ศาลปกครองแจงผลคำพิพากษา 2 คดีแอชตัน อโศก หลังสื่อนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อน คดีแรกชี้ผลเพิกถอนใบรับหนังสือและใบรับแจ้งก่อสร้าง หรือรื้อถอนอาคารทันที แต่ยื่นอุทธรณ์ต่อคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา คำพิพากษาคดีนี้จึงยังไม่ถึงที่สุดและยังไม่มีการบังคับคดี
วันนี้ (14 มี.ค.) สำนักงานศาลปกครอง ชี้แจงกรณีสื่อนำเสนอบทความเกี่ยวกับโครงการแอชตัน-อโศกของ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด โดยมีข้อความบางตอนว่า นายประวิตร บุญเทียม ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นในศาลปกครองสูงสุด ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองประธานศาลปกครองสูงสุด แสดงความคิดเห็นว่า การบังคับคดีเป็นเรื่องที่กรุงเทพมหานครจะต้องไปดำเนินการตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ดังนั้น อีก 3 เดือน ต่อจากนี้จะครบกำหนดตามคำพิพากษาที่กรุงเทพมหานคร บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จะเร่งแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามกฎหมาย หากหาทางออกไม่ได้กรุงเทพมหานครมีหน้าที่บังคับให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยการรื้อถอนส่วนของอาคารที่สูงเกินกว่าความกว้างของถนนให้เสร็จภายใน 90 วัน ว่า ข้อความในบทความดังกล่าวไม่ได้มาจากการแสดงความคิดเห็นของนายประวิตร แต่อย่างใด อีกทั้งข้อความดังกล่าวบางส่วนไม่ตรงกับผลแห่งคำพิพากษา โดยคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวกับโครงการแอชตัน-อโศกนั้น 1. คดีหมายเลขแดงที่ อส.188/2566 ของศาลปกครองสูงสุด เป็นคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับพวกรวม 16 คน ฟ้องผู้อำนวยการเขตวัฒนากับพวกรวม 6 คน ศาลปกครองสูงสุดโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่เพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์และใบรับแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคารที่ออกให้แก่ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ผู้ร้องสอด โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือฉบับดังกล่าว คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดจึงมีผลเป็นการเพิกถอนใบรับหนังสือและใบรับแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคารทันที โดยศาลไม่ต้องดำเนินการบังคับคดี ส่วนการดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหก และหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522
2. คดีหมายเลขแดงที่ 2413/2565 ของศาลปกครองกลาง เป็นคดีที่สยามสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 3 คน ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และหรือผู้อำนวยการเขตวัฒนา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ใช้อำนาจตามมาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 พ.ร.บควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แล้วแต่กรณี ดำเนินการต่อ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ผู้ร้องสอดที่ 1 สำหรับกรณีที่ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 42 ในการออกคำสั่งให้รื้อถอน ให้ดำเนินการเฉพาะแต่ส่วนของอาคารที่ได้ก่อสร้างโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือ ในส่วนของอาคารที่สูงเกินกว่าความกว้างของทางจำเป็น 6.40 เมตร ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน ทั้งนี้ นับแต่วันที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ผู้ร้องสอดที่ 1 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ผู้ร้องสอดที่ 2 ไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคารพิพาทให้เป็นตามข้อ 2 วรรคสอง ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ซึ่งคดีดังกล่าว ผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม และผู้ร้องสอดที่ 1 ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด คำพิพากษาคดีนี้จึงยังไม่ถึงที่สุดและยังไม่มีการบังคับคดีโดยจะต้องรอการบังคับคดีไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด