“สามารถ” มอง “เพื่อไทย” หวังดึงเวลาตัดสิน “ยุบก้าวไกล” รอส.ว.หมดอายุเลือกนายกฯได้ สกัดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ยัน “บิ๊กป้อม” มีบารมีมากกว่าที่จะไปเป็นรองนายกฯให้ “เศรษฐา” ชี้ แจกเงินดิจิทัลฯ ประเทศไทยจะวอดวาย
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(18 เม.ย.67) เพจเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ของ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีก 30 วัน แต่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นควรให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 3 พ.ค. 67 ว่า
ตนมั่นใจว่า พอครบกำหนดพรรคก้าวไกลก็จะไม่ชี้แจงอะไร เพราะเขาชี้แจงไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว แต่ครั้งนี้ กกต.ได้ส่งเรื่อง 44 สส.ที่ลงชื่อร่วมแก้ไขมาตรา 112 มาด้วย
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นในเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งอะไรมา ศาลก็จะนัดอ่านคำพิพากษา ซึ่งตนก็คิดว่าจะไปตกวันที่ 10 พ.ค.หรือไม่ก็วันที่ 17 พ.ค. แต่ถ้าตกวันที่ 10 พ.ค. วันที่ 11 พ.ค.สมาชิกวุฒิสภา(สว.)จะหมดอายุในการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 แต่ถ้าดิ้นรนจะทำก็จะไม่ทัน สิ่งที่ตนบอกว่า พรรคเพื่อไทยดึง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญเอาไว้ จนให้หมดเวลา ไม่ให้มีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในช่วงเดือนมิ.ย.จะมีการเปิดประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 68 นี่คือกฎหมายแรกที่รัฐบาลจะเสนอเข้ามา ซึ่งถ้ารัฐบาลถูกคว่ำคาร่างงบประมาณ รัฐบาลก็ต้องลาออก นี่คือเหตุผลที่ทำไม นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องปรับ ครม.เพราะคนที่อยู่ข้างหลังนายเศรษฐาวินิจฉัยให้หมดแล้ว ปรับเพื่อกระชับอำนาจ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะปรับใครหรือไม่ ด้านพรรคภูมิใจไทยบอกแล้วว่า ไม่ปรับ เพราะนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาพรรคคนใหม่ ลูกนายเนวิน ชิดชอบ อายุยังไม่ถึง 35 ปี ยังเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ จึงมีเหตุใดฉะนั้นต้องปรับ ครม. และถ้าจะมีการปรับก็กลัวจะโดนยึดกระทรวงด้วย พูดง่ายๆ ว่ากระทรวงของพรรคภูมิใจไทยอย่ามาแตะ
“ส่วนพรรคพลังประชารัฐนั้น ผมได้ยินมาก็คือ เสนอนายไผ่ ลิกค์ เป็นรัฐมนตรีช่วยเหมือนเดิม วันนี้ตนได้ไปรดน้ำพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้เรียนถามท่านว่า ท่านจะมาเป็นรองนายกหรือไม่ ท่านก็บอกว่า ท่านไม่เป็น ฉะนั้นข่าวลือที่บอกว่า พลเอกประวิตรจะมาเป็นรองนายกในรัฐบาลของนายเศรษฐา ริบหรี่ลงเรื่อย เพราะคนระดับพลเอกประวิตร เป็นรองนายกให้พลเอกประยุทธ์มามากพอแล้ว และท่านมากบารมีกว่านั้นเยอะมาก”
