“วัชระ“” ยื่นหนุงสือถึงนายกฯ ตรวจสอบการเสียภาษีของ “โกฟุก” พ่อค้าน้ำมันสองสัญชาติไทย-พม่า หลัง DSI รวบรวมใบขนน้ำมันได้มากว่า 20,000 ใบ โดยไม่เสียภาษี อ้างจะส่งขายต่อบริษัทต่างประเทศ แต่ความจริงเอามาขายในไทย โดยที่สรรพากรมัวแต่นิ่งเฉย ขณะวงสภากาแฟระนองลือหนัก มีการเรียกภาษีเถื่อน 200 ล้าน แต่ตกลงกันไม่ได้
วันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 11.15 น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ภายในสำนักงาน ก.พ. นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผ่าน นายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน เพื่อขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีการประกอบธุรกิจของ นายอู จอว์ ลวิน หรือ นายสง่า กังวาล หรือ โกฟุก พ่อค้าน้ำมันหลบเลี่ยงภาษีและให้กรมสรรพากรร้องทุกข์กล่าวโทษตามกฎหมาย โดย นายวัชระ กล่าวว่า
ด้วยสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ดำเนินการปราบปรามเครือข่าย “โกฟุก” ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินจากการพนันออนไลน์ และผูกขาดตลาดน้ำมันในพื้นที่เมืองเกาะสอง โดยจะนำเข้าน้ำมันมาขายจาก จ.ระนอง กรณีนี้ทางการไทยได้ออกหมายจับจำนวน 18 หมาย ซึ่งรวมถึง นายอู จอว์ ลวิน หรือ นายสง่า กังวาล ชายสองสัญชาติเมียนมาและไทย ซึ่งยังคงหลบหนี หลังจากที่ดีเอสไอได้เข้าตรวจค้นในพื้นที่ 27 จุด รวมถึงบ้านของนายอู ที่ จ.ระนอง ซึ่งสื่อในประเทศไทย ระบุว่า คือ โกฟุก
การซื้อน้ำมันของ นายสง่า กังวาล เป็นการซื้อถูกต้องจากไออาร์พีซี. ปตท. ไทยออยล์ นับสิบๆ ปี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รวบรวมใบขนน้ำมันได้มากว่า 20,000 ใบ แต่การนำมาขายเป็นการหลีกเลี่ยงเรื่องภาษี เพราะอ้างว่าจะนำขายไปที่บริษัทต่างประเทศ ซึ่งปกติไม่เสียภาษี แต่ความจริงเอามาขายในไทยโดยหลักต้องเสียภาษี แบบนี้เรียกว่าเป็นการซื้อขายน้ำมันโดยเลี่ยงภาษีหรือได้ผลประโยชน์ในด้านภาษีหรือภาษาภาษี คือ ฉ้อภาษีอากร ซึ่งในอดีตเคยมีข่าวสรรพากรไปนั่งนับชามก๋วยเตี๋ยวเพื่อเก็บภาษีพ่อค้าแม่ค้า แต่ในขณะที่ “โกฟุก” หลบเลี่ยงภาษีน้ำมัน กรมสรรพากรกลับทำเฉย เท่ากับเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างชัดเจน
ตนในฐานะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ขอถามว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันและการฟอกเงิน ส่งผลกระทบต่อรัฐเสียหายด้านภาษีอากรนับหมื่นล้านบาท รัฐบาลทราบหรือไม่ กรมสรรพากรทราบข้อเท็จจริงคดีนี้หรือไม่ ได้สั่งการตรวจสอบอย่างไร ผลเป็นอย่างไรสรรพากรพื้นที่เกิดเหตุตรวจสอบพบเห็นความไม่ถูกต้องในการเสียภาษี หรือพฤติการณ์ที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีต่างๆ หรือไม่ มีข้อมูลผู้เสียภาษีรายนี้อยู่ในระบบภาษีตามปรกติหรือไม่ เสียภาษีครบถ้วนหรือไม่ และแจ้งความดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับภาษีหรือไม่ เมื่อใด
ดังนั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ จึงขอให้กรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่กฎหมายและแจ้งความดำเนินคดี นายสง่า กังวาล กับพนักงานสอบสวนตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 8 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2520 ข้อ 2 ภายใน 15 วัน เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษีให้กับประชาชนในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำและช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับประเทศในระยะยาวต่อไป ตามวิสัยทัศน์ของกรมสรรพากรที่ว่า “องค์กรชั้นนำที่จัดเก็บภาษีอย่างโปร่งใสเป็นธรรมด้วยนวัตกรรมและบุคลากรคุณภาพเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการคลัง” หากไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
นายวัชระ ยังกล่าวอีกว่า “วงการสภากาแฟจังหวัดระนอง มีการโจษจันวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เมื่อคราวคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา มีเสียงเล่าลือกันว่า จะมีการเรียกรับเก็บภาษีเถื่อนจำนวนถึง 200 ล้านบาท แต่ไม่เป็นที่ตกลงกันไม่ทราบว่ามีข้อเท็จจริงเป็นประการใด ขอให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในทุกประเด็น ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน” นายวัชระ กล่าว