“เศรษฐา” ดีใจเยือนอุดรธานี ฝากกำจัดวัชพืชทะเลวัวแดงป้องกันน้ำเสีย ชูเป็นแหล่งท่องเที่ยว เน้นย้ำใช้งบประมาณไม่ให้มีการทุจริต สั่ง “คมนาคม” ดูแลการจราจรงานพืชสวนโลก อำนวยความสะดวก ปชช.อย่าให้รถติด
วันนี้ (19 ก.พ.) เวลา 13.15 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เดินทางถึงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากุมภวาปี ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เพื่อเป็นประธานการประชุมหารือแผนพัฒนาของจังหวัดอุดรธานี โดยมี ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นางหทัยรัตน์ เพชรพนมพร ส.ส.เขต 2, นายภาณุ พรวัฒนา ส.ส.เขต 4, นายกรวีร์ สาราคำ ส.ส.เขต 5, นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.เขต 7, นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.เขต 8, นายวัชระพล ขาวขำ ส.ส.เขต 9 และนางเทียบจุฑา ขาวขำ ส.ส.เขต 10 ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ทันทีที่นายกฯ เดินทางถึงได้เดินพบปะทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ โดยมีประชาชนถือป้ายข้อความว่า “สมัชชาเกษตรกร ภาคอีสานจังหวัดอุดรธานีผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฝายห้วยหลวง ท้องที่ อ.สร้างคอม ต.สร้างคอม และ ต.หินโงม ขอรับการจัดสรรที่ดิน ในกรณีพิเศษท่านนายกฯช่วยด้วย”และมีป้ายข้อความอีกว่า “ท่านนายกฯช่วยที 35 ปีไม่ได้รับการแก้ไข พื้นที่ อ.สร้างคอม กรณีอ่างวังช้าง ผลกระทบจากการก่อสร้างฝายห้วยหลวง” นอกจากนี้ ยังมีป้ายข้อความระบุอีกว่า “เดือดร้อน… ช่วยด้วย…” น้ำท่วมนา “กลุ่มฝายกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี”
จากนั้น นายกฯ กล่าวในที่ประชุม ว่า วันนี้ดีใจได้มาจังหวัดอุดรฯ ต้องขอบคุณ ส.ส.ทุกท่าน ที่เตรียมเรื่องมาพูดคุยกัน เพราะจังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดที่ใหญ่ และเป็นจังหวัดติดท็อปเทนของประเทศ วันนี้เรามาดูเรื่องของโอกาส ว่า เราจะทำอะไรได้บ้างเรื่องแรกที่ท่านนำเสนอมา คือ ทะเลวัวแดง เรื่องการกำจัดวัชพืชไม่ได้มีการกำจัดมาหลายปีแล้ว มีการแพร่กระจายไปเยอะมาก ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการที่จะจัดการประมาณ 30 ล้าน ซึ่งปีที่แล้ว 2 ล้านบาท ที่ต้องบำรุงรักษากันต่อไป ก็ขอให้เร่งบูรณาการและจัดการตรงนี้ให้ดี ซึ่งที่สำคัญ คือ การกำจัดเสร็จแล้ว พวกเศษวัชพืชทั้งหลายเราไม่ได้เอาไปทิ้งข้างนอกใช่หรือไม่ ตนคิดว่าต้องเร่งเอาออก เพราะมันจะก่อให้เกิดน้ำเสีย ฝากไปดูหน่อยให้บริหารจัดการกันต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพราะตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ดีมีสนามบินที่เป็นระดับนานาชาติ มีพี่น้องชาวเวียดนามมาเที่ยวเยอะ ก็อยากให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่กันได้อย่างสมศักดิ์ศรี
นายกฯ กล่าวต่อว่า ซึ่งการกำจัดวัชพืชที่จะต้องมีการประมูลก็ขอให้ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมาย เรื่องที่ 2. การจัดการน้ำห้วยหลวง ซึ่งเรื่องแหล่งน้ำรัฐบาลให้ความสำคัญ เรื่องของการเพาะปลูกเป็นเรื่องที่จังหวัดอุดรธานี มีเกษตรกรเยอะก็ต้องมีการคำนึงถึงภาวะสมดุลระหว่างการใช้อุปโภค บริโภค การใช้ในอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ตรงนี้ขอให้ไปทำให้เหมาะสม โดยให้กรมชลประทานพิจารณาความเหมาะสมในการดำเนินงาน และการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ เข้าใจว่า เมื่อปีที่แล้วมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมีเยาวชนตกลงไปเสียชีวิต เพราะมีวัชพืช ทำให้มองไม่เห็นและลงไป ตรงนี้ก็ฝากเรื่องตรงนี้ด้วยแล้วกัน เรื่องของความปลอดภัยสาธารณะ
