xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลยกผลศึกษานักเศรษฐศาสตร์ ชี้ Digital Wallet มีผลสำคัญต่อการกระตุ้นการเติบโต GDP ได้ดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกรัฐบาล เผย ผลการศึกษาจากนักเศรษฐศาสตร์ยืนยันนโยบาย Digital Wallet มีผลสำคัญต่อการกระตุ้นการเติบโตของ GDP ได้ดี

วันนี้ (29 ต.ค.) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลงานการศึกษา ดร.สุวิทย์ สรรพวิทยศิริ และทีมงานเศรษฐศาสตร์นอกขนบที่อธิบายเรื่องผลของนโยบายต่อ GDP และต่อหนี้สาธารณะต่อ GDP ซึ่งการรายงานแสดงให้เห็นว่า นโยบาย Digital Wallet มีผลสำคัญต่อการกระตุ้นการเติบโตของ GDP ได้ดีที่สุด และมีผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะต่อ GDP ต่ำสุด

ซึ่งจากกราฟของการศึกษาดังกล่าว พบว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ตามนโยบายเงิน Digital Wallet 10,000 บาท จะสามารถกระตุ้นผลของการเติบโต GDP ได้สูงสุดที่ 4.73%, 5.22%, 5.61% และ 5.54% ในปีงบประมาณ 2567, 2568, 2569 และ 2570 ตามลำดับ และมีผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะต่อ GDP ต่ำสุดด้วย

“ถึงแม้การศึกษาชิ้นนี้จะเป็นการทำการศึกษาในการเปรียบเทียบเชิงนโยบายในช่วงก่อนการเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่างๆ แต่ผ่านโมเดลการคำนวณวงเงินงบประมาณตามนโยบายสำคัญทางการคลังที่แต่ละพรรคการเมืองได้หาเสียงเอาไว้ก่อนหน้าการเลือกตั้ง โดยคาดการณ์ผลของนโยบายนั้นๆ ต่ออัตราการเติบโตของ GDP และต่อหนี้สาธารณะต่อ GDP ซึ่งโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า การกำหนดนโยบายของพรรคเพื่อไทย ได้ผ่านกรอบความคิดเกี่ยวกับการพัฒนาท่ามกลางความท้าทายในอนาคตที่เล็งเห็นสัญญาณอันตรายว่า หาก GDP ยังคงถูกปล่อยให้เติบโตต่ำในระดับเพียงแค่ราวๆ 2% ดังเช่นในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเริ่มมีปัญหาในการดูแลผู้สูงอายุที่นับวันก็จะมีจำนวนคนมากขึ้นทุกปี หรือแม้แต่ความสามารถในการจ่ายเงินบำนาญข้าราชการก็อาจจะได้รับผลกระทบด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดึงให้การเติบโตของ GDP ขึ้นไปถึงระดับ 5% ให้ได้ ดังนั้นจึงต้องการให้เกิดการสตาร์ทเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อฟื้นฟูและพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด” นายชัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น