xs
xsm
sm
md
lg

ถึงคิวอะเวนเจอร์ “ตัวตึง” “เสธหิ-แรมโบ้”นั่งกุนซือ“พีระพันธ์” -“โจ้-ยุทธพงศ์”ที่ปรึกษานายกฯ ** “ตู่”ปล่อยคอนเทนต์ ให้จับตา “อ้วน” นั่งหัวโต๊ะครม. จะมีเซอร์ไพรส์อภัยโทษ“แม้ว” ไม่ต้องนอน รพ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ถึงคิวอะเวนเจอร์ “ตัวตึง” “เสธหิ-แรมโบ้”นั่งกุนซือ“พีระพันธ์” -“โจ้-ยุทธพงศ์”ที่ปรึกษานายกฯ

ฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้น น่าจะต้องกำหมัดขบฟันแน่น และอาจจะถึงขั้นปวดตับในบางกรณี หากต้องปะทะกับบุคคลอย่างเช่น "เสธ.หิ" หิมาลัย ผิวพรรณ.. "แรมโบ้" เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ "โจ้" ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร

เพราะรายนามประดานี้ จัดอยู่ในทำเนียบ "ตัวตึง" ที่แต่ละคนเคยฝากวีรกรรมปะฉะดะ ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองมาไม่น้อย

“แรมโบ้ เสกสกล” นั้น อดีตเคยเป็นที่ปรึกษา , ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และความที่เคยเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติแดงทั้งแผ่นดินมา ย่อมรู้ไส้ รู้พุง "ทักษิณ ชินวัตร"เคยจัดหนัก "โทนี่" หลายหน และใครที่วิพากวิจารณ์รัฐบาลลุง และตัว “ลุงตู่” เป็นต้องเจอโต้แหลก จนได้ชื่อว่า เป็น “องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่”

ส่วน "เสธ.หิ" หิมาลัย คนใกล้ชิด "ลุงตู่" ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ โปรไฟล์ ธรรมดาซะที่ไหน คู่ซี้ คู่รื้อบาร์เบียร์ร่วมคดี กับ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" เจ้าของละครลิงแฉไปไถไป

ช่วงเลือกตั้งโค้งสุดท้ายที่ผ่านมาเคย ปะ ฉะ ดะ กับ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ถึงถิ่นพะเยามาแล้ว!!

หิมาลัย ผิวพรรณ - เสกสกล อัตถาวงศ์
ขณะที่ "โจ้" ยุทธพงศ์ สส.ฝีปากไม่ธรรมดา เป็นไม้เบื่อไม้เมากับกองทัพ เพราะบทบาทในการตรวจสอบวิพากวิจารณ์การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ

ความเคลื่อนไหวล่าสุด ฟังว่าบรรดาตัวตึงทั้งหลายถูกแต่งตั้งให้เขามาทำหน้าที่ เป็นที่ปรึกษาของ รองนายกฯ และนายกรัฐมนตรี

เริ่มจาก “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษา รองนายกฯ โดยมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะ รวมทั้งสนับสนุนภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายประกอบด้วย...สามารถ มะลูลีม, โกวิทย์ ธารณา, เจือ ราชสีห์, สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล, หิมาลัย ผิวพรรณ, ประสิทธิ์ มะหะหมัด, เสกสกล อัตถาวงศ์, ชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์, สายัณห์ ยุติธรรม, น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ และ กุสุมาวดี ศิริโกมุท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 28 ก.ย. รวมทั้งสิ้น 11 คน

ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร
ขณะที่ครม. แต่งตั้ง “โจ้" ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี "เศรษฐา ทวีสิน"

พร้อมกับแต่งตั้ง “โก้” สยาม บางกุลธรรม รองเลขาฯพรรครวมไทยสร้างชาติ ถือเป็น "สายตรง" พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน ให้ดำรงตำแหน่ง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

งานนี้เมื่ออะเวนเจอร์ตัวตึงทั้งหลายมารวมกัน จะถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่อะไร ? โปรดติดตามรับชมความบันเทิงกันได้เลย

