xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

คำอธิบาย “อย่างฮา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โสภณ องค์การณ์"

คงทนกระแสกดดันจากสังคมไม่ไห เกี่ยวกับ  “นักโทษชายโทนี่ดูไบ” จึงมีเจ้าหน้าที่รัฐออกมาชี้แจงสารพัด ยิ่งอธิบายมากยิ่งทำให้ชาวบ้านเข้าใจยาก ล่าสุดเจ้าหน้าที่กรมคุกออกมาอธิบายว่านักโทษชายโทนี่ไม่ได้อยู่ห้องพิเศษ แต่อยู่ชั้น 14 ซึ่งเคยรักษาผู้ป่วยโรคโควิด ก็ยิ่งทำให้รู้สึกพิลึกเข้าไปใหญ่

เจ้าหน้าที่อ้างว่า อันที่จริงนักโทษชายโทนี่ เป็นโรคหัวใจต้องอยู่ห้องไอซียูแต่ห้องไอซียูไม่ว่างจึงต้องเอาไปไว้ห้องชั้น 14 ก่อนหน้านี้บอกว่าเป็น 4 โรค

วันที่มาถึงเห็นเดินกระฉับกระเฉง ลุกนั่งกราบไหว้ดูไม่ติดขัด หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีอาการของคนป่วย แต่หลังจากเข้าคุกไม่กี่ชั่วโมงก็มีนายตำรวจใหญ่ไปรับมาอยู่โรงพยาบาลตำรวจ อ้างว่าความดันขึ้นสูง จากนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นหน้าตานักโทษชายโทนี่ เว้นแต่วันที่ถูกเข็นอยู่บนเตียงมาตรวจเอ็มอาร์ไอซึ่งถูกมองว่าเป็นการสร้างภาพจัดฉากแหกตาชาวบ้าน

ฟังดูก็แปลก ถ้าเป็นโรคหัวใจและต้องอยู่ในห้องไอซียูแล้วบอกว่าไม่ต้องอยู่ในห้องไอซีก็ได้ เอาไปไว้ห้องที่เคยรักษาผู้ป่วยโควิด และนักโทษชายโทนี่ก็ยอม

ที่ยอมนั้นเพราะไม่รู้ว่ามีตัวตนอยู่ในห้องชั้น 14 ที่ว่าหรือไม่เพราะไม่มีใครยืนยัน ไม่มีใครเห็นตัว และไม่มีใครอธิบายได้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร

 ก่อนหน้านี้ลูกสาวบอกว่าเป็นผู้ป่วยระดับเทวดา ดังนั้นจึงเป็นโรคทิพย์ เฉพาะกายทิพย์ คนมองไม่เห็น ซึ่งต้องอิ่มทิพย์ และทุกอย่างเป็นทิพย์ และ น่าจะมี “ทิปพิเศษ” ก้อนใหญ่ สำหรับผู้ตอบสนองความต้องการด้วย อาจจะเป็นอะไรก็สุดแล้วแต่ความพอใจของผู้ให้และผู้รับ ดังนั้น จึงไม่มีใครรู้ว่าโรคทิพย์ ลึกลับมีอาการรุนแรงอย่างไรและต้องใช้เวลารักษาอาการนานแค่ไหน

ก่อนหน้านี้ลูกสาวออกมาเจื้อยแจ้วว่าผู้ป่วยเทวดาอยู่ในขั้นพักฟื้น ซึ่งก็จะไปแย้งกับกฎระเบียบของทางการว่าการพักฟื้นนั้นไปอยู่ในโรงพยาบาลในเรือนจำก็ได้

นี่ก็ใกล้จะครบ 120 วันซึ่งจะต้องมีคำอธิบายชัดเจนว่าทำไมผู้ป่วยจึงไม่หาย และทำไมแพทย์จึงดูเหมือนมีความสามารถไม่เพียงพอและไม่มีความพร้อมในการรักษา

เจ้าหน้าที่กรมคุกก็ออกมาอธิบายกฎระเบียบใหม่ว่าให้นักโทษไปอยู่นอกคุกได้ว่า ไม่ได้เป็นการเจาะจงทำเพื่อนักโทษชายชายโทนี่ แต่เตรียมทำไว้นานแล้ว มันบังเอิญพอดีกับการที่ไม่มีวาระอภัยโทษสำหรับนักโทษวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งดูแล้วความบังเอิญมันจะเป๊ะเกินไป ทำให้มีแต่คนบ้องตื้นเชื่อ

 มีเสียงร่ำลือ ว่าถ้านักโทษชายโทนี่ไม่ได้รับประโยชน์จากระเบียบใหม่วันที่ 25 เดือนนี้ก็อาจจะต้องทนอยู่บ้านสลับกับโรงพยาบาลต่อไปจนถึงเดือนกุมภาหรือมีนาปีหน้าโน่น

ทุกวันนี้ก็อยู่ในสภาพเป็นบุคคลเหนือรัฐธรรมนูญ มีเสียง ค่อนแคะนินทา จากชาวบ้านว่าระเบียบกรมคุกอยู่เหนืออำนาจศาลและคำพิพากษา

ไม่ว่าศาลจะสั่งตัดสินให้จำคุกเวลาเท่านั้นเท่านี้ปี กรมคุกสามารถออกระเบียบ สำหรับกำหนดการลดโทษ ได้ถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางกฎหมายและระเบียบ

 กรณีของนักโทษชายโทนี่ ได้สร้างให้ความน่าเชื่อถือต่อประเทศไทย รัฐบาลไทย กระบวนการยุติธรรม ระบบนิติรัฐนิติธรรม อยู่ในภาวะวิกฤตรุนแรง

 นั่นเป็นเพราะสังคมมองว่ากรมคุก มีอำนาจเหนือคำพิพากษาของศาล ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าคุกมีไว้ขังคนจนอย่างที่คนพูดเสียดสีเปรียบเปรยจริงหรือ

หรือถ้าบังเอิญคนรวยหรือคนมีตำแหน่งจำเป็นต้องติดคุกก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่เป็นนักโทษจริงจังเหมือนกับคนอื่นเพราะจะมีอาการป่วย ถ้าไม่ต้องอยู่ในโรงพยาบาล

อีกทั้งเป็นเพราะนักการเมืองหรือข้าราชการที่มีเหตุต้องติดคุกมักเป็นผู้สูงอายุ ขาดการออกกำลังกายและมีความเครียดชนิดเฉียบพลัน ความดันสูง แบบเร่งด่วนทำให้ไม่ต้องนอนในห้องขัง

ข้อครหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดผลด้านลบอย่างแรงต่อกระบวนการยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ดังจะเห็นกรณีนักโทษชายโทนี่ว่าไม่มีใครกล้าพูดถึง

แม้แต่ผู้นำรัฐบาลเศรษฐีเศรษฐา หรือรัฐมนตรียุติธรรมก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากเมื่อถูกซักถามด้วยผู้สื่อข่าว แสดงว่านักโทษชายคนเดียวมีอำนาจเหนือรัฐไทยอย่างแท้จริง เป็นที่ประจักษ์ชัด

 และทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะน่าสมเพชเวทนาในสายตาประชาคมโลกว่าระบบนิติรัฐนิติธรรมและรัฐธรรมนูญเป็นเพียง “สิ่งทิพย์” ใช้งานไม่ได้จริง

ผู้นำรัฐบาลพร้อมที่จะพูดทุกเรื่องแต่เรื่องนักโทษชายโทนี่ถือเป็นเรื่องเกินอาจเอื้อม เพราะสามารถชี้เป็นเชื้อตายต่อชะตากรรมของรัฐบาลหรือรัฐมนตรี

ประเทศไทยจึงคงติดอยู่ในกับดักอำนาจของนักโทษชายโทนี่และครอบครัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีอิทธิพลเต็มบ้อง ไม่มีใครทำอะไรได้ มีกฎหมายคุ้มครอง ใครจะไปเดินขบวนขับไล่ เรียกร้องให้ปรากฏตัว หรือเอาหลักฐานการเจ็บป่วยมาแสดง ก็ไม่เป็นผล

เป็นทั้งเรื่องกระเทือนต่อความน่าเชื่อถือต่อระบบจริยธรรมและอาชีพแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลราชทัณฑ์อย่างปฏิเสธไม่ได้

ต่อไปนักโทษชายโทนี่คงต้องย้ายจากเรือนจำซึ่งไม่เคยใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง ไปอยู่ใน “เรือนจันทร์” ซึ่งเป็นเสมือนคฤหาสน์สุขสบาย อยู่ในสภาวะเร่งปรับปรุง อีกไม่นานซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 คงต้องคึกคักด้วย ยานพาหนะของผู้ไปเยี่ยมเยียน ขอความอนุเคราะห์ด้านหน้าที่การงานและโครงการต่างๆ

สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนไม่แน่นอน อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ได้ ในสภาวะไฟสุมขอนอย่างนี้ ความไม่พอใจของประชาชนจะถึงจุดระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้เช่นกัน

 ความลำพองอำนาจ มักจะทำให้บุคคลเป็นเหยื่อของประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเสมอ จุดจบมักไม่สวย ทั้งยังเร็วเกินคาดอีกด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น