xs
xsm
sm
md
lg

เทวดาของแทร่! นอนชั้น 14 ฉลุย ฝากเตือน หากผิดขึ้นมา “แม้ว”ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า แต่ขบวนการช่วยเหลือจะอยู่ค้ำคุกแทน!! **อุต๊ะ!! “ช้าง”บอดี้การ์ด-คนขับรถข้างกาย "แม๊..ภนิดา" ไม่ธรรมดาอดีตลูกชายเสี่ยใหญ่โคราช-ขายมือถือออนไลน์ รายได้นับ 10 ล้าน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**เทวดาของแทร่! นอนชั้น 14 ฉลุย ฝากเตือน หากผิดขึ้นมา “แม้ว”ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า แต่ขบวนการช่วยเหลือจะอยู่ค้ำคุกแทน!!

ไม่เหนือความคาดหมาย กรมราชทัณฑ์ร่อนเอกสารแถลงข่าวออกมาเรียบร้อย เห็นชอบให้ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษเด็ดขาดคดีทุจริต 3 คดี นอนรักษาตัวบนชั้น 14 รพ.ตำรวจต่อไป หลังจากเลยกำหนด 120 วันไปแล้ว นับแต่ออกมารักษาพยาบาลภายนอกเรือนจำ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2566

อ้างความเห็นของแพทย์ที่รายงานไปยังราชทัณฑ์ว่า “ทักษิณ” ยังมีอาการเจ็บป่วยหลายประการที่ต้องเฝ้าระวัง ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางและต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่ “อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต” จะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที

โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้พิจารณาเห็นชอบ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 ส่วนรายละเอียดอาการป่วยของ “ทักษิณ”นั้น หัวเด็ดตีนขาด ยังไงก็เปิดเผยไม่ได้ เพราะต้องเคารพในหลักสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยและจรรยาแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูลด้วย

ทั้งยังมี พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ตลอดจนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 และข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกร พ.ศ. 2549 ข้อ 27 ซึ่งแพทย์ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด!!

เราๆ ท่านๆ ก็ได้แต่สงสัยว่า ทำไมข้ออ้างที่จะปกปิดอาการของ “ทักษิณ”นั้นมีมากมาย สาธยายแทบไม่หมดว่ามีกฎหมายตัวไหน ตัวไหน แต่ข้ออ้างที่จะให้ “ทักษิณ”อยู่นอกคุกต่อ มีแค่ “ความเห็นแพทย์” อย่างเดียว จบ

ส่วนรัฐมนตรียุติธรรมอย่าง “ทวี สอดส่อง” ก็พยายามลอยตัว ท่องคาถา “ยังไม่ได้รับรายงาน” อย่างเดียว ทั้งเรื่องทักษิณ ได้นอนชั้น 14 ต่อ และเรื่องกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนฯจะไป “ศึกษาดูงาน” ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในวันนี้ (12 ม.ค.) ก็เช่นกัน

ไฮไลต์หนึ่งของเมื่อวาน คือ การประชุม “คณะกรรมการราชทัณฑ์” ที่มีการนำเรื่องระเบียบคุมของนอกเรือนจำ เข้าพิจารณาในที่ประชุมด้วย ซึ่ง “ทวี สอดส่อง” ก็ย้ำคำเดิมว่า ไม่ได้เจาะจงใคร เป็นการนำเข้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ร่วมรับทราบ หลังจากมีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ วันที่ 6 ธ.ค.66 โดยไม่ได้มีการระบุถึงตัวบุคคลหรือสถานที่ใดๆทั้งสิ้น

ส่วนคำถามที่ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” จะเข้าข่ายได้รับประโยชน์จากหลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น “ทวี สอดส่อง” ไม่ยอมตอบ ได้แต่โบ้ยว่า ให้เป็นไปตามอำนาจของ ผบ.เรือนจำแต่ละแห่ง ไปพิจารณาคัดเลือกกันเอาเอง

ทักษิณ ชินวัตร
ซึ่งเรื่องนี้ ก็มีข่าวแว่วมาว่า คนราชทัณฑ์ ยังไม่มีใครกล้าเซ็นให้ผู้ต้องขังคนไหนเข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิไปนอนนอกเรือนจำตามระเบียบดังกล่าว แม้ตัวระเบียบจะมีผลใช้บังคับมาจนครบเดือนแล้วก็ตาม

