xs
xsm
sm
md
lg

ศาล ปค.สูงสุด สั่ง ผอ.เขตหลักสี่ คุมเข้มคอนโดแอสปาย ปฏิบัติตามมาตรการ EIA เคร่งครัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาลปกครองสูงสุด สั่ง ผอ.เขตหลักสี่ ควบคุมโครงการอาคารชุด แอสปาย งามวงศ์วาน ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามที่กำหนดไว้ใน EIA อย่างเคร่งครัด

วันนี้ (1 พ.ค.) ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อให้โครงการอาคารชุด แอสปาย คอนโดมิเนียม งามวงศ์วาน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมตาม EIA อย่างเคร่งครัด ทั้งในช่วงก่อสร้างและช่วงเปิดดำเนินโครงการ

คดีดังกล่าวสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 39 คนยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการเขตหลักสี่, สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, บริษัท เดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และการบริการชุมชน เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-6 ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารและเพิกถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการอาคารชุด แอสปาย คอนโดมิเนียม งามวงศ์วาน และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3ปฏิบัติหน้าที่โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ EIA ให้ครบถ้วน กับให้ชดใช้ค่าเสียหาย

ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยดังกล่าวระบุว่า รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการอาคารชุด แอสปาย คอนโดมิเนียม งามวงศ์วาน มีรายละเอียดที่ครอบคลุมสาระสำคัญตามแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 16มิ.ย. 52 มิถุนายน ๒๕๕๒ การที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และการบริการชุมชนได้มีมติให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างอาคารโดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 39 ทวิ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 (แบบ กทม ๖) เลขที่ 121/2554 ลงวันที่ 3 มี.ค. 54 ให้แก่บริษัท เดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด นั้น เป็นกรณีที่ไม่ขัดต่อข้อกำหนดเกี่ยวกับความสูงของอาคาร ตามข้อ 44 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ด้วยเหตุนี้ การออกใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างอาคารในกรณีดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว

อย่างไรก็ตาม โดยที่มาตรา 50 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ที่มีผลใช้บังคับในช่วงเวลาขณะเกิดกรณีพิพาท ได้บัญญัติให้เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายในการพิจารณาสั่งอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาต นำมาตรการตามที่เสนอไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการสั่งอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาตโดยให้ถือว่าเป็นเงื่อนไขที่กำหนดตามกฎหมายในเรื่องนั้นด้วย

การที่บริษัท เดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ไม่ปฏิบัติตามข้อ 11 ของใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างอาคาร เลขที่ 121/2554 ลงวันที่ 3 มี.ค. 54 ที่ให้ผู้ยื่นแจ้งฯ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและแผนการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ได้รับความเห็นชอบจาก
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

จึงต้องถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการสั่งอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารตามใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างอาคาร และถือเป็นเงื่อนไขที่กำหนดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ด้วย เมื่อผู้สั่งอนุญาตให้บริษัท เดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ก่อสร้างอาคารโดยมีเงื่อนไข ได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตนเองได้นำไปกำหนดไว้ในการอนุญาตครั้งดังกล่าวและยังถือเป็นเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด จึงมีหน้าที่ในการพิจารณาทบทวนการอนุญาตครั้งนั้นว่ายังมีความถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่ปรากฏว่า ได้มีการพิจารณาทบทวนการออกคำสั่งอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารครั้งดังกล่าว และการที่ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ปล่อยปละละเลยให้บริษัท เดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ตามมาตรา 40 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งที่ผู้อำนวยการเขตหลักสี่อยู่ในวิสัยที่สามารถจะใช้มาตรการบังคับทางปกครองเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของตนได้ เนื่องจากการดำเนินการก่อสร้างอาคารชุดของบริษัท เดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นโครงการขนาดใหญ่ภายในพื้นที่ที่มีขอบเขตที่จำกัดบริเวณแน่นอน และเป็นการดำเนินการที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 การที่ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ควบคุมและระงับยับยั้งการก่อสร้างอาคารโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือฝ่าฝืนต่อเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ มิได้ใช้มาตรการทางปกครองอย่างครบถ้วน ทั้งที่อยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการให้การควบคุมอาคารและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมนั้นสัมฤทธิ์ผลได้ตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย แต่กลับปล่อยให้เกิดการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน กรณีจึงพิจารณาได้ว่า ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติแล้ว ทั้งนี้ ความเสียหายตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้าง เป็นผลที่ไกลเกินกว่าเหตุจากการที่ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ดังนั้น ผู้อำนวยการเขตหลักสี่จึงมิได้กระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงไม่อาจเรียกร้องค่าเสียหายในกรณีนี้จากกรุงเทพมหานคร ได้แต่อย่างใด

พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เป็นให้ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ใช้อำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 เพื่อให้บริษัท เดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ดำเนินการก่อสร้างโครงการอาคารชุด แอสปาย คอนโดมิเนียม งามวงศ์วาน โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และการบริการชุมชนในการประชุมครั้งที่ 59/2553 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 53 อย่างเคร่งครัด ทั้งในช่วงก่อสร้างและช่วงเปิดดำเนินโครงการ


กำลังโหลดความคิดเห็น