ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จับกุมแรงงานชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง 14 คน คารั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ขณะรอนายหน้าพาลักลอบข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย เผยเดินทางรอนแรมจากพม่ามา 15 วัน เสียเงินให้นายหน้าไปหมดแล้วคนละ 3 หมื่นบาท
วันนี้ (5 พ.ค.) ทหารกองกำลังเทพสตรี โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ร่วมกับร้อย ร.5021 ตชด.437 ตำรวจภูธรสะเดา และฝ่ายปกครองสะเดา ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.ธนิตพนธ์ หงษ์วิไล ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกรมทหารราบที่ 5 ได้ออกลาดตระเวนตามพื้นที่รั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย บริเวณหลักเขตแดนที่ 23/10 บ้านด่านนอก หมู่ 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา
โดยไปพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวพม่า จำนวน 14 คน เป็นชาย 10 คน และหญิงอีก 4 คน ถูกนำมาพักไว้ในป่า ซึ่งทุกคนมีกระเป๋าสัมภาระติดตัวพร้อมเดินทาง เพื่อรอนายหน้ามารับข้ามแดนเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย จึงจับกุมและควบคุมตัวเอาไว้ และนำตัวไปตรวจคัดกรองโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสะเดา ก่อนจะส่งตัวไปยัง สภ.สะเดา ดำเนินคดีฐานหลบหนีเข้าเมือง
จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวทั้ง 14 คน ซึ่งบางคนพอที่จะพูด และฟังภาษาไทยได้บ้าง บอกว่า เดินทางมาจากหลายรัฐ ทั้งรัฐย่างกุ้ง รัฐยะไข่ ต้องการเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้นายหน้าในประเทศพม่าไปแล้วคนละ 3 หมื่นบาท เดินทางรอนแรมมานาน 15 วัน
โดยเริ่มนั่งเรือจากเกาะสอง ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ขึ้นฝั่งบริเวณป่าชายแดนไทย จ.ระนอง ต่อมาเมื่อวันที่ 4 เม.ย. มีรถยนต์กระบะแบบรั้วเหล็กมารับ และเดินทางกันมาราว 5 ชั่วโมง และมาสับเปลี่ยนรถยนต์อีกครั้ง แต่ไม่ทราบว่าที่ใด และเดินทางต่อมากับรถยนต์กระบะสีดำอีก 1 ชั่วโมง จนถูกนำมาพักไว้ตรงจุดที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้