โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ พร้อมเดินทางเข้าร่วมการประชุมสำคัญ BRF และเยือนจีนอย่างเป็นทางการ รวมทั้งร่วมการประชุม ASEAN-GCC Summit ที่ซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 16-21 ตุลาคม 2566
วันนี้ (16 ต.ค.) นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 13.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดการเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อไปเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF) ครั้งที่ 3 ตามคำเชิญของ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงจะเดินทางต่อไปยังกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC Summit) ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 16-21 ตุลาคม 2566
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในส่วนของการเข้าร่วมการประชุม BRF ซึ่งเป็นการประชุมที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญนั้น จะเป็นโอกาสให้นายกรัฐมนตรีเพิ่มความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนจีน และทั่วโลก ในด้านความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของไทย โครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน และในการเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือกับผู้นำและบุคคลสำคัญหลายท่านของจีน ได้แก่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน และ นายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างไทย-จีน ให้แน่นแฟ้น และได้เสริมสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิด ทั้งด้านการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยง และความสัมพันธ์ระดับประชาชน
โฆษกรัฐบาลยังได้กล่าวถึงการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC Summit) ครั้งที่ 1 ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อาเซียนและ GCC ซึ่งมีสมาชิก ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน กาตาร์ คูเวต และ โอมาน จะได้หารือถึงแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ทั้งเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองภูมิภาค ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเน้นผลักดันความร่วมมืออาเซียน-GCC และ ไทย-GCC ที่สำคัญ ได้แก่ เรื่องการค้าการลงทุน การพัฒนาที่ยั่งยืนและวาระสีเขียว รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองภูมิภาค