เราเตือนคุณแล้ว! “ดร.อานนท์” ลั่น อย่าข้ามเส้นย่ำยีหัวใจของคนไทยจนเกินไป “พี่คนดี” ร่ายกลอน “เก็บตะวัน ที่คอย ป่วนฟ้า” “สามารถ” ค้าน ดันปม “ขวางขบวนเสด็จฯ” เข้าสภา หวั่นตกเป็นเครื่องมือฝ่ายที่ใช้เด็กไม่กี่คนสร้างเงื่อนไข
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (12 ก.พ. 67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ระบุว่า
“ระวังจะเกิดกลุ่มกระทิงแดง นวพล ผู้ทนไม่ไหว เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อย่าข้ามเส้นย่ำยีหัวใจของคนไทยจนเกินไป เราเตือนคุณแล้ว”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์ข้อความพร้อมบทกลอนหัวข้อ
054/2024 เก็บตะวัน 2024
“เก็บตะวัน ที่คอย ป่วนฟ้า
จับมันมา ติดคุก ทันใด
ถอดประกัน จับมันเข้าคุก เสียใหม่
อย่าปล่อยไว้ ให้เกิน เจ็ดวัน
เก็บตัวนาย ประกัน ด้วยเลย
บวกพวกเคย ผลักหลัง ช่างดัน
ก่อนเจอดี และมีชีวิต แสนสั้น
โดนไทยนั้น รุมกระทืบตาย
แซงขบวน ป่วนอารักขา บ้าบิ่น
หนักแผ่นดิน และหมิ่นฟากฟ้า
ยามตะแบง ตะวันนั้นแฝงแรงบ้า
สั่งให้ฟ้า ทำตาม
หากตะวัน ยังฟัง “พ่อฟ้า”
โชคชะตา คงคุดเร็วไว
ใครอยากมีพรุ่งนี้ ให้เดินเริ่มใหม่
หยุดโดนใช้ ดังเช่นตะวัน”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok:jopstoploss ถึงกรณีที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมจะยื่นญัตติด่วน เร่งหาแนวทางการป้องกันปราบปรามพฤติกรรมข่มขู่ ท้าทายให้ร้าย ป่วนขบวนเสด็จฯ ต่อสภา ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการที่คนไม่กี่คนออกมาไล่ล่าขบวนเสด็จฯ หรือออกมาพูดถึงว่า จะต้องไม่ให้มีการคุ้มครองขบวนเสด็จฯ คนกลุ่มนี้มีเพียงแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น แต่ใช้วิธีการขยายผลโดยโซเชียล
“ผมคิดว่า เรื่องนี้ประชาชนทั่วประเทศเห็นเหมือนกับผมว่า ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจมีหน้าที่และมีภารกิจหลักคือ การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และคุ้มครองความปลอดภัย ทั้งรักษาเกียรติยศของสถาบันกษัตริย์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่นายเอกนัฏ จะต้องเอาเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร อย่าตกเป็นเครื่องมือ ผมไม่เห็นด้วยกับพรรค รทสช.ที่บอกว่า วันนี้จะแสดงจุดยืนแล้วเอาเรื่องนี้เข้าสู่สภาในการที่จะเสนอเป็นญัตติด่วน ท่านพูดได้ เขาเป็นฝ่ายค้านเขาก็พูดเหมือนกัน ซึ่งเวลาเขาพูดแล้วก็จะตัด 5 นาที 3 นาที ไปลงโซเชียล มันจะขยายผลอย่างไร ฉะนั้น ผมไม่เห็นด้วย อย่าเป็นตนเครื่องมือเขา” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า เหมือนครั้งหนึ่งที่มีการออก ส.ป.ก.4-01 ในปี 2537 พรรคฝ่ายค้านในเวลานั้นเอากระจงขาหักไปปล่อย แล้วก็บอกว่าการออกโฉนดออกที่ดิน ส.ป.ก.4-01 นั้น เป็นการเอื้อคนรวย และไม่ใช่การเอาป่าเสื่อมโทรม แต่กลับเอาป่าอนุรักษ์ ซึ่งกระจงนั้นจะต้องอยู่ในป่าอนุรักษ์ ปรากฏว่า เวลานั้นพรรคพลังธรรม เขาไม่เอากับรัฐบาล จึงทำให้ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ต้องประกาศยุบสภา คือ เขาสร้างเรื่องแค่เอากระจงไปปล่อย สุดท้ายท่านก็หลงหลงเชื่อเขาไป