** “ตู่”ปล่อยคอนเทนต์ ให้จับตา “อ้วน” นั่งหัวโต๊ะครม. จะมีเซอร์ไพรส์อภัยโทษ“แม้ว” ไม่ต้องนอน รพ.

จังหวะที่ “เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรี ออกเดินสายพบปะผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ระหว่างวันที่ 8-12 ตุลาคม โดยเริ่มที่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน, บรูไนดารุสซาลาม , มาเลเซีย และ สาธารณรัฐสิงคโปร์

ระหว่างนี้ ก็มอบหมายให้ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี รวมทั้งต้องนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม ครม.ด้วย

ทักษิณ ชินวัตร
ก็เป็นโอกาสที่ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งดำเนินรายการ เฟซบุ๊กไลฟ์ “ประเทศไทยต้องมาก่อน” เป็นประจำ ... จะได้มี “คอนเทนต์” มาเล่า มาวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองให้กับบรรดาแฟนคลับได้รับฟัง

“ตู่” ให้จับตา ในช่วงที่ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม นั่งเป็นประธานที่ประชุมครม.ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ จะมีการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษทั่วไป เพื่อให้ “ทักษิณ ชินวัตร” พ้นโทษโดยปริยาย ไม่ต้องอยู่ที่ชั้น 14 ของ รพ.ตำรวจ ให้ฝ่ายตรงข้ามคอยค่อนแคะอีกต่อไป

“ตู่ จตุพร” บอกว่า “ภูมิธรรม” จะใช้ ครม.ในการพิจารณา ออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อภัยโทษทั่วไป สำหรับนักโทษที่เหลือเวลารับโทษไม่ถึงหนึ่งปี ซึ่งอาจจะเป็นคุณกับนักโทษอื่น ที่จะได้รับการปล่อยตัวด้วยเงื่อนไขนี้ด้วย

“ตู่” ย้ำว่า “ทักษิณ” จะพ้นโทษโดยปริยาย ไม่ต้องใส่กำไลกักตัว ไม่ต้องรอการพักโทษใดๆ ทั้งสิ้น และเชื่อว่าเรื่องนี้ทำได้ เพราะที่นี่คือประเทศไทย !!

ย้อนไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษ ให้นักโทษเด็ดขาดชาย “ทักษิณ ชินวัตร” เหลือโทษจำคุก 1 ปี จากกำหนดโทษตามคำพิพากษา 3 คดี รวม 8 ปี และ รับโทษมาแล้ว 10 วัน ...และถึงวันนี้ โทษจำคุกของ “ทักษิณ” ก็เหลือไม่ถึง 1 ปีแล้ว

“จตุพร” บอกให้ติดตามดูว่า ภารกิจของ “ภูมิธรรม” ที่จะปลดเปลื้องโทษจำคุก ให้ “ทักษิณ” ได้รับอิสรภาพ จะสำเร็จหรือไม่ วันที่ 10 ต.ค.นี้ รู้ผล

แน่นนอนว่าข่าวนี้ ได้รับความสนใจจากสังคม รวมทั้งผู้สื่อข่าวด้วย ดังนั้นก่อนการประชุมครม.จะเริ่มขึ้น ก็มีคำถามไปยังบรรดารัฐมนตรี ที่เป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง “อ้วน ภูมิธรรม” ที่จะนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมครม.ด้วย ว่ามีวาระเรื่องนี้หรือไม่

จตุพร พรหมพันธุ์
เมื่อเจอคำถามจากสื่อ “ อ้วน ภูมิธรรม” ก็ถามกลับทันทีว่า ไปเอาข่าวมาจากไหน เมื่อบอกว่า “ตู่ จตุพร” เป็นคนออกมาพูด “ภูมิธรรม” จึงยืนยันว่า ไม่มี หรือจะดูวาระการประชุมครม.ก็ได้

ขณะที่“นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” รมว.สาธารณสุข ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ปฏิเสธทันทีว่า ไม่มีเรื่องนี้

