“ดร.อานนท์” ผิดหวัง “จุฬาฯ” ไม่กล้าลงมติถอดถอนปริญญาบัตรของ ณัฐพล ใจจริง กรณีไม่มี “ระเบียบ” รองรับ จึงกลัวฟ้องศาลปกครอง “ดร.เวทิน” เผย ผลสอบกรรมการ 3 ใน 4 คน ชี้ชัด ผิดพลาดทางวิชาการอย่างร้ายแรง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (7 มี.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich อยู่กับ Chaiyan Chaiyaporn ของ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า
“ผมได้ยินมาจากกรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่งมาว่า
ผลการสอบโดยนักวิชาการระดับศาสตราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ออกมาว่า เป็นวิทยานิพนธ์ที่บิดเบือนข้อมูล ไม่ได้ทำวิจัยจากข้อมูลจริง คือ มีทั้ง Data falsification และ Data fabrication ครับ
แล้วเมื่อนำรายงานผลการตรวจสอบเข้าไปในสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรับทราบและรับรองผลการตรวจสอบ แต่ไม่กล้าลงมติถอดถอนปริญญาบัตรของ ณัฐพล ใจจริง ทั้งๆ ที่ผิดจริยธรรมร้ายแรงทางวิชาการจริงๆ
เป็นปัญหาเทคนิคทางกฎหมาย คือ ระเบียบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนเอาไว้แค่ว่า ถอดถอนปริญญาได้ถ้าลอกมา หรือ Plagiarism
แต่ระเบียบไม่ได้เขียนว่า ถ้าตกแต่งข้อมูลหรือปั้นข้อมูลเท็จจะถอดถอนปริญญาบัตร
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคงไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำผิดจริยธรรมทางวิชาการร้ายแรงเช่นนี้ เลยไม่ได้เขียนระเบียบเอาไว้
เมื่อไม่ได้เขียนระเบียบเอาไว้ให้ชัดเจน ต่อให้กระทำผิดร้ายแรงแค่ไหน กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ไม่กล้าลงมติถอดถอนปริญญาบัตรของ ณัฐพล ใจจริง เพราะกรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คงกลัว ณัฐพล ใจจริง จะไปฟ้องศาลปกครอง
สรุปคือไม่มีกฎหมายจะให้เอาผิด เลยไม่เอาผิด ทั้งๆ ที่ทำผิดเต็มๆ ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
ถ้าสิ่งที่ผมได้ยินมาเป็นความจริงทั้งหมด ผมก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันเป็นที่รักยิ่งของผม ขาดความกล้าหาญทางจริยธรรมในการรักษาจริยธรรมทางวิชาการ
ห่วงรักตัวเอง มากกว่าความถูกต้องทางวิชาการ และห่วงรักตัวเองมากกว่าเกียรติภูมิจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ไม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะกลัวจะเจ็บตัว ต้องถือไม้เท้าหรือนั่งรถเข็นไปขึ้นศาลตอนแก่
ผมผิดหวังมากครับ ถ้าสิ่งที่ผมได้ยินมาเป็นความจริงดังนี้แล
จริงๆ หากกรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะแก้ปัญหาอย่างกล้าหาญก็แค่ส่งระเบียบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ศาลตีความว่า สามารถถอดถอนปริญญาบัตรหากวิทยานิพนธ์ มีทั้ง Data falsification และ Data fabrication อันผิดร้ายแรงยิ่งกว่า Plagiarism เสียอีกในทางวิชาการ
ถ้าศาลท่านตีความมาว่าอย่างไร กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็แค่ทำตามนั้น ไม่ใช่จะนั่งทับไว้จนตัวเองหมดวาระไปเฉยๆ”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก ดร.เวทิน Talk2way ของ ดร.เวทิน ชาติกุล ผอ.สถาบันทิศทางไทย โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า
“สรุปกรรมการสอบ
วิทยานิพนธ์ฉาว 3 ท่าน
ผิดร้ายแรง
รายงานผลการสอบวิทยานิพนธ์ของ ณัฐพล ใจจริง ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีคำสั่งให้มีการสอบใหม่เป็นครั้งที่สอง ตามคำร้องเรียนของคุณนันทิวัฒน์ สามารถนั้น
มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ระบุนาม เป็นกรรมการ 4 ท่าน ได้ใช้เวลาสอบ ตั้งแต่ ปี ๒๕๖๔ จนถึง ปี ๒๕๖๗ และผลสอบได้เสร็จสิ้น ได้นำเสนอเข้าสู่สภามหาวิทยาลัยแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้มีการรับรองผลการสอบฉบับสมบูรณ์นี้แล้วนั้น
ปรากฏว่า ๓ ใน ๔ ของคณะกรรมการสอบ เห็นตรงกันว่า สิ่งที่ปรากฏอยู่ในวิทยานิพนธ์ฉบับนั้น มีความผิดพลาดตามกระบวนวิธีวิทยาของการค้นคว้า วิจัย ผลงานทางวิชาการ อย่างร้ายแรง
#TalkToWay”
ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก ดร.เวทิน Talk2way โพสต์ข้อความระบุว่า
สรุป สภาจุฬาฯ รับรอง ผลสอบวิทยานิพนธ์ฉาว แล้วตั้งแต่ ก.พ.ที่ผ่านมา
รายงานผลสอบวิทยานิพนธ์ฉาวของกรรมการสอบชุดล่าสุด
ที่มี ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน ฉบับสมบูรณ์ได้นำเข้าสู่วาระรับทราบของสภามหาวิทยาลัย (จุฬาฯ) และได้รับรองรายงานฉบับนี้แล้ว
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
รายงานนี้มีคณะกรรมการสอบ ๔ ท่าน ซึ่ง ๓ ใน ๔
มีมติอันเป็นที่ฮือฮาว่า “แซ่บ” มาก ณ ขณะนี้
ทั้งนี้ ไม่มีคำตอบจากผู้บริหารจุฬาฯ
ว่าจะเปิดเผยผลสอบนี้หรือไม่? เมื่อไหร่?
#TalkToWay
สำหรับกรณีอื้อฉาว เนื่องมาจากมีข้อถกเถียงเรื่องวิทยานิพนธ์ “ดีเด่น” ในหัวข้อ “การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500)” ของ ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง เกิดขึ้น โดยมี ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร เป็นผู้ตรวจ พบ “การอ้างอิงคลาดเคลื่อน” รวม 31 จุด ในวิทยานิพนธ์เล่มนี้ ก่อนแจ้งผู้เกี่ยวข้องและทางมหาวิทยาลัยให้รับทราบ และนำไปสู่การสั่งปกปิดวิทยานิพนธ์ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2562 โดยบัณฑิตวิทยาลัยให้เหตุผลว่า “มีการอ้างอิงคลาดเคลื่อน ข้อวินิจฉัยและข้อสรุปบางรายการไม่ตรงกับเอกสารชั้นต้นในหอจดหมายเหตุและแหล่งอ้างอิง” พร้อมระบุว่า ผศ.ดร.ณัฐพล “ได้ยอมรับถึงความคลาดเคลื่อน”