“เช่นเดียวกัน วันนี้เขาเอาเด็กไม่กี่คนออกมาไล่ล่าขบวนเสด็จฯ แล้วก็ออกมาระบุว่า ต้องมีพื้นที่พูดคุยอย่าผลักคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนรุ่นใหม่ก็มีคนที่เอาเจ้า รักสถาบันอยู่แล้ว แต่เอาคนมาไม่กี่คนแล้วบอกว่านี่คือตัวแทนคนรุ่นใหม่ ท่านกำลังจะหลงผิดและตกเป็นเครื่องมือเขา”
นายสามารถ กล่าวต่อว่า วันนี้ พรรคก้าวไกลก็ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล,นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมถึง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ออกมาบอกว่า ต้องใช้พื้นที่สภาในการพูดคุย ต้องนิรโทษกรรมมาตรา 112 ส่วน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล บอกว่า ไม่เห็นด้วย ตนถึงบอกว่า นายวิโรจน์ ควรจะลาออก แล้วไปตั้งพรรคการเมือง ตนจะเชียร์นายวิโรจน์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ แต่รักสถาบันด้วยจะดีมาก
“เมื่อวานก็มีหลายคนออกมาชม นายวิโรจน์ แต่ปรากฏว่า ถ้าจะตีสองหน้า เล่นละคร หน้าอย่างหลังอย่างแบบนี้มันไม่เวิร์ก ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุด ณ เวลานี้ ประชาชนทั้งประเทศเขาเห็นแล้วว่า การกระทำอะไรที่เป็นการลบหลู่พระเกียรติ เขาไม่ทนแล้ว พูดง่ายๆ ไม่ว่าเจอ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน แกนนำกลุ่มทะลุวัง และผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 เมื่อไหร่ เขาจะทำร้ายนั่นคือสิ่งผมบอกที่ไม่ใช่กระบวนการล่าแม่มด แต่เป็นการขบวนการล่าคนที่ย่ำยีหัวใจคนไทยมันเกิดขึ้นแล้ว” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนไม่อยากให้สภาหายไป คำว่า สภาหายไป คือ ถ้าท่านทำให้เกิดความขัดแย้งของประชาชนเมื่อไหร่ ทหารเขาจะปฏิวัติยึดอำนาจ พวกท่านที่นั่งอยู่ในสภา จะตกงานกันหมด ฉะนั้น ท่านต้องเดินให้ถูก เดินให้เป็น ผมอยากเห็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส.อยู่ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า จะไม่เอา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทุกฉบับ ไม่ว่าจะเป็นที่เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน หรือการทำผิดกฎหมาย หรือเรื่องของมาตรา 112 ต้องไม่เอาทุกฉบับ เพราะคนทำผิดต้องได้รับการลงโทษ แล้วจะไม่มีกระบวนการใช้คนออกมาปิดบ้านปิดเมืองอีก ผมกำลังจะบอกว่า กลไกกฎหมายต้องเป็นกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมต้องยุติธรรมกับประชาขน ฉะนั้น อย่าเอากฎหมายมาให้ใครพ้นผิด หรือออกกฎหมายเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ผมอยากเห็นพรรคการเมืองที่อยู่ในสภาฯแสดงแสดงจุดยืนนี้ ถ้าท่านไม่แสดงจุดยืนนี้ ตนมั่นใจว่า ประชาชนทั้งประเทศเขารอเปลี่ยนแปลงอยู่