MGR Online - “วัชรินทร์” ประชุมร่วมดีเอสไอ เก็บหลักฐานเพิ่ม 12 ประเด็น เครือข่าย “โกฟุก“ ฉ้อโกงภาษีน้ำมัน พบเกี่ยวข้องหน่วยงาน 3 กรม ทำให้รัฐเสียหาย 10,000 ล้านบาท
วันนี้ (13 ก.พ.) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 1 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการตามที่อัยการสูงสุดมอบหมาย ในคดีพิเศษที่ 116/2563 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และคณะพนักงานอัยการร่วมสอบสวน เข้าร่วมในการประชุม
นายวัชรินทร์ กล่าวภายหลังการประชุมร่วม 2 ชั่วโมง ว่า สำหรับการประชุมร่วมกันครั้งแรกระหว่างดีเอสไอกับอัยการในคดีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการอ้างว่ามีการส่งออกน้ำมันแล้วมาเบิกคืนภาษีจากรัฐ เนื่องจากเดิมเป็นคดีพิเศษแต่ขณะนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ฉะนั้นคณะอัยการที่ตั้งขึ้นมาใหม่กับทีมพนักพนักงานสอบสวนดีเอสไอเดิมได้ร่วมหารือกันในวันนี้ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าหลังจากนี้จะมีการประชุมการสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ที่จะต้องเก็บหลักฐานเพิ่มอีก 12 ประเด็น ได้แก่ การสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม ขณะนี้ได้มีการสอบไปแล้วกว่า 30 ปากและจะต้องสอบเพิ่มเติมอีก 60 ปาก เป็นกลุ่มค้าน้ำมันบริษัทต่างๆ กลุ่มซื้อขายน้ำมัน โดยเกี่ยวพันกับหน่วยงานจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวกับน้ำมันมี 3 หน่วยงาน คือ กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร กรมศุลกากร
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญเนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายต่อประเทศชาติหรือภาษีอากรของชาติ โดยเฉลี่ยจากที่ได้รับรายงานประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท แต่จำนวนความเสียหายยังไม่นิ่ง ทั้งนี้ ชุดสอบสวนเดิมของดีเอสไอทำหลักฐานไว้ดีแล้วซึ่งได้นำมาเสนอให้คณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ในวันนี้ เป็นหลักฐานที่สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้เลย
นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า คดีการขอคืนภาษีน้ำมันเป็นเท็จ เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร เป็นหนึ่งในคดีมูลฐานความผิดที่เข้าข่ายกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งเงินอาจจะเป็นเงินตัวเดียวกัน เพราะทรัพย์สินของคนเดียวกลุ่มกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจากคนเดียวอาจจะกระทำความผิด หลายฐานหลายกรรมก็ได้ ทั้ง พ.ร.บ.การพนัน พ.ร.บ.ศุลกากร โดยขณะนี้ยังไม่มีการยึดทรัพย์ในคดีเกี่ยวกับภาษีน้ำมันแต่อย่างใด และยึดทรัพย์เพียงความผิด พ.ร.บ.พนัน
นายวัชรินทร์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ได้มีสั่งการชุดสอบสวนติดตาม นายสง่า กังวาล หรือ “โกฟุก“ ที่มีข่าวว่าหลบหนีไปยังเกาะสอง ของเมียนมาร์ การที่ยังไม่ได้ตัวมาไม่เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนคดีแต่อย่างใดเพราะการทำงานจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างชัดเจนในการดำเนินคดีทั้งจากพยานเอกสาร พยานวัตถุต่างๆ แล้วแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา ซึ่งหากผู้ต้องหาถูกจับตัวในคดีหวยพนันออนไลน์ได้แล้ว ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคืนภาษีน้ำมันได้ นอกจากนี้ มีบางบุคคลที่อยู่ในเรือนจำแล้ว
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า สำหรับการตรวจค้นที่ จ.ระนอง และเป้าหมาย 27 จุดก่อนหน้านี้ เกี่ยวข้องกับ 2 คดี คือ คดีภาษีน้ำมันกับคดีหวยออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้กระทำผิดเป็นคนกลุ่มเดียวกัน แต่ในคดีหวยออนไลน์ได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดแล้ว สำหรับคดีภาษีน้ำมันยังไม่มีการออกหมายจับใคร
เมื่อถามว่าผู้ต้องหา 7 คนที่ถูกจับในคดีพนัน เป็นเครือข่ายของตัวการใหญ่มีความเชื่อมโยงกับคดีขอคืนภาษีส่งออกน้ำมันหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีความเกี่ยวพันทั้งเอกสารและเส้นทางการเงินด้วย