ขบวนการเอื้ออำนวยให้ “นักโทษเทวดา” ได้นอนสบายนอกเรือนจำต่อ ไม่ได้มีแค่ฝั่งราชทัณฑ์ ทางโรงพยาบาลตำรวจ ก็ดูเหมือนจะเป็นใจ เมื่อทางนายแพทย์ใหญ่ไฟเขียวครึ่งไม่ไฟเขียวครึ่ง ให้คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนฯ เข้าไป “ศึกษาดูงาน” เกี่ยวกับการนำตัวผู้ต้องขังที่ส่งจากราชทัณฑ์มารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ในวันนี้(12 ม.ค.) โดยจัดห้องประชุมชั้น 6 อาคารศรียานนท์ ไว้ต้อนรับ แต่ห้ามขึ้นไปพิสูจน์บนชั้น14 โดยเด็ดขาด เพราะเป็นการละเมิดสิทธิของคนไข้ หากคนไข้ไม่อนุญาต

แต่มุมหนึ่ง ท่าทีของกรรมาธิการตำรวจฯ ก็น่าสงสัยอยู่เหมือนกันว่า การมารพ.ตำรวจวันนี้ เป็นแค่ “ประชาธิปัตย์การละคร” หรือไม่ เพราะประธานกรรมาธิการตำรวจฯ “ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.นครศรีธรรมราช คือเด็ก “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนล่าสุด ที่พร้อมจะเข้าเสียบเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ทุกเมื่อ

ทีแรก ก็เห็นออกข่าวขึงขังว่าจะพาคณะกรรมาธิการฯ บุกชั้น14 รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่า “นช.ทักษิณ” ยังรักษาตัวอยู่ หรือป่วยจริงหรือไม่ แต่เอาเข้าจริงก็แค่มา“ศึกษาดูงาน” เขาให้อยู่แค่ชั้น 6 ก็ว่านอนสอนง่าย ไม่หือไม่อือ อะไรออกมาสักแอะ

ตัดภาพมาที่สภาผู้แทนราษฎร คนของพรรคเพื่อไทยยังคงทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ยนายใหญ่อย่างขยันขันแข็ง ในการประชุมสภาฯ เมื่อวาน เมื่อ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้าน ได้ตั้งกระทู้ถามถึงการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพาดพิงมาถึงชั้น 14 กรณที่รัฐบาลชุดนี้ยังคงปล่อยให้มีการคุกคามทางการเมือง กระทบสิทธิของประชาชน เกิดกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน มีคนได้รับการรักษาบนชั้น 14 ซึ่งเกินเวลา 120 วัน เทียบกับนักโทษรายอื่นที่ไม่ได้รับสิทธิ

“เดอะอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ จึงลุกขึ้นมาตอบโต้ว่า เรื่องชั้น 14 ขอให้ทำความเข้าใจในกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางความเข้าใจ อย่าโยนเรื่องให้รัฐบาลและอย่ามองว่าเกิดความสองมาตรฐาน

“ขอให้เปิดให้กว้าง ไปให้ไกล ไปให้ถึงประชาชนเป็นหลัก อย่าวนเฉพาะชั้น 14” ภูมิธรรม เหน็บกลับผู้นำฝ่ายค้าน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
ส่วน ไชยวัฒนา ติณรัตน์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ก็ได้ลุกประท้วงหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นระยะๆ พร้อมซัดกลับว่าเลอะเทอะ ที่ยังพาดพิงถึงนักโทษชายชั้น14 ไม่หยุด ทำให้ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ตัวตึงแห่งพรรคก้าวไกล ลุกประท้วง พร้อมเหน็บกลับไปว่า “ทำไมแตะคนชั้น 14 ไม่ได้ จะเอาโอเลี้ยงและข้าวผัดไปเยี่ยมที่ชั้น14” สส.ไชยวัฒนา ก็ไม่ยอม ประท้วงตอบโต้ไปมา จนส่อจะบานปลาย ประธาน “วันนอร์” จึงต้องรีบเบรกไว้ก่อน

สรุปว่าขบวนการช่วยเหลือ โอบอุ้ม ปกป้อง “นักโทษเทวดา” มีกันอยู่แทบจะทุกองคาพยพ ทั้งสภาฯ ราชทัณฑ์ ตำรวจ

