“ดร.อานนท์” ท้า “สมศักดิ์ เจียม” ดีเบต “Dawn of revolution 2475” ข้องใจ ดิ้นอะไรนักหนา ข้อเท็จจริงไม่ตรงก็ว่ามา ขณะเดียวกัน จี้ “สภาจุฬาฯ” ถอดถอนปริญญา “ณัฐพล” ยกกรณี “ศุภชัย หล่อโลหะการ” ยังทำได้ ถ้าไม่อยากโดนฟ้อง ม.157
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 มี.ค. 67) ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ภาพ พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ระบุว่า
“แล้ว อาจารย์ Somsak Jeamteerasakul จะเอาอะไรครับ อะไรที่ไม่ตรงข้อเท็จจริงก็ว่ามาเลยครับ อะไรที่ไม่พอใจก็ว่ามา จะดีเบตกันไหมว่าเนื้อหาใน Dawn of revolution 2475 มีอะไรผิด มีหลักฐานเอกสารชั้นต้นอะไรมาสู้กันไหม คนเขียนบทอยู่นี่สองคน ปราชญ์ สามสี กับ Punda Phol จะชวนทุ่นดำ-ทุนแดง ลูกศิษย์ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร ที่ศึกษาเรื่อง 2475 มาดีเบตด้วยก็ได้ หรือจะเชิญ อ ปานเทพ ก็ได้นะครับ Parnthep Pourpongpan จะจัดให้นะครับ ดีเบตทางออนไลน์ก็ได้ ยังประคองสังขารมาดีเบตไหวไหม สันติสุข มะโรงศรี ช่วยเป็นพิธีกรให้หน่อยครับ อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จะได้หายหงุดหงิดครับ
จะดิ้นเร่าๆ อะไรนักหนา สมศักดิ์?”
ต่อมา เพจเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich อยู่กับ Chaiyan Chaiyaporn และ ศุภมาส เสนะเวส โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ถอดถอนปริญญา “ณัฐพล” กรณีวิทยานิพนธ์อ้างอิงข้อมูลที่ไม่มีอยู่จริง บิดเบือนประวัติศาสตร์ ระบุว่า
“สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะอ้างว่า ไม่มีระเบียบ ถอดถอนปริญญาได้เฉพาะกรณี plagiarism ได้อย่างเดียว ไม่สามารถถอดถอนกรณี Data Falsification กับ Data Fabrication ในกรณีของ ณัฐพล ใจจริง นั้น เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่ตนเองมีอำนาจ ฟังไม่ขึ้น เป็นการไม่รับผิดชอบ และไม่ทำหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่แล้ว
อธิบายแบบหลักรัฐศาสตร์หรือหลักนิติศาสตร์เบื้องต้น
ผู้ใดมีอำนาจสถาปนา ผู้นั้นมีอำนาจถอดถอน
Great power comes with great responsibility.
แล้วที่ใน พ.ศ. 2554 สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถอดถอนปริญญาเอกของ ศุภชัย หล่อโลหะการ ไปแล้วนั้น ก็ยังไม่มีระเบียบใดๆ เลย จึงได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตอนนั้นไม่มีระเบียบเลยก็ยังถอดถอนได้ ประธานกรรมการสอบ คือ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ อุปนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือ ศ.ดร. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
วันนี้ พ.ศ. 2567 ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานกรรมการสอบ
นอกจากจะมี
1. คำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ใน พ.ศ. 2554 ว่า สามารถถอดถอนปริญญาได้
2. คำพิพากษาศาลอาญา กรณี ณัฐพล ใจจริง ฟ้องหมิ่นประมาท ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร ก็ตัดสินออกมาแล้วมี data falsification และ data fabrication จริง จึงยกฟ้อง
3. ผลการตรวจสอบวิทยานิพนธ์ของ ณัฐพล ใจจริง ก็ออกมาแล้วและฟันธงว่า ผิดจริง
ทางสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีหลังพิงสามอย่างแล้ว ในการที่จะถอดถอนปริญญาของณัฐพล ใจจริง
รออะไรอยู่ครับ
มีอำนาจหน้าที่ก็ทำหน้าที่สิครับ
นอกจากนี้ ยังมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ สองครั้ง เรื่องการกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ล้มล้างการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ กับหนังสือขุนศึก ศักดินา พญาอินทรีย์ที่เป็นคัมภีร์ชุดความคิดในการเคลื่อนไหวเลยนะครับ ไปดูแนบท้ายฟ้องก็ได้ครับ หรือดูเอกสารประกอบคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญท่านใช้อำนาจเรียกเอกสารมาจากหน่วยงานความมั่นคงก็ได้ครับ
หรือจะรอ คำพิพากษาศาลแพ่ง กรณี หม่อมราชวงศ์ ปรียนันทนา รังสิต ฟ้อง ณัฐพล ใจจริง ว่าละเมิด สมเด็จกรมพระยาชัยนาทนเรนทร อีกคดีหนึ่ง ซึ่งก็ไม่น่าจะนานนะครับ และ หม่อมราชวงศ์ ปรียนันทนา รังสิต ก็คงทำหนังสือให้กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยถอดถอนปริญญาของณัฐพล ใจจริง
กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่เพื่อเกียรติภูมิจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเถิดครับ
ท่านกลัว ณัฐพล ใจจริง ฟ้อง กลัวต้องไปขึ้นศาลตอนแก่
แต่กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านไม่กลัว นายศุภชัย หล่อโลหะการ ผู้ถูกถอดถอนปริญญาฟ้องกรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า เลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรม ถอดถอนปริญญาของเขา แต่ไม่ถอดถอนปริญญาของณัฐพล ใจจริง หรือครับ
Plagiarism ยังผิดน้อยกว่า Data Falsification และ Data Fabrication เสียอีกครับ
กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่กลัวว่า ม.ร.ว. ปรียนันทนา รังสิต จะฟ้องว่า กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ ป.อาญามาตรา 157 ต่อศาลอาญาทุจริตประพฤติมีชอบกลางหรือครับ”