“อ.ไชยันต์” ลั่น ใครต้องรับผิดชอบ? วิทยานิพนธ์ ผิดพลาด สร้างผลกระทบต่อเยาวชนที่หลงเชื่อ จนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง “สุดโต่ง” ทำผิดกฎหมายร้ายแรง “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ทวงผลสอบ ปม “ดุษฎีนิพนธ์” บิดเบือน พาดพิงสถาบัน จากจุฬาฯ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (8 มี.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ของ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 สาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ กับงานวิจัยที่ตอบโจทย์ทางสังคมและการเมืองการปกครอง ผู้ตรวจ พบ “การอ้างอิงคลาดเคลื่อน” ถึง 31 จุด ในวิทยานิพนธ์ “ดีเด่น” หัวข้อ “การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500)” ของ ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง โพสต์ข้อความระบุว่า
“เรียนท่านอาจารย์วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานจริยธรรมการวิจัยแห่งวงการวิชาการไทยที่เคารพอย่างสูง
ผมขอเรียนถามท่านว่า ท่านมีความเห็นอย่างไรกับวิทยานิพนธ์ ปริญญาเอก ที่ได้ประเมินระดับดีมาก แต่มีปัญหาเรื่อง data fabrication และ data falsification มากมาย ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเยาวชนที่หลงเชื่อและออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสุดโต่ง ผิดกฎหมายร้ายแรง และอาจเสียอนาคตได้
ใครต้องรับผิดชอบครับ ?
พวกเราที่เป็นนักวิชาการ ใช่ไหมครับ ?
แล้วนักวิชาการทั้งไทยและเทศ 279 คน ที่เข้าชื่อคัดค้านไม่ให้ตรวจสอบวิทยานิพนธ์ฉบับนั้นหละครับ?
มีชื่อท่าน ศาสตราจารย์ ดร.โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์ อยู่ใน 279 คนด้วยนี่ครับ
ตอนนั้น ท่านคัดค้านและอ้างเสรีภาพทางวิชาการทำไมหรือครับ ?
มาบัดนี้ ท่านรีบกลับจุดยืนหลังคำตัดสินของศาลเร็วดีนะครับ (ก็ยังดีที่กลับ)
ตกลง ท่านเคยอ่านวิทยานิพนธ์ และจุดบกพร่องที่ผมเคยนำเสนอมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 บ้างไหมครับ ?”
ขณะเดียวกัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ในฐานะนิสิตเก่าจุฬาฯ รุ่นปี 2512 ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
“เรียนนายกสภามหาวิทยาลัย และผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตามที่ผมและคณะได้เคยทำหนังสือเรียกร้องให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงวันที่ 12 มกราคม 2564 ให้ทางบัณฑิตวิทยาลัยและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตรวจสอบความคลาดเคลื่อนและความไม่ถูกต้อง ของดุษฎีนิพนธ์ของ นายณัฐพล ใจจริง ในหัวข้อเรื่อง การเมืองไทยในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม การจัดระเบียบโลกของสหรัฐ 2491-2500 นั้น
คณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งขออนุญาตเอ่ยนามสองท่าน คือ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และ ดร.สุจิต บุญบงการ ได้ขอให้ผมให้ปากคำผ่านการประชุมทางซูมไปแล้วนั้น บัดนี้ เวลาล่วงเลยมามากพอสมควร และทราบว่า คณะกรรมการได้รายงานผลการสอบให้ทางมหาวิทยาลัยทราบแล้ว
ผมขอเรียกร้องผ่านสื่อเพื่อทวงถามผลการสอบ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเคยรับปากว่า จะแจ้งผลให้ผมทราบในฐานะผู้ร้องเรียน แต่เกรงว่า ทางมหาวิทยาลัยจะลืม เลยขอทวงถามผ่านสื่อโซเชียล และคาดหวังว่า ทางมหาวิทยาลัยจะแจ้งผลการสอบให้ผมได้ทราบ
แม้ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะได้พยายามลดความเสียหาย ด้วยการแจ้งไปยังเครือข่ายห้องสมุดให้ระงับการเผยแพร่ แต่ก็ได้มีการตัดตอนบางส่วนของดุษฎีนิพนธ์ไปจัดพิมพ์จำหน่าย
ความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์การเมืองไทย พาดพิงองค์พระประมุข สร้างข้อสงสัยว่า สถาบันจะนำระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กลับมา ด้วยการให้ผู้สำเร็จราชการเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อครอบงำการประชุม ซึ่งสร้างความเสียหายให้สถาบันที่ไม่มีโอกาสชี้แจงใดๆ
จึงของทวงถามผลการสอบสวนมา ณ ที่นี้”