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องการจัดงานพืชสวนโลก ปีที่แล้วอย่างที่บอกว่างบประมาณเกินไปเยอะ ก็ต้องขอขอบคุณที่สามารถจัดการงบประมาณ ให้อยู่ในที่กำหนดได้ ซึ่งถือเป็นหน้าเป็นตา และเป็นแหล่งท่องเที่ยว ต่อไปก็ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม ช่วยวางแผนงานระยะยาว ถึงเรื่องการเดินทาง ในการไปงานพืชสวนโลก ให้สะดวกสบายขึ้น ขอให้กรมทางหลวง ทางหลวงชนบท และทางหลวงท้องถิ่นดูแลความเรียบร้อยถนนเชื่อมโยงกับสถานที่จัดงานให้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง มีไฟส่องสว่าง และ มีการบรรเทาการจราจรไม่ให้เกิดการติดขัด ทั้งนี้ เรื่องการใช้งบประมาณเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องดูแลไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น อกจากนี้เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดถือเป็นเรื่องใหญ่ และตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารจัดการประเทศ ก็เน้นย้ำเสมอว่าเป็นวาระแห่งชาติเรื่องของการของบประมาณทางเราสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของการให้ความร่วมมือทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหารและฝ่ายตำรวจ ขอให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตนได้มีการพูดคุยเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา กับแม่ทัพภาคที่ 2 ท่านเองก็ความกังวล แต่ท่านก็คงมีวิธีการในการทำงานต่อไป ขอให้รับฟังคำสั่งจากท่านด้วย เพราะตนได้มีการสั่งการเป็นการส่วนตัวไปแล้วกับท่าน ยังไงก็ขอให้ท่านช่วยดูหน่อยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะปัญหาเกิดขึ้นเยอะจนกระทั่งเราไม่ไหวแล้วต้องมีการทำงานอย่างจริงจัง
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องของเรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี รัฐบาลยินดีที่จะทำตรงนี้ต่อไป อย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องโรงพยาบาลจ.อุดรธานี ที่มีการนำเสนอว่ามีความแออัดอยู่พอสมควร รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ประชาชน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเดินทางไปโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม มี 200 เตียงยิ่งใหญ่ใหญ่เลย เพราะมีหมอเพียง 19 คน โดยให้บริการประชาชน 80% มีความขาดแคลนเรื่องบุคลากรพบว่าตรงนี้เรื่องการเตรียมพร้อมของโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ สถานที่ ซึ่งก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยคือบุคลากรทางแพทย์ไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาลหรือเทคนิคการแพทย์ ถ้าสร้างโรงพยาบาลมาแล้วก็เตรียมแผนรองรับให้ดี ให้มีแพทย์ให้เพียงพอและบุคลากรดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ก็ต้องขอขอบคุณสำหรับการนำเสนอ ทั้งนี้ ดีใจที่มาเยือนก็หวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือและทำ จ.อุดรธานี ให้มีศักยภาพขอขอบคุณสส.ทุกคนที่มาในวันนี้.