xs
xsm
sm
md
lg

พักโทษ-ปล่อยแม้ว ถอยรอจังหวะ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร - เศรษฐา ทวีสิน
เมืองไทย 360 องศา



หูผึ่งเริ่มเดือดดาลกันขึ้นมาอีกรอบสำหรับฝ่ายที่รู้ทัน “ระบอบทักษิณ” กับข่าวรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ลักไก่ออกพระราชกฤษฎีกา ประกาศพักโทษให้กับนักโทษเป็นการทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่า ต้องรวมถึงนักโทษเด็ดขาด นายทักษิณ ชินวัตร ที่อ้างว่ากำลังป่วยหนักอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจมานานแรมเดือนแล้ว


ข่าวดังกล่าวเริ่มดังมาจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ จะนั่งเป็นประธานที่ประชุม ครม.ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ โดยมีเสียงอื้ออึงมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษทั่วไปเพื่อให้ ทักษิณ ชินวัตร พ้นโทษโดยปริยาย

“แต่การจะให้นักโทษ (ทักษิณ) ที่มีโทษเหลือต่ำกว่าปีเช่นกัน ต้องพ้นโทษโดยปริยาย ชนิดได้รับการประกาศความบริสุทธิ์ และไม่ต้องใส่กำไลกักตัว ดังนั้น พ.ร.ฎ.อภัยโทษทั่วไป จึงไม่เหมือนการพักโทษ แต่เป็นการพ้นโทษโดยประกาศเป็นมติ ครม. แล้วประกาศใน พ.ร.ฎ. ถ้าเทียบกับครั้งที่แล้ว การอภัยโทษต่ำปีจะพ้นโทษโดยปริยาย”

นายจตุพร ถามว่า ทำไมทำในวันที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ไม่ได้อยู่ในไทย แต่เดินทางไปท่องต่างประเทศถึง 4 ประเทศ ตั้งแต่ ฮองกง บรูไน มาเลเซีย และปิดท้ายที่สิงคโปร์ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เรื่องนี้ นายกฯต้องอยู่ในห้องประชุม ครม.ด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องนี้ไม่มีความลับ จึงหวังว่าคงเป็นไปตามแผน และเรื่องอภัยโทษคงลุล่วงไปด้วยดี ดังนั้น เมื่อมาถึงขั้นทักษิณ ไม่ได้ติดคุกจริง โดยอ้างป่วยพักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ จะได้จบๆ กันไปสักที

นายจตุพร กล่าวว่า การประกาศอภัยโทษทั่วไปนั้น จะมีผลตั้งแต่ 7 ต.ค. หลังจากนั้นประมาณ วันที่ 20 ต.ค. ก็ได้พ้นโทษ แล้วออกจากคุก นอกจากนายทักษิณจะมีคดีค้าง จึงถูกตำรวจดักรอเอาตัวไปติดคุกในคดีอื่น แต่ภารกิจนายกฯรักษาการนายภูมิธรรม ต้องดูกันในวันประชุม ครม. 10 ต.ค.นี้ แต่เรื่องราวเช่นนี้ทำกันได้ เพราะนี่คือประเทศไทย

อย่างไรก็ดี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา และมีการปฏิเสธออกมาในแบบประสานเสียง โดยเฉพาะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ รักษาการนายกรัฐมนตรี ว่าไม่มีวาระดังกล่าวแต่อย่างใด “ไม่มี ไปเอาข่าวมาจากไหน” และพร้อมให้ดูวาระประชุมคณะรัฐมนตรีพิสูจน์

หรือก่อนหน้านั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข จากพรรคเพื่อไทย ก็ยืนยันว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เช่นเดียวกับนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ก็ปฏิเสธเช่นกัน

เอาเป็นว่ายังไม่มีเรื่องการ “พักโทษ” นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาในเวลานี้ ถึงอย่างไรก็ต้องเชื่อเอาไว้ก่อน แต่ขณะเดียวกันด้วยข้อมูล “วงใน” ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่เป็นอดีตเป็นคนของพรรคเพื่อไทย รู้ตื้นลึกในพรรค รวมไปถึงครอบครัวชินวัตร ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน และหลายครั้งเขาก็วิเคราะห์เหตุการณ์ได้แม่นยำไม่น้อย

อย่างไรก็ดี หากรายงานข่าวของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ มันก็พอทำให้คิดได้เหมือนกันว่า การที่ออกมา “ส่งเสียงล่วงหน้า” มันก็ทำให้ฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้อง “ถอยออกมาชั่วคราว” ก่อนหรือไม่ ด้วยเหตุผลสองสามข้อ นั่นคือ เวลานี้ กำลังเดินหน้าโครงการใหญ่ อย่าง “เงินดิจิทัล วอลเล็ต” ที่กำลังลุ้นเข้าด้ายเข้าเข็ม และ สอง เรื่องอารมณ์ค้างต่อเนื่องจากกรณี “อ้างป่วยหนัก” ต้องหามออกมารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนอกคุกเป็นแรมเดือนแล้ว ที่ผ่านมามันเกิดภาพ “นักโทษเทวดา” พวกอภิสิทธิ์ชน ประเภท “คนไม่เท่ากัน” ของแท้ สร้างอารมณ์คุกรุ่นมาพักใหญ่แล้ว