ก็อยากจะฝากไว้ให้คิดสักนิดว่า ช่วย“ทักษิณ” วันนี้ ถ้าวันหน้าเกิดผิดขึ้นมา “ทักษิณ”ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า แต่คนที่ร่วมขบวนการช่วยเหลือนี่แหละ จะอยู่ค้ำคุกแทน

**อุต๊ะ!! “ช้าง”บอดี้การ์ด-คนขับรถข้างกาย "แม๊..ภนิดา" ไม่ธรรมดาอดีตลูกชายเสี่ยใหญ่โคราช-ขายมือถือออนไลน์ รายได้นับ 10 ล้าน!

ฮอตได้ต่อเนื่อง สำหรับ “คุณแม๊” ภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือ แม่ของแตงโมดาราสาวผู้ล่วงลับ จากความเคลื่อนไหวเบื้องหลังคดีลูกสาวที่กลับมาอยู่ในพื้นที่ข่าวหลังจากที่หายเงียบไปนาน มาสู่ชีวิตความเป็นอยู่ส่วนตัวที่ทำไปทำมากลายเป็นประเด็นดรามา กระตุ้นต่อมขาเผือกอยากรู้อยากเห็นมากกว่าเรื่องของแตงโม หรือเรื่องเงินๆ ทองๆ ไปแล้ว

เรื่องของเรื่องโฟกัสไปที่ "ช้าง-สมบูรณ์" ที่ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด-เลขาฯ และคนขับรถให้คุณแม๊...นั่นไงไม่ใช่คนอื่นคนไกล!

ภนิดา ศิระยุทธโยธิน
แหงแซะขาเมาต์บนโลกโซเชียลฯ ก็จับไปดรามาเมื่อ “ทนายชัยวัฒน์” ออกมาแฉ “แม๊ภนิดา”ชุดใหญ่รวมไปถึงความสัมพันธ์กับ สมบูรณ์ หรือ ช้าง ผสมโรงด้วย "ภาพหลุด" หนุ่มช้างจูจุ๊บแก้มคุณแม๊ ที่้เป็นเหตุสงสัยทั้งคู่ต้องมีสัมพันธ์ฉันไหนกันหนอ?

กระทั่งกระแสดรามาแรงจนเกินต้าน ในที่สุด "แม๊ภนิดา" ก็เปิดเผยความสัมพันธ์ กับ สมบูรณ์ หรือ “ช้าง” ในรายการโหนกระแสของ "หนุ่มกรรชัย" พูดตรงประเด็นไปที่ ช้างไม่ใช่ "สามี" นะคะ!

แน่ๆ อย่างที่แม๊เคยบอก ช้างทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด และคนขับรถ ต่อจากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขาฯ ทำเอกสารให้แม๊ โดยว่าจ้าง 2 หมื่นบาทต่อเดือน

“คุณแม๊ภนิดา” ยังเปิดเผยโปรไฟล์ของ “ช้าง”ในอดีต เป็นลูกชายเจ้าของโรงงานทำขนมปังอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา เรียกว่า บิดารวยมาก เป็นเสี่ยใหญ่และใหญ่ที่สุดในโคราช

“ช้าง”จึงจัดว่าเป็นคนมีฐานะ รวยไม่รวยก็เคยซื้อกางเกงยีนส์เป็นพันตัว และ ซื้อรองเท้าเป็นพันคู่

ความอู้หูของช้างยังไม่หยุดแค่นี้ คุณแม๊ยังว่า ก่อนนี้ช้างเขาเคยประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าออนไลน์ ขายมือถือทำรายได้จากการขายเป็น10 ล้าน!

วันนี้ “สมบูรณ์” หรือ “ช้าง” อยู่ว่าง จึงมารับงานขุ่นแม๊ รับเงินเดือน 20,000 บาท ทำงานและพักอยู่คอนโดฯ เดียวกัน

นี่เป็นโปรไฟล์ของช้างที่ออกจากปากคุณแม๊ภนิดา...ฟังแล้วก็อาจจะมีดรามาตามมาได้อีกว่า ชีวิตอะไรจะเหมือนดั่งละครปานน้าน...คุณแม๊!


กำลังโหลดความคิดเห็น