หยั่งกระแสเลือกตั้ง อบจ.สุราษฎร์ฯ ขุมกำลังขั้วตรงข้ามมาแรง ปชช.ต้องการความเปลี่ยนแปลง ทวงถามนโยบายนายกฯ คนปัจจุบัน อยู่มาจะครบ 4 ปี ได้ทำตามที่หาเสียงไว้หรือไม่?
ใกล้เข้ามาสำหรับการเลือกตั้ง นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นศึกใหญ่ระหว่าง 2 ตระกูล คือ "บ้านกาญจนะ" ที่จะส่ง นายสุรินทร์ บุญประสพ น้องชายของ นางโสภา กาญจนะ หรือที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียก "ป้าโส" หญิงเก่งผู้มากบารมี ภรรยาของนายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.ในพื้นที่หลายสมัย ชิงชัยกับนายก อบจ.สุราษฎร์ธานีคนปัจจุบัน คือ กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว ซึ่งอยู่ในช่วงขาลง คะแนนความนิยมลดลงอย่างมาก อีกทั้งขุมกำลังของ “บ้านกาญจนะ” ในการสู้ศึกเลือกตั้ง นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ครั้งนี้ ดูจะครบเครื่องมากกว่า เพราะรอบนี้ทุกพื้นที่พร้อมใจช่วย "ป้าโส" โดยมีทีมงานจาก สส. สจ. ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ที่มีชื่อเสียงในพื้นที่มาร่วมเป็นกำลังหลักให้
ที่สำคัญยังมีประเด็นคือการที่ กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว กำลังสูญเสียฐานที่มั่นในเรื่องของแรงศรัทธาของประชาชนที่ลดลง โดยเฉพาะมรสุมที่กำลังถูกชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี ร้องเรียนเรื่องการทุจริตก่อสร้างสะพานแก้วที่เกาะลำพู งบประมาณเกือบ 400 ล้านบาท โดยถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจัดทำงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง เท่ากับงบประมาณของ อบจ.สุราษฎร์ธานี ในการบริหารจัดการพัฒนาจังหวัดทั้งปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกอบจ.สุราษฎร์ธานีคนปัจจุบัน ซึ่งอยู่มาจะครบวาระ 4 ปี แต่เกิดคำถามขึ้นว่า มีนโยบายไหนที่ทำสำเร็จแล้วบ้าง
ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อช่วงการเลือกตั้งปี 2563 ที่ผ่านมา กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว มีสโลแกนในการหาเสียงคือ “เบอร์ 6 6 นโยบาย 6 ยุทธศาสตร์” พร้อมผลักดันจังหวัดสุราษฎร์ธานีสู่เมืองอัจฉริยะ (Surat Smart City)โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.Smart City – Smart E-Learning ส่งเสริมการเรียน 3 ภาษา (ฟรี) Smart Health สุขภาพดีไม่ต้องจ่าย Smart Safety ศูนย์ควบคุมความปลอดภัยด้วยระบบ AI
2.น้ำคือชีวิต น้ำคืออาหาร น้ำคือรายได้
3.1 ตำบล 1 ล้านบาท ส่งเสริมอาชีพส่งเสริมรายได้ทั่วทุกครัวเรือน
4.1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยว
5.การกีฬาควบคู่การท่องเที่ยว ส่งเสริมกีฬาไปสู่การท่องเที่ยวให้เป็นต้นแบบของภาคใต้
6.ส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น
นโยบายหาเสียงเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประชาชนเฝ้าติดตามและตั้งความหวังว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา มีนโยบายข้อไหนที่สามารถทำให้สำเร็จหรือเกิดขึ้นเป็นจริงบ้าง ประชาชนเลยอยากฝากทวงถามไปถึงท่านนายก อบจ. สุราษฎร์ธานีคนปัจจุบัน ว่าได้ทำตามที่หาเสียงไว้หรือไม่
ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้อาจกลายเป็นแรงเหวี่ยงย้อนกลับ ทำให้ประชาชนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีตื่นตัวลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพื่อใช้ “อำนาจบนปลายปากกา” เลือกตัวบุคคลและนโยบายที่สามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและความหวังต่ออนาคตของพวกเขาได้จริง