xs
xsm
sm
md
lg

“เหยื่อป่าโซเชียล”! นักวิชาการ ยกรายงาน “สศช.” ชี้ คนหลายสิบล้านที่เสพสื่อ “อินฟลู 2 ล้านคน” คือเหยื่อที่ถูกล่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ ดร.สุวินัย ภรณวลัย จากแฟ้ม
“ดร.สุวินัย” ยกรายงาน สศช. ชี้ คนหลายสิบล้านที่เสพสื่อ “อินฟลู 2 ล้านคน” คือ เหยื่อที่ถูกล่า โดยเฉพาะ 4 เรื่อง เฟกนิวส์ พนันออนไลน์ ละเมิดสิทธิ สร้างค่านิยมอวดรวยให้เยาวชน เตือน “กฎป่าโซเชียล” ผู้ล่าได้เปรียบเหยื่อทุกทาง

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 มี.ค. 67) ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ผลกระทบของ “อินฟลูเอนเซอร์” 2 ล้านคนที่มีต่อสังคมไทย มีเนื้อหาดังนี้

“ไทยมี “อินฟลู” 2 ล้าน แข่งกันทำคอนเทนต์

สภาพัฒน์ห่วง 4 ประเด็น คือ เฟกนิวส์ พนันออนไลน์ ละเมิดสิทธิ สร้างค่านิยมอวดรวยให้เยาวชน

รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 4 และภาพรวมปี 2566 ของสภาพัฒน์ อธิบายถึงสถานการณ์ “Influencer เมื่อทุกคนในสังคมล้วนเป็นสื่อ” เอาไว้ว่า

ปัจจุบันในประเทศไทยมีจำนวน “อินฟลูเอนเซอร์” กว่า 2 ล้านคน เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย อันดับ 1

โดย “อินฟลูเอนเซอร์” หมายถึง บุคคลทั่วไปที่มีอิทธิพลต่อความคิดและมีกลุ่มผู้ติดตามจำนวนมาก โดยจะนำเสนอเนื้อหา (content) ดึงดูดผู้คนให้เข้ามามีส่วนร่วม (engagement) อย่างกดไลก์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น

ตอนนี้ “อินฟลูเอนเซอร์” กลายเป็นอาชีพที่เด็กไทยหลายคนฝันอยากเป็น เพราะสามารถสร้างรายได้ค่อนข้างสูง จากการโฆษณาสินค้าและรีวิวสินค้า เริ่มตั้งแต่โพสต์ละ 800 จนถึงโพสต์ละ 700,000 บาท ก็มี

แต่เพราะ “อินฟลูเอนเซอร์” ต้องให้ความสำคัญกับ
- การแข่งขันกันทำ content
- ให้ความสำคัญกับ engagement

ส่วนหนึ่งจึงกลายเป็นการสร้างคอนเทนต์ โดยไม่คำนึงถึง “ความถูกต้อง” ของเนื้อหาก่อนเผยแพร่

สภาพัฒน์ห่วงข่าวปลอม-พนัน-ละเมิดสิทธิ-สร้างค่านิยมอวดรวย

โดยสภาพัฒน์ ยกตัวอย่างเนื้อหาที่สร้างผลกระทบใน “ทางลบ” ต่อสังคม 4 เรื่อง

(1) นำเสนอข้อมูลเท็จ ข่าวปลอม ไม่เป็นจริง
พบผู้โพสต์เข้าข่ายข่าวปลอม 7,394 บัญชี เป็นข่าวปลอมและข่าวบิดเบือนรวมกว่า 5 พันเรื่อง และเป็นเรื่อง “สุขภาพ” มากถึง 2,213 เรื่อง

อย่างเช่น กรณี “อินฟลูเอนเซอร์” เผยข้อมูล “สูตรสมุนไพรล้างไต” ว่า น้ำต้มข่า ตะไคร้ และใบเตย ถ้าดื่มติดต่อกัน 7 วัน เว้น 7 วัน จะช่วยล้างไตและขับปัสสาวะได้

(2) ชักจูง-ชวนเชื่อผิดกฎหมาย “พนันออนไลน์”
ตอนนี้คนรุ่นใหม่เล่นพนันออนไลน์กว่า 3 ล้านคน โดย 7.4 แสนคนเป็น “นักพนันหน้าใหม่” และ 87.7% พบการโฆษณาหรือได้รับการชักชวนทางออนไลน์ กระทบแล้วกว่า 1 ล้านคน สะท้อนการโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ผ่าน “อินฟลูเอนเซอร์” บางส่วน

(3) ละเมิดสิทธิ บุคคล-เนื้อหา
แบ่งเป็นปัญหา “ข้อมูล” ละเมิดสิทธิ เพราะนำข้อมูล ภาพ หรือวิดีโอของคนอื่นมาตัดต่อลงคอนเทนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีแหล่งที่มาที่ถูกต้อง
และอีกรูปแบบ คือ ละเมิดสิทธิผ่านการนำเสนอ อย่างการนำเสนอข่าวอาชญากรรมราวกับละคร สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ แต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้เสียหายหรือคนใกล้ชิด

(4) สร้างค่านิยม “อวดรวย”
“อินฟลูเอนเซอร์” บางส่วนชอบเนื้อหาอวดความร่ำรวย และเช่นเดียวกันผู้บริโภคบางส่วนก็ชอบเช่นเดียวกัน โดยผู้บริโภคกว่า 51.2% ชอบการอวดแบบเปิดเผย
ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ยอดนิยมอย่างอวดสินค้าแบรนด์เนม การบริการประทับใจ และไลฟ์สไตล์ รวมถึงการแต่งภาพให้ดูดีเกินจริง กลายเป็น Unrealistic Beauty Standards ที่สภาพัฒน์บอกว่า อาจสร้างค่านิยมที่ผิดให้กัยเยาวชน และนำไปสู่การก่อหนี้มาซื้อสินค้าและบริการ

ภาพ สถานการณ์ “Influencer เมื่อทุกคนในสังคมล้วนเป็นสื่อ” จากแฟ้ม
ต่างประเทศมี “กฎหมายอินฟลู” สร้างบรรทัดฐาน

ในต่างประเทศหลายประเทศมี “กฎหมายอินฟลูเอนเซอร์” ที่ความเข้มงวดจะแตกต่างกันออกไป

- จีน : ห้ามเผยแพร่เนื้อหาอวดความร่ำรวย และการใช้ชีวิตแบบกินหรูอยู่สบายเกินจริง อย่างโชว์เงินสด รถยนต์หรูหรา และการกินอาหารแบบทิ้งขว้าง

- UAE : ออกกฎหมายให้ผู้ที่เป็น Infuencer จะต้องจดทะเบียน และได้รับใบอนุญาตจากสภาสื่อแห่งชาติ (NMC) ป้องกันการโฆษณาเนื้อหาหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายบนโซเชียลมีเดีย

- นอร์เวย์ : ออกกฎหมายกำหนดให้ Influencer ต้องแจ้งรายละเอียดภาพบุคคลที่ใช้สำหรับการขายและโฆษณาสินค้าบนโซเชียลมีเดีย ต่อหน่วยงานรัฐ นอกจากนั้น ยังกำหนดให้แสดงเครื่องหมายกำกับลงบนภาพหากผ่านการปรับแต่ง ลดปัญหาความกดดันทางสังคมต่อมาตรฐานความงามที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน

- สหราชอาณาจักร : อยู่ระหว่างพิจารณาร่างกฎหมายสำหรับรูปภาพที่ผ่านการปรับแต่งดิจิทัล (Digitally Altered Body Image Bill) กำหนดให้ผู้โฆษณา ผู้ผลิตสิ่งพิมพ์ รวมถึง Influencer ต้องแสดงเครื่องหมายลงบนภาพ ที่ได้มีการปรับแต่งส่วนหนึ่งส่วนใดบนร่างกาย

ส่วน “ไทย” ยังไม่มีกำหนดกฎระเบียบสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ที่ชัดเจน โดยตอนนี้มีแต่ พ.ร.บ. คอมฯ หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค และอยู่ระหว่างร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน แต่ถ้าจะขยายขอบเขตออกไป อาจต้องกำหนดนิยามสื่อออนไลน์และการกำกับดูแลใหม่ สภาพัฒน์อธิบาย
*****
อินฟลู 2 ล้านคน คือ ผู้ล่า ส่วนคนหลายสิบล้านคนที่เสพสื่ออินฟลู 2 ล้านคน คือ เหยื่อที่ถูกล่า ... นี่คือ กฎของป่าโซเชียล! ผู้ล่าได้เปรียบเหยื่อทุกทาง เหยื่อที่ไม่ตระหนักรู้แค่รอวันที่โดนขย้ำไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น ผ่านการติดกับดักแห่งโลภะ-โทสะ-โมหะ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งหรือทั้งหมด

นี่คือ โลกของป่าโซเชียล และกฎของป่าโซเชียลที่โหดร้าย โดยที่คนที่ตกเป็นเหยื่อ ไม่จำกัดเพศ อายุ อาชีพ”


กำลังโหลดความคิดเห็น