“ภูมิธรรม” โบ้ย “ทักษิณ” พักโทษเป็นเรื่องครอบครัว ไม่เกี่ยวปรับ ครม.- เพิ่มแรงกระเพื่อมทางการเมือง

"ภูมิธรรม" ชี้"ทักษิณ" พักโทษเป็นเรื่องครอบครัว ไม่เกี่ยว ปรับ ครม. และไม่สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมือง พรรคร่วมยังชื่นมื่น รอถก กก.ดิจิทัลวอลเล็ตวันนี้ ว่าจะออก พ.ร.บ.กู้เงินหรือไม่

วันนี้ (15 ก.พ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่างถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการพักโทษว่า ไม่ได้เตรียมอะไร เป็นเรื่องของครอบครัว และเรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการ ยุติธรรมเมื่อจบแล้วก็เป็นเรื่องของครอบครัวที่จะไปดูแล ซึ่งยังไม่ทราบว่า จะเป็นเวลาไหนอย่างไร คงเป็นเรื่องครอบครัวที่จะแจ้งเอง ก็ขอส่งกำลังใจ ส่งความปรารถนาดี ซึ่งนายทักษิณคงจะดีใจมากที่ได้กลับไปพบครอบครัว และได้อยู่ด้วยกัน

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อนายทักษิณออกมาแล้วจะเกิดแรงกระเพื่อมโดยเฉพาะเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่เกี่ยวกันเลย เมื่อนายทักษิณกลับมาก็จะไปใช้ชีวิตปกติกับครอบครัว และ ส่วนตัวยังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกระแสข่าวมาเรื่อยๆ ทางคณะรัฐมนตรีเองไม่เคยได้ยิน และยังคงทำงานต่อเนื่อง รหัสจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี ต้องมีการเสนอไปที่นายกรัฐมนตรี และ นายกรัฐมนตรีต้องเห็นด้วยจริงๆว่ามีปัญหา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นนายกรัฐมนตรีพูดอะไร และจัดการนัดรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสและยินดีกับนายกรัฐมนตรี คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ส่วนการที่นายทักษิณออกมาจะให้คำปรึกษารัฐบาลได้หรือไม่นั้นนายภูมิธรรมกล่าวว่า นายทักษิณเป็นคนมีประสบการณ์ซึ่งอาจจะเสนอเรื่องราวต่อสาธารณะได้ทั้งหมด จึงไม่ต้องมาโฟกัสว่านายทักษิณจะมาให้คำปรึกษาอะไรกับรัฐบาล แต่สามารถเสนอ เรื่องอะไรก็ได้ที่เห็นว่าไม่ดีตามประสบการณ์ที่มี ซึ่งก็สามารถเสนอผ่านทางสาธารณะได้อยู่แล้ว

สำหรับรัฐบาล จะสามารถนำข้อเสนอแนะของนายทักษิณไปใช้ได้มากน้อยแค่ไหน นั้นนายภูมิธรรมกล่าวว่ายังไม่ได้คิดว่าจะมีอะไร ขออย่าเพิ่งคิดว่ารัฐบาลต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้หรือนายทักษิณต้องเสนออย่างนั้นอย่างนี้ แต่ตามสิทธิและความห่วงใยต่อบ้านเมืองสามารถเสนอได้อยู่แล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ฟังทุกคน อย่างโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ก็เราฟังความเห็นจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นใคร รัฐบาลก็จะรับฟังความเห็นทั้งหมด

สำหรับกรณีที่มีข้อกังวลการพักโทษของนายทักษิณเพราะมีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า การที่นายทักษิณกลับมาได้ประกาศ เจตจำนง ชัดเจนว่าต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว เพราะจากประเทศไทยไปเกือบ 20 ปี และการ ตัดสินใจ กลับเข้ามา เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นไปตามที่ทุกกลุ่มเรียกร้อง ให้นายทักษิณกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเรื่องทั้งหมดขณะนี้ก็อยู่ที่ศาล และกระบวนการยุติธรรมของไทยที่จะดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบและวิถีปฏิบัติ สิ่งที่นายทักษิณทำเป็นไปตามกระบวนการไม่มีอะไรผิดแปลก สามารถต่อสู้ตามเงื่อนไขและสิทธิที่มี ซึ่งกรณีที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวต้องไปถามว่า ประเด็นที่ออกมาเคลื่อนไหวคือเรื่องอะไร โดยการเคลื่อนไหวในขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางรัฐบาล ซึ่งไม่อยากให้มีการมาเชื่อมโยงกับรัฐบาล หรือนายทักษิณ พร้อมยืนยันว่าสามารถแสดงความคิดเห็นได้และพร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงไม่อยากให้เกิดความกังวลใจหรือไม่สบายใจในเรื่องนี้

นายภูมิธรรม ดังกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่ายังคงอยู่ในไทม์ไลน์ที่เคยบอกไว้ และจะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และจะนำข้อสรุปสุดท้าย เรียนต่อนายกรัฐมนตรี ให้รับทราบ ถ้านายกรัฐมนตรีเห็นด้วยก็จะเสนอเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา ซึ่งกรอบเวลายังคงเป็นไปตามเดิม

ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบาย เติมเงิน10,000บาทผ่านระบบดิจิทัล วอลเล็ต เย็นวันนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะนำข้อคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ เสนอให้ที่ประชุมรับทราบ เพื่อจะทำให้การพิจารณารอบคอบยิ่งขึ้น และจะให้คณะกรรมการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งยืนยันว่าจุดยืนของรัฐบาล ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถือเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ จริงๆ ส่วนการประชุมวันนี้จะสามารถอนุมัติพ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาทได้เลยหรือไม่นั้น ต้องไปสอบถามในที่ประชุม ซึ่งต้องคุยกัน ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวจะล่าช้าเกินไปหรือไม่นั้นนายภูมิธรรมกล่าวว่ามาช้าดีกว่าไม่มา อย่ากลัวว่า ชาเพราะช้าอยู่แล้ว เราก็พยายามฝ่าความช้า และทำความเข้าใจกับกลุ่มคนที่คัดค้าน และพิสูจน์เท่าที่ทำได้ ถึงจุดหนึ่งก็ต้องตัดสินใจ

ส่วนจะมองเรื่องเศรษฐกิจจะวิกฤตหรือไม่วิกฤตนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่าหากถกเถียงในเรื่องทฤษฎีก็ อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ จึงอยากแนะนำทุกคนที่ยังไม่สบายใจ ว่าประเทศยังไม่วิกฤตจริง ให้ไปอยู่กับความเป็นจริง ให้ไปลองพูดคุยกับกลุ่ม SME นักธุรกิจ หรือไปเดินตลาด ไปพบปะกับพี่น้องประชาชน ว่าเขารู้สึกอย่างไร เพราะจากการที่ไปเดินตลาดมาทั่วประเทศไทยแล้ว พบเสียงที่เดือดร้อน คือค้าขายไม่ได้ไม่มีคนมาซื้อสินค้าหรือคนซื้อน้อยลง มีตลอดทุกที่ รวมถึง SME ก็เรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปดูแล ทำอย่างไรให้เศรษฐกิจเติบโตกว่านี้เพราะกำลังซื้อไม่มี รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่แพงและสูง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่ เมื่อวานได้มีการพูดคุยกับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็รู้สึกเหมือนกันว่า ภายใต้รัฐบาล ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเช่นนี้ น่าจะสร้างความเชื่อมั่นและทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ก็ยังมีปัญหาที่ส่งผลกระทบอยู่ จึงอยากให้ รัฐบาลได้ทำอะไรที่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต จึงเป็นประเด็นสำคัญที่จะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเพิ่มกำลังซื้อได้อย่างเต็มที่วันนี้กับประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ไม่มีเงินมาจับจ่ายใช้สอย

นายภูมิธรรม ยังถามสื่อว่า ทานข้าวแพงขึ้นไหมชีวิตความเป็นอยู่ เพียงพอกับค่าครองชีพ ที่สูงขึ้นหรือไม่ เพราะถ้าไม่พอ ก็จะเป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แล้วต้นก็เชื่อว่าทุกคนก็ต้องเจอปัญหา ถ้าลดการเที่ยวน้อยลง กินอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากขึ้น นานๆทีจะกินอาหารที่ อยากกิน ไม่มีปัญญาที่กินได้เหมือนเดิม เพราะไม่มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวม จึงอยากให้ช่วย กันไปดูแล้วช่วยกันคิด มากกว่าว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร หรือจะอ้างจากประสบการณ์ที่ทำ ก็ต้องไปดูว่า 10 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจเป็นแบบไหน เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ ถ้าอยากทำแบบเดิมก็ได้แบบเดิม ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงแก้ไขก็ต้องใช้วิธีคิดแบบใหม่ เพื่อจะได้มีโอกาสทำสิ่งใหม่ๆ