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเงินดิจิทัล ที่ถ้าจะออกรัฐบาลก็ไม่กล้าเสนอ พ.ร.บ.เงินกู้ ก็จะแฝงในร่างงบประมาณ 68 แล้วก็ไปกู้กับ ธ.ก.ส. คราวนี้นายเศรษฐาก็จะลอยตัว จึงไม่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว เพราะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ กลัวจะติดคุก ก็เอาคนที่เป็นมือปืนรับจ้างมาเป็นรัฐมนตรีแทน เพื่อที่จะได้บีบ ธ.ก.ส.ให้ปล่อยเงินกู้ออกมา จะได้เพียงพอต่อโครงการเงินดิจิทัล
เงินดิจิทัลของรัฐบาลเศรษฐากับคนละครึ่งของพลเอกประยุทธ์ มันคนละเรื่อง เพราะพลเอกประยุทธ์ให้เงินสดแต่นี่ค่าแอปพลิเคชั่นอีกเท่าไหร่ ผมตีไว้ประมาณ ห้าหมื่นล้าน นี่ก็เสียฟรี ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากตรงนี้ แต่คนที่ทำแอปพลิเคชั่นได้ประโยชน์ ต่อมา ถึงจะไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเข้า แลกออก แต่เงินดิจิทัลนั้นไม่สามารถที่จะแลกเป็นเงินสดได้ในทันที ต้องรอ 6 เดือนฉะนั้นร้านค้าเล็ก ๆ ตามตำบล หมู่บ้าน ท่านจะไปซื้ออะไร ร้านค้าเหล่านั้นไม่มีสายป่านยาวพอที่จะมารอรับเงินถึง 6 เดือน จะมีก็คงเป็นร้านสะดวกซื้อที่วันนี้สั่ง 100 บาทก็ส่งถึงบ้าน ผมไม่พูดว่าชื่ออะไรให้ไปคิดเอาเอง”
นายสามารถ กล่าวต่อว่า มีคนถามว่า ทำไมเงิน 10,000 บาท ถึงไม่ให้เป็นเงินสด ก็เพราะว่าถ้าให้เป็นเงินสด คนก็ไม่ไปเข้าร้านพวกนี้ แล้วจะมีเงินคืนกันอย่างไร ซึ่งตนได้ยินมาว่าจะมีเรื่องเงินทอนกัน แต่ตนก็ไม่เชื่อว่าจะทำกันแบบนี้ สมมุติร้านค้าที่เป็นร้านอาหาร รัฐบาลบอกว่าเอาไปซื้อวัตถุดิบได้ ก็ไปดูว่าร้านขายวัตถุดิบนามสกุลเดียวกับร้านสะดวกซื้อหรือไม่ ฉะนั้นเงิน 5 แสนล้านบาทที่รัฐบาลบอกแจกประชาชน มันเข้าเจ้าสัวหมด ถึงจะมีเงินทอนกลับมาให้หรือเปล่า ซึ่งตนไม่เชื่อว่ามี ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะกล้าทำแบบนั้น นี่คือคำตอบว่า ทำไมเขาถึงไม่แจกเป็นเงินสด
“ประเทศไทยจะวอดวาย ย่อยยับ พินาศทันที เพราะเงินห้าแสนล้านนั้น มันไม่ได้ถึงชุมชน มันไม่ได้หมุนเป็นพายุไต้ฝุ่น มันไม่ใช่พัดลม มันยิ่งกว่าพัดกระดาษ ซึ่งมันไม่ได้สร้างแรงอะไรเลย มันเข้าไปรอบเดียวแล้วก็หาย คนที่ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทก็ต้องไปซื้อในสิ่งที่เขาไม่ได้อยากได้ แต่เมื่อเขารับเงินมาแล้วก็ต้องไปใช้ สุดท้ายเม็ดเงินนี้มันไม่ได้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง คนที่เป็นหนี้ก็ยังเป็นหนี้อยู่ คนที่มีปัญหาลูกที่ไม่มีตังค์ค่าเทอมก็เป็นหนี้อยู่ คนที่เป็นหนี้นอกระบบก็ยังเป็นหนี้อยู่ นั่นคือสิ่งที่เขาไม่ได้ต้องการ ผมถึงฝากพ่อแม่พี่น้องช่วยกันเป็นพลัง อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ถ้าเรายังนิ่งเฉย รัฐบาลจะเรียกทหารออกมาทำหน้าที่บางอย่าง ซึ่งผมก็ไม่อยากเห็นการฉีกรัฐธรรมนูญโดยทหาร ผมอยากเห็นการเมืองเดินด้วยการเมือง”