สภ.โพธารามค่ะ #ขอให้ศาลสูงพิพากษาจำคุก #ขอให้ศาลเตี้ยลงประชาทัณฑ์”
พร้อมกับภาพเจ้าตัวนั่งแจ้งความที่สถานีตำรวจ กลายเป็นประเด็นให้โลกโซเชียลฯ ได้พูดถึงสนั่นลั่นทุ่ง
จากที่ “ปารีณา” จัดให้ “โน้ส อุดม” เจ้าตัวไม่ทันแก้ต่าง "ทนายเดชา" ก็ไลฟ์ ผ่านเฟซบุ๊กทนายคลายทุกข์ พร้อมระบุข้อความว่า...#โน้ส อุดม ไม่มีความผิดตาม มาตรา 112 ข้อหาหมิ่นสถาบันแต่อย่างใด ไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ที่ปรากฏว่า โน้สอุดม ทำผิดมาตรา 112
ดังนั้น บุคคลใดที่ไปร้องตรวจสอบ หรือร้องทุกข์ต้องระมัดระวังอาจมีความผิดฐานแจ้งความเท็จได้
ถ้าข้อความที่ไปแจ้งความนั้นบิดเบือน ผิดไปจากความจริงโทษจำคุก 5 ปีนะครับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 มาตรา 173 มาตรา 174
หาก “โน้ส อุดม” มีความผิดตาม มาตรา 112 netflix ก็จะมีความผิดด้วย เพราะเป็นคนเผยแพร่ พี่น้องประชาชนที่ไปแสดงความคิดเห็น หรือไปกดไลค์ กดแชร์ ก็จะมีความผิดไปด้วย น่าจะมีคนติดคุกเกิน 10 ล้านคน มั้งครับในโซเชียล 555 ”
“ทนายจุ๊กกรู” ไม่ได้เอ่ยชื่อคนฟ้องโน้ส แต่ก็รู้กันว่า หมายถึง “เอ๋-ปารีณา”นั่นเอง ซึ่งต่อมา ปารีณาได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อีกครั้ง ว่า“เมื่อทนายเดชาเข้าใจว่า #ประเด็นดัง! ไม่เข้าข่าย มาตรา 112 ถือเป็นความคิดเห็นตาม มาตรา 329 ออกโรง ออกตัว มาป้องแบบนั้น ไม่ว่ากัน
ขณะเดียวกัน มีคนอีกจำนวนมาก เข้าใจว่าเข้าข่าย...และรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของศิลปิน ไม่ควรไปว่า หรือขู่ เพราะเป็นความเห็นตาม มาตรา 329 เช่นเดียวกัน
อะไรก็ตามแต่…เบื้องสูงเกิดความเสียหาย จึงขอให้มันจบที่ศาลนะคะ #ทนายเดชา #ทนายคนดีที่เห็นต่างกันกับ ปารีณา #พ่ออยู่บนสวรรค์ #รักพ่อปกป้องพ่อ เพราะศิลปินที่ดี ต้องไม่หากินแบบนี้ มิฉะนั้น อาจเป็นเยี่ยงอย่างศิลปินรุ่นน้อง ที่อยากดัง ปารีณา เตรียมดำเนินคดี netflix ต่อนะคะ”
งานนี้ระหว่าง “ปารีณา”กับ “ทนายจุ๊กกรู” ใครจะเชียร์ใครก็เลือกเอาตามอัชฌาศัย...และ คงต้องดูว่า สารตั้งต้นแห่ง ดรามาอย่าง “โน้ส อุดม” จะเป็นอย่างไรต่อไป...โปรดติดตาม!!