ขณะเดียวกัน จะอาศัยช่วงชุลมุนในบรรยากาศที่คนไทยและทั้งโลกกำลังสนใจไปที่สงครามระหว่างอิสราเอล กับกลุ่มติดอาวุธฮามาส ปาเลสไตน์ ในช่วงที่คนไทยเสียชีวิตและถูกจับเป็นตัวประกัน ไม่รู้ชะตากรรม แต่ทางนี้กลับ“แอบปล่อยนักโทษเด็ดขาดทักษิณ” มันอาจดูเกินไปหน่อย หรือเปล่า

ดังนั้น หากพิจารณาในแนวนี้มันก็เป็นไปได้ว่า “ต้องถอย” ออกมาก่อน ต้องรอจังหวะเหมาะๆ ในวันหน้าหรือเปล่า มันก็น่าคิดเหมือนกัน

เพราะหากพูดถึง โครงการสำคัญที่ถือว่าเป็น “เรือธง” ของรัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน และพรรคเพื่อไทย ก็คือ นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ที่กำลังถูกจับตามองจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะเสียงคัดค้านที่ดังกระหึ่ม ทั้งบอกให้เลิกไปเลย เพราะได้ไม่คุ้มเสีย ผลาญงบประมาณจำนวนมหาศาล เนื่องจากต้องใช้เงินถึง 5.6 แสนล้านบาท ต้องกู้ ต้องสร้างภาระให้ลูกหลานต้องใช้หนี้ไม่รู้อีกกี่สิบปี ขณะที่หนี้เก่าที่ทำเอาไว้ยังใช้ไม่หมด รวมไปถึงคำเตือนเรื่องที่ว่า หากใช้เงินดังกล่าวรวดเดียวเป็นเวลา 6 เดือน มันก็ทำให้ไม่มีเงินนำมาใช้ลงทุนในโครงการพื้นฐานจำเป็นอื่นๆ สารพัด

เรียกว่าเสียงค้านดังมาจากรอบทิศ โดยเฉพาะจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ รวมไปถึงองค์กรด้านเศรษฐกิจหลักๆ ทุกแห่ง คัดค้านหมด หรือหากไม่ค้านทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ขอร้องให้ปรับลดลงมาบ้าง เช่น อย่าแจกแบบเหวี่ยงแห เช่น อย่าแจกพวกเศรษฐีคนรวย เพราะหากแจกจริงยกตัวอย่าง เช่น เจ้าสัวเจริญ เจ้าสัวซีพี หรือแม้แต่ครอบครัวนายกฯเศรษฐา และคณะรัฐมนตรี ก็มีสิทธิได้ด้วย แม้ว่าจะอ้างว่าคนพวกนี้เขาไม่เอาหรอก แต่มันก็เป็นสิทธิ์ที่เขาต้องได้ หากมีการแจกแบบนั้นจริงๆ

โดยข้อเสนอให้ลดเพดานลงมาคือ ให้แจกเฉพาะคนจน ที่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจริงๆ หรือไม่เช่นนั้น ให้ปรับเปลี่ยน เนื่องจากไหนๆ ก็จะแจกเงินหมื่นอยู่แล้ว ก็ให้ชาวบ้านคนจนนำเงินไปใช้หนี้ หรือรัฐบาล “ล้างหนี้” ให้ชาวบ้านไปเลย เพราะเงินจำนวน 5.6 แสนล้านบาท ล้างหนี้คนจนหมดทั่วประเทศแน่นอน

นี่คือเสียงท้วงติง เสียงคัดค้านที่ดังกระหึ่มจนสั่นสะเทือนแก้วหูของคนในรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ที่เวลานี้กำลังเจอมรสุมเข้ามาหลายลูก ตั้งแต่นโยบาย “ฟรีวีซ่า” ที่คิดว่าน่าจะผ่านได้แบบสะดวก และสามารถหาเงินเข้าประเทศได้อย่างรวดเร็ว เป็นการ “ต่อยอด” แบบเนียนๆ มาจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นำร่องมาอย่างดีแล้ว และยังเป็นช่วงที่ทั่วโลกฟื้นตัวจากโรคระบาดโควิด แต่ก็ดันมาเจอกับเหตุการณ์ “กราดยิงที่พารากอน” ทุกอย่างก็หยุดชะงัก ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะนักท่องเที่ยวจีน ได้บ่ายหน้าไปทางอื่นไม่น้อย

นั่นคือปัญหา ข้อท้วงติงในเรื่องใหญ่ที่ประดังเข้ามาสู่รัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน ในช่วงเวลานี้แทบจะพร้อมๆ กัน และเริ่มมีเสียงวิจารณ์ดังขึ้นเรื่อยๆ ว่า พวกเขาจะ “เอาอยู่” หรือไม่ เพราะนี่เพิ่งเริ่มรัฐบาลมายังไม่ถึงเดือนดีนัก ดังนั้น การที่จะอาศัยช่วงชุลมุนแบบนี้มา “แอบพักโทษให้ทักษิณ” เข้ามาอีก บางทีมันก็อาจกระชากอารมณ์คนไทยมากเกินไปก็ได้ จึงต้องถอยออกมาก่อน แต่หากยังคิดเดินหน้าจริงๆ ก็คงต้องรอจังหวะเหมาะสมในวันหน้าแน่นอน!!


กำลังโหลดความคิดเห็น