ตามดู เมกะโปรเจกต์ “ตึกใหม่กระทรวงการคลัง สูง 21 ชั้น ย่านพระราม 6” ที่คาดใช้รองรับ “ทีมงานวายุภักดิ์ 1” เฉพาะค่าก่อสร้างตั้งแต่ 6 ปีก่อน 1.6 พันล้าน ล่าสุด “ครม.เศรษฐา 1” เพิ่มค่าตกแต่งภายใน เป็น 1 พันล้าน พ่วงค่าจ้างคุมงาน 39.7 ล้าน ขยายสัญญาใหม่ไปอีกปี ใน 17 รายการ จากเดิมมากกว่าพันรายการ พ่วงสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการ พบแนวคิดเดิม ชั้น 20 ใช้เป็นห้องทำงานรัฐมนตรี เลขาฯรัฐมนตรี ห้องรับรองแขก ส่วนชั้น 18 ห้องทำงานปลัดกระทรวง
วันนี้ (16 ต.ค.) มีรายงานจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิกาคณะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งเวียน สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง (สป.กค.) เพื่ออนุมัติ “เพิ่มกรอบวงเงิน” และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการโครงการ “ก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง” จำนวน 21 ชั้น ใต้ดิน 1 ชั้น วงเงินรวม 1,003,062,900 บาท ถ.พระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
และค่าจ้างควบคุมงาน โครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ วงเงินรวม 39,700,000 บาท
โดยแหล่งเงินใช้จ่ายวงเงินส่วนเพิ่มจากเงินฝากค่าใช้จ่ายเก็บภาษีท้องถิ่นร้อยละ 10
“ครม. เมื่อ 10 ส.ค. 2566 เพิ่มกรอบ วงเงินก่อสร้างตกแต่งภายในอาคาร 78,062,900 บาท และเพิ่มกรอบ ค่าจ้างควบคุมงาน 7,500,000 บาท”
โครงการดังกล่าว บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์จำกัด (ธพส.) ซึ่งเป็น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้ดำเนินการจัดจ้างแทน
ตามสัญญาว่าจ้าง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2565 (ผูกพัน 2 ปี) ที่ ครม. ชุดก่อนเห็นชอบ 962,550,000 บาท ได้ว่าจ้างบริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง
และว่าจ้างกลุ่มที่ปรึกษาสโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ ไพร์ม (SP CONSORTIUM) ซึ่งประกอบด้วย บริษัท สโตนเอ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไพร์ม เอ็นจิเนียริ่ง อาร์คิเท็คเชอรัล คอนขัลแด้นส์ จำกัด เป็นผู้ควบคุมงาน
สำหรับ การเพิ่มกรอบวงเงิน พบว่า เป็นการปรับปรุงแก้ไขแบบรูปรายการละเอียด ในส่วนของชั้นที่ 1 (บางส่วน) ชั้นที่ 9-12 และชั้นที่ 17-20
“โดยได้ชะลองานในส่วนที่ปรับปรุงแก้ไขแบบรูปรายการละเอียด ในชั้นที่ 1 (บางส่วน) ชั้นที่ 9-12 และชั้นที่ 17-20 เพื่อให้การใช้งานตรงตามวัตถุประสงค์และมีประสิทธิภาพในการ ปฏิบัติงานมากที่สุด”
รวมทั้ง “เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ” ส่งผลให้มูลค่างานก่อสร้างตกแต่งภายในเพิ่มขึ้น จากเดิม 79,514,696.59 บาท และค่าจ้างผู้คุมงานเพิ่มขึ้น 7,500,000 บาท
ขณะที่ “สัญญาจ้างก่อสร้างปัจจุบัน” มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบรูปรายการละเอียด งานเพิ่ม-งานลด จำนวนทั้งสิ้น 17 รายการ จากสัญญา ปี 2564 จำนวน 1,323 รายการ
จึงมีผลกระทบต่อระยะเวลาการทำงานของผู้รับจ้าง และส่งผลให้การดำเนินการก่อสร้างตกแต่ง ภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
ประกอบกับขณะนั้นอยู่ในระหว่าง “การดำเนินการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่” สป.กค. ได้ขออนุมัติ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณในส่วนที่ไม่กระทบกับวงเงินที่ ครม.ชุดเดิม ได้อนุมัติไว้
จากเดิมปีงบ 2564-2566 (ผูกพัน 3 ปี) เป็น ปีงบ 2564-2567 (ผูกพัน 4 ปี) ชึ่งได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (เมื่อ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาเห็นชอบไว้)
ครม. ล่าสุด ยังมีความเห็นว่า การก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารของส่วนราชการของรัฐ ควรต้องให้ความสำคัญ กับการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ด้านพลังงานด้วย
เช่น การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และการเลือกใช้วัสดุที่มีความเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น จึงขอให้กระทรวงการคลังรับความเห็นดังกล่าวข้างต้นไปพิจารณาดำเนินการ ตามความเหมาะสมต่อไปด้วย.
สำหรับโครงการนี้ ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว บนที่ดินประมาณ 2.5 ไร่ พื้นที่ 73,000 ตารางเมตร บน ถ.พระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม.
โดยภายในอาคาร ชั้น 19-20 จะเป็นห้องทำงานรัฐมนตรี สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี และห้องรับรองแขกต่างประเทศ และชั้น 18 เป็นห้องทำงานปลัดกระทรวงการคลัง
มีการอนุมัติงบประมาณกว่า 1,680 ล้านบาท (งบผูกพัน 2559-2561 วงเงิน 1,966 ล้านบาท) เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือน เม.ย. 2560
มีการคาดการณ์ว่า จะมีสัญญาการส่งมอบตัวตึก แล้วเสร็จ ราวเดือน พ.ค. 2563 และคาดว่า จะสามารถเปิดใช้อาคารได้ในปี 2565 ล่าสุด อยู่ระหว่างแก้สัญญาขยายโครงการก่อสร้างตกแต่งภายใน ไปถึงปี 2567
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ครม.ชุดใหม่ เพิ่งอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลัง นำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1 พันล้านบาทขึ้นไป โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พื้นที่โซน C
เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารให้กับ ธพส. เป็นเวลา 30 ปี ในอัตราค่าเช่า 390 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน หรือปีละ 2,386,800,00 บาท
และปรับปรุงอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ของอัตราค่าเช่าเดิมทุก 3 ปี รวม 30 ปี วงเงินรวมทั้งสิ้น 98,931,293,982 บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567.
