สุราษฎร์ธานี - ที่ปรึกษา รมว.ทส. ลงพื้นที่เกาะเต่า ติดตามการก่อสร้างรีสอร์ตหรูบนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เบื้องต้นพบอาคารห้อง C5C สร้างอยู่ในระดับน้ำไม่เกิน 10 เมตร ใช่โขดหินเป็นผนัง เบื้องต้นทางโครงการจะรื้อถอนอาคาร
วันนี้ (25 มิ.ย.) ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายชีวภาพ ชีวธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง ทส. นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 สุราษฎร์ธานี และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่มีข่าวการร้องเรียนผ่านทางโซเชียล โดย FACEBOOK ชื่อว่า ชมรม STRONG ต้านทุจริต จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยการแชร์ภาพจากนักท่องเที่ยวที่ได้แชร์ลงใน Tiktok ส่วนตัว ถึงรีสอร์ตชื่อว่า Cape Shark Villas ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะเต่า ถึงการสร้างสิ่งปลูกสร้างอาคารและแนวเขตพื้นที่บนเกาะนั้น
โดยที่ปรึกษา ทส.และคณะได้ร่วมประชุมรับฟังข้อมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้อำนวยการสำนักงาน ทสจ. สุราษฎร์ธานี นายกเทศบาลตำบลเกาะเต่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม เทศบาลเกาะเต่า อำเภอเกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งได้ร่วมลงตรวจสอบพื้นที่ร่วมกัน
จากการประชุมและการตรวจสอบพื้นที่ในเบื้องต้น พบว่า รีสอร์ต Cape Shark Villas ตั้งอยู่บนพื้นที่เกาะเต่า ซึ่งเป็นที่ดินของราชพัสดุ โดยอยู่ในการกำกับดูแลของหน่วยงาน กรมธนารักษ์ มีบริษัท เคปชาร์ค พูล วิลล่า จำกัด เป็นผู้ครอบครองอาคารที่ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 21/9 หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อาคารหลังดังกล่าว (ห้อง C5C) เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นเดียว จำนวน 1 หลัง มีพื้นที่ 48 ตารางเมตร โดยเจ้าของอาคารไม่ได้ขออนุญาตการก่อสร้างจากเทศบาลตำบลเกาะเต่า และพื้นที่ครอบครองยังไม่ได้ดำเนินการเช่าที่ดินจากหน่วยงานกรมธนารักษ์ เบื้องต้น เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้สั่งห้ามมิให้บุคคลใดเข้าไปใช้พื้นที่ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
จากกรณีดังกล่าว ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พื้นที่เกาะเต่า มีเฉพาะพื้นที่ที่เป็นทะเลและชายฝั่ง ตามคำสั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 832/2565 เรื่อง การคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บริเวณพื้นที่เกาะเต่า เกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน และเกาะสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ตามความในมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 โดยมีสาระสำคัญ คือ ห้ามทอดสมอเรือบริเวณแนวปะการัง ห้ามให้อาหารสัตว์น้ำ ห้ามเท ทิ้ง ระบาย ของเสีย น้ำเสีย ขยะมูล สิ่งปฏิกูล หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ห้ามบุคคลใดที่ใช้ครีมกันแดดซึ่งมีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อแนวปะการัง
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุม นายชีวภาพ ชีวธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง ทส. กล่าวว่า จากการลงพืันที่ตรวจสอบพบความผิด ดังนี้ ในส่วนของพื้นที่ที่สร้างอาคารยังไม่เช่าพื้นที่จากธนารักษ์ แต่ผู้ประกอบการมีการปักหมุดการก่อสร้างในพื้นที่หลายจุด และได้ดำเนินการก่อสร้างไปก่อนจึงคิดว่าไม่มีอะไร ผู้ประกอบการจึงทำไปโดยพลการ จึงมีความผิดในการขอเช่าพื้นที่จากธนารักษ์พื้นที่ และ ความผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคารและอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบเรื่องพิกัดและแนวเขตอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งทางผู้ประกอยการเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถยื่นอุธรณ์ต่อทางจังหวัดได้ เบื้องต้น พบว่าอาคารดังกล่าวสร้างบนโขดหิน ใช้หินเป็นผนัง และอยู่ในระดับน้ำไม่เกิน 10 เมตร
นายชีวภาพ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามจากการประชุมทางผู้ประกอบการได้ขอเข้าชี้แจง ซึ่งได้ขี้แจงข้อกฎหมายต่างๆ ให้ทราบ ซึ่งในการประชุมเบื้องต้นทางผู้ประกอบการจะรื้อถอนอาคารดังกล่าว
ด้านตัวแทนผู้ประกอบการเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 ได้ยื่นเอกสารขอเช่าที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สฎ.588 (แปลงเกาะเต่า) ต่อธนารักษ์พื้นที่ (สุราษฎร์ธานี) ตั้งอยู่ ม.3 ต.เกาะเต่า อ.เกาพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนเนื้อที่ 18 ไร่ วัตถุประสงค์การเช่าเพื่อประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โดยินยอมปฏิบัติตามระเบียบและเงื่อนไขของทางราชการทุกประการ แต่ปัจจุบันยังได้รับการอนุมัติ แต่ยอมรับผิดว่าได้ดำเนินการไปก่อนก่อนที่จะได้รับการอนุญาต และไม่ได้ขออนูญาตการก่อสร้าง จากเทศบาลตำบลเกาะเต่า ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจะดำเนินการขออนุญาตย้อนหลัง
