ผิดหวัง! “ปวิน” ยอมรับ “ฝันหวาน” หลังมีรัฐบาลเศรษฐา คิดว่า สถานการณ์ 112 จะดีขึ้น กลับพบว่า แย่ลงกว่ายุค “ประยุทธ์” อ้าง เยาวชนบางส่วนติดต่อขอให้ช่วยลี้ภัย “อานนท์” เขียนจดหมายจากแดน 4 ห่วงภรรยา-ลูก 2 คน
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (21 ต.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ โพสต์ข้อความระบุว่า
“ตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐาขึ้นมาสู่อำนาจ ประเทศไทยมีอะไรที่เปลี่ยนไปจากยุคประยุทธบ้าง? ที่แน่ๆ สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนเปลี่ยนไปค่ะ คือ แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด การจับกุม ลงโทษ ผู้ที่โดนมาตรา 112 ยังมีต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้น ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีเยาวชนอีกจำนวนหนึ่งติดต่อดิชั้นมาเพื่อขอให้ช่วยเรื่องลี้ภัย นี่ในอดีตเราเคยคิดว่า ถ้าเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล สถานการณ์ 112 คงจะดีกว่านี้ สรุปว่า วันนี้ กูฝันหวานค่ะ รัฐบาลนี้ยังปล่อยให้มีการจับ 112 กันต่อไป และมากขึ้น ที่สำคัญ เพื่อไทยชูธงแล้วว่า รัฐบาลนี้จะไม่พูดถึง 112 ในรัฐสภาอย่างแน่นอน -- so เมืองไทยไม่ได้เปลี่ยนห่าอะไรทั้งสิ้น”
ขณะเดียวกัน วานนี้ เพจเฟซบุ๊ก อานนท์ นำภา เปิดเผยจดหมายเขียนด้วยลายมือจาก นายอานนท์ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากคดีอาญา มาตรา 112 โดยจดหมายดังกล่าว ส่งถึงลูกทั้ง 2 คน เนื้อหาระบุว่า
“ถึง ปราณ และ อิสรานนท์ ลูกรักทั้งสองและสวัสดีลุงป้าน้าอาที่กำลังอ่าน จ.ม. นี้อยู่
กว่า อิสรานนท์ จะอ่านจดหมายฉบับนี้ได้ เธอคงอายุสัก 5 ขวบ ส่วนปราณก็ 13 ขวบแล้ว
ขณะที่พ่อเขียนจดหมายฉบับนี้ พ่อถูกขังที่คุก เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และในวันที่ อิสรานนท์ อ่านจดหมายฉบับนี้อยู่ ก็คงครบเวลา 5 ปี เช่นกันที่พ่อยังสูญเสียอิสรภาพ
อยากให้ลูกทั้งสองระลึกเสมอว่า ลูกทั้งสองเติบโตมาด้วยความรักของพ่อกับแม่และพี่น้องประชาชน ในยามที่ครอบครัวเรายากลำบาก พ่อต้องติดคุกด้วยคดีการเมือง
พี่น้องประชาชนต่างยื่นมือให้ความช่วยเหลือ แม่ของเธอนอกจากต้องทำงานหนักขึ้น ตอนนี้ยังทำเสื้อออกขายเพื่อหาเงินมาดูแลเธอทั้งสอง รวมทั้งพ่อที่อยู่ในเรือนจำตอนนี้ด้วย นอกจากนั้น เรายังเปิดรับการช่วยเหลือเป็นกองทุนเล็กๆ เพื่อดูแลนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ที่ร่วมต่อสู้ รวมทั้งครอบครัวของพวกเขาเหล่านั้นด้วย
ให้ อิสรานนท์ ระลึกไว้ว่า เธอเติบโตขึ้นมาได้ นอกจากสองมือแม่ที่อุ้มแล้ว ยังมีบรรดาลุงป้าน้าอาที่ศูนย์ทนายที่คอยดูแล อุ้ม ป้อนข้าว ตอนที่พ่อไม่อยู่
ปราณต้องช่วยดูแลน้องแทนพ่อ และพ่อเชื่อว่าลูกจะทำได้
รักและคิดถึงลูกทั้งสองคน
อานนท์ นำภา แดน4 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ”