“ดร.นิว” ซัด “ปิยบุตร” ชี้นำทางความคิด ยั่วยุให้ผู้อื่นทำผิดติดคุกแทนตัวเองไม่พอ ยังชี้นำให้พรรคก้าวไกลพังพินาศ ระบุ ใครคือ ผู้กำกับล้มล้างการปกครองตัวจริงเสียงจริง? “อานนท์” เขียน จ.ม.ถึงลูก หวั่นติดคุกนาน “จำพ่อไม่ได้”
น่าสนใจอย่างยิ่ง วันนี้ (3 ก.พ. 67) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“ผู้กำกับล้มล้างการปกครองตัวจริงเสียงจริง?
ไม่แปลกใจเลยที่นายปิยบุตรเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ออกมาบิดเบือนด้อยค่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยตรรกะอุบาทว์ รวมถึงนายปิยบุตรยังได้แสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อการที่พรรคก้าวไกลนำนโยบายแก้ไข ม.112 ออกจากเว็บไซต์ของพรรค เพราะนายปิยบุตรกับภรรยาชาวฝรั่งเศส คอยบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์มานานแล้ว อีกทั้งยังโจมตีศาลรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด
นายปิยบุตร มีพฤติกรรมชี้นำทางความคิด ยั่วยุให้ผู้อื่นทำผิด ติดคุกติดตะรางแทนตัวเองไม่พอ ยังชี้นำทางความคิดยั่วยุให้พรรคก้าวไกลพังพินาศแทนตัวเองอีกด้วย เพราะถ้าสังเกตดูดีๆ จะพบว่า ข้อเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย ม.112 ของพรรคก้าวไกลมาจากนายปิยบุตร เนื่องจากสอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปซ่อนเร้น ซึ่งเป็นบันไดนำไปสู่การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ร่างแก้ไขกฎหมาย ม.112 ของพรรคก้าวไกล ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.49 แห่งราชอาณาจักรไทย เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (Constitutional Monarchy) จึงน่าค้นหาต่อไปอีกว่า ยังมีใครที่อยู่เบื้องหลังนายปิยบุตรอีกหรือไม่? ใครคือผู้กำกับล้มล้างการปกครองตัวจริงเสียงจริง?
คำตอบของคำถามในข้างต้นโดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหนือยิ่งไปกว่านายปิยบุตร และเป็นผู้กำกับล้มล้างการปกครองตัวจริงเสียงจริง น่าจะเป็น นางเออเชนี เมรีโอ ภรรยาชาวฝรั่งเศส ของนายปิยบุตร เพราะชุดความคิดของพรรคก้าวไกลมาจากนายปิยบุตร แล้วชุดความคิดของนายปิยบุตร ก็มาจากภรรยาชาวฝรั่งเศสอีกต่อหนึ่ง ไม่ใช่ชุดความคิดใดความคิดหนึ่ง แต่แทบจะทุกชุดความคิดที่นายปิยบุตรมี
ชุดความคิดของนายปิยบุตร ทั้งที่บิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้อยค่าศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯ ตลอดจนยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยก คอยบั่นทอนความมั่นคงและอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย แบ่งแยกประชาชนเพื่อชิงอำนาจรัฐ ชี้นำให้เกิดความกระด้างกระเดื่องต่อรัฐ ล้วนแต่เหมือนกับชุดความคิดของภรรยาชาวฝรั่งเศส ราวกับนายปิยบุตรเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดเท่านั้น
เมื่อภรรยาชาวฝรั่งเศสของนายปิยบุตร มีพฤติกรรมบ่อนทำลายความมั่นคงและอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย ดังนั้น นอกจาก ม.112 กับ ม.116 นายปิยบุตร ยังผิด ม.120 ด้วยหรือไม่? ผู้ใดคบคิดกับบุคคลซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของรัฐต่างประเทศ ด้วยความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดการดำเนินการรบต่อรัฐ หรือในทางอื่นที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “อานนท์ นำภา” ได้โพสต์ข้อความ พร้อมเขียนจดหมาย ด้วยลายมือจาก นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากคดีอาญา มาตรา 112 ซึ่งจดหมายดังกล่าวลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ส่งถึงลูกๆ มีเนื้อหาดังนี้
“จะได้ไม่ลืมกัน”
นี่อาจเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่พ่อเขียนด้วยความมุ่งหมายให้ลูกทั้งสองได้อ่าน ในอนาคตที่ลูกพอจะรู้ความ พ่อหวังว่า ลูกทั้งสองจะใช้จดหมายเหล่านี้ เป็นสื่อเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของพวกเราในห้วงเวลาที่เราพลัดพรากกันระหว่างที่พ่อติดคุก นั่นคือความมุ่งหมายแรกที่พ่อเริ่มเขียนจดหมาย แต่ตอนนี้จดหมายต่อจากนี้ มันอาจกลายเป็นสื่อสัมพันธ์ให้พ่อได้อ่าน ในวันที่ความทรงจำของพ่อไม่เหมือนเดิมแล้ว
วันนี้พ่อถูกเปิดตัวไปศาลเหมือนเช่นทุกวัน และมันก็อาจเป็นเหมือนเช่นทุกวัน ถ้าหากมันไม่เกิดเหตุการณ์ช่วงท้ายๆ ก่อนที่พ่อจะเดินจากทุกคนมาจากห้องพิจารณา 805 และมันอาจทำให้ความคิดพ่อยังวกวนกับการกลัวลูกจำไม่ได้ กลัวลูกลืมพ่อคนนี้ไปจากความทรงจำ
มันเป็นเรื่องที่แปลกมากที่หลังจากศาลลงไปจากบัลลังก์ แม่ยื่นเจ้าขาลให้พ่ออุ้มและเดินออกจากห้องพิจารณา สักพักถ้าเป็นเมื่อก่อนเจ้าขาลจะงอแงโผไปหาแม่ แต่วันนี้เจ้าขาลกลับกอดพ่อแน่นและไม่ยอมปล่อย แม้แม่จะพยายามมาแกะตัวเจ้าขาลไป
พ่อคิดว่าเจ้าขาลคงจำพ่อได้ และมีความผูกพันกับคนๆ นี้ คนที่แม่พามาเจอทุกวันที่ศาล และเป็นคนที่ก่อนหน้านี้ 9 เดือนได้นอนด้วยกันทุกวัน
อีกมุมหนึ่งในเรือนจำ พ่อกลับรู้สึกว่าความทรงจำบางเรื่องพ่อเริ่มหายไป เขียนคำบางคำที่เคยเขียนได้ผิดเพี้ยนไป บางเรื่องต้องนึกอยู่นานกว่าจะจำได้ พ่อจึงเริ่มกลัวว่าถ้าในอนาคตพ่อจำอะไรๆ ไม่ได้เหมือนเดิม ความสัมพันธ์พ่อ-ลูกของเราจะมีอะไรให้จดจำ หรือเป็นหลักฐานทางความทรงจำว่า 10-20 ปี ระหว่างพ่อติดคุกเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ถ้าพ่อต้องติดคุก 10-20 ปี และในวันที่พ่อพ้นโทษพ่อจำลูกทั้งสองไม่ได้แล้ว ให้เอาจดหมายทั้งหมดที่พ่อเขียนระหว่างนี้ให้พ่ออ่านนะ เราจะได้ไม่ลืมกัน”