เช่นเดียวกับ “ไชยา พรหมา” รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ สส.หนองบัวลำพู พรรคเพื่อไทย ก็ปฏิเสธอย่างแข็งขันเช่นกัน

และเมื่อการประชุมครม.เสร็จสิ้น ก็ไม่มีการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษทั่วไป ตามที่ “ตู่ จตุพร” ว่าไว้แต่อย่างใด เรื่องจึงเป็นแค่คอนเทนต์ เรียกเรตติ้ง เท่านั้น

คราวนี้ลองมาดูความน่าจะเป็น หรือสิ่งที่เป็นไปได้ ตามกระบวนการพักโทษ ที่จะทำให้ “ทักษิณ” ได้ไปอยู่กับหลานๆ ก่อนครบกำหนด 1 ปี

หลักเกณฑ์พักโทษ “ทักษิณ” หลังได้รับอภัยลดโทษเหลือคุก 1 ปี (นับจาก 22 ส.ค.66)

“ทักษิณ” เป็นผู้ต้องขังสูงวัย มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง อาจเข้าเกณฑ์ “พักโทษ” ตามกฎกระทรวง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560

“เงื่อนไข” ต้องรับโทษอย่างน้อย 1 ใน 3 (ราว 4 เดือน ครบ 4 เดือน 22 ธ.ค.66) มาตรา 52 (7) แห่งพ.ร.บ.ราชทัณฑ์2560

“พักโทษ” คือได้รับการปล่อยตัวก่อนวันครบกำหนดโทษ เพื่อให้ไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว หรือสังคม ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยการ“พักโทษ” มี 2 แบบ 1.พักการลงโทษกรณีปกติ และ 2.พักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ

ภูมิธรรม เวชยชัย
หาก“ทักษิณ” เข้าเกณฑ์พักโทษ คาดว่าจะเป็น “การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ” โดยขั้นตอนเริ่มจาก กรมราชทัณฑ์ รับเอกสารประกอบการพิจารณาจากเรือนจำ-สรุปข้อมูล-จัดทำบัญชีรายชื่อเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ผ่านแล้วเสนอรมว.ยุติธรรม อนุมัติ จากนั้นกรมราชทัณฑ์แจ้งผลการพิจารณา ไปยังเรือนจำ

หาก “เห็นชอบ” พักการลงโทษ เรือนจำแจ้งเงื่อนไขการคุมประพฤติ - ปล่อยตัว - ประสานกับสำนักงานคุมประพฤติ พนักงานฝ่ายปกครอง หัวหน้าสถานีตำรวจ กรมราชทัณฑ์

จากนั้นกรมราชทัณฑ์นำตัวไปรายงานต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติ เพื่อนัดหมายการรายงานตัวรายเดือน หากนักโทษทำตามเงื่อนไข โดยไม่ได้กระทำความผิดใด จะได้รับใบบริสุทธิ์ แต่ถ้ากระทำผิดเงื่อนไข ก็จะถูกเพิกถอนการคุมประพฤติ และส่งกลับมายังเรือนจำ

กรณีของ “ทักษิณ” เป็นผู้ต้องขังสูงวัย ที่ป่วยรุมเร้าด้วย 4 โรคเรื้อรัง จึงเป็นไปได้ว่า จะไม่ต้องติดกำไล EM

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ “ทักษิณ” อาจพ้นโทษ และได้รับการปล่อยตัวทันที กรณีเข้าข่ายการพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป ในวาระโอกาสสำคัญ เช่น วันที่ 13 ต.ค. หรือ วันที่ 5 ธ.ค. ที่จะถึงนี้

จึงมีการคาดหมายกันว่า “ทักษิณ” จะได้พักโทษ หรือพ้นโทษ ช่วงเดือน ธ.ค.66 ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นเรื่องของ “พระราชอำนาจ”

ดังนั้น จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมา “สอดไส้” ใช้ที่ประชุมครม. ออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษทั่วไป ให้คนนินทา หมาดูถูก และเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง มาเขย่ารัฐบาลด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น