xs
xsm
sm
md
lg

หมดบรรยากาศเผด็จการ ก้าวไกลถูกรุกไล่ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปดิพัทธ์ สันติภาดา - อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
เมืองไทย 360 องศา

จะเรียกว่า “มีแต่เรื่อง” ก็ได้ สำหรับพรรคก้าวไกลในช่วงเวลานี้ เพราะตั้งแต่ “ทั่นรองเชียร์เบียร์” หรือ “รองหมูกระทะ” มาจนถึงเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรงทำนอง “ผลาญงบฯ” แบบไร้ประโยชน์ ของ “รองอ๋อง” นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด ก็มาเกิดกรณี “ล่าแม่มด” ที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 (นายปดิพัทธ์) จากสาเหตุที่เธอถูกร้องเรียนจากผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ “ปีใหม่ ปีใหม่” ว่า ถูกข่มขู่คุกคาม มีการนำข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งวันเดือนปีเกิด ข้อมูลครอบครัว รวมไปถึงที่อยู่ไปเปิดเผยให้สาธารณะได้รับรู้ จนทำให้เกิดการข่มขู่คุกคามตามมา

โดย “ปีใหม่ ปีใหม่” ระบุว่า ถูกนางอมรัตน์ ไปข่มขู่คุกคามถึงที่ทำงาน โดยไปพบกับหัวหน้างาน ลักษณะเหมือนกับบีบบังคับให้ว่ากล่าวตักเตือน หรือให้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด และในเวลาต่อมา ผู้ใช้บัญชี “ปีใหม่ ปีใหม่” ได้ทำจดหมายร้องเรียนไปถึงนายชัยธวัช ตุลาธน รักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนฯ ในฐานะที่นางอมรัตน์ เป็นที่ปรึกษา

โดยหนังสือหรือจดหมาย ขอความเป็นธรรม และ ขอความคุ้มครองจากการถูกข้าราชการการเมือง (ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1) เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว ข่มขู่คุกคาม ไล่ล่าแม่มด และ ใช้อำนาจหน้าที่บีบบังคับให้เอกชนสนองความต้องการให้ตน

ผู้ใช้ชื่อ “ปีใหม่ ปีใหม่” ระบุว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 เวลาเช้า ดิฉันได้ทราบข่าวจากเพื่อนเฟซบุ๊ก ว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1 (นายปดิภัทธ์ สันติภาดา) ได้โพสต์ และทวีตข้อมูลส่วนตัวของดิฉัน อาทิ ชื่อเล่น อายุ วันเดือนปีเกิด บ้านเลขที่ ที่อยู่ หมู่บ้าน รูปพรรณสัณฐานที่พักอาศัยของดิฉัน เช่น สีประตูรั้วบ้าน สีรถยนต์ที่ดิฉันใช้ รวมถึงระบุชื่อมารดาของดิฉัน จำนวนบุตรของดิฉัน และยังได้ระบุสถานที่ทำงานของดิฉัน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานโดยละเอียด อีกทั้งยังแจ้งว่าหากใครต้องการทราบชื่อ นามสกุลจริง และ รูปของดิฉันให้ติดต่อสอบถามได้จากนางอมรัตน์นางยินดีมอบให้

ต่อมา ล่าสุด วันที่ 20 กันยายน นางอมรัตน์ โพสต์ข้อความผ่านทางสังคมออนไลน์ ชี้แจงว่า เช้านี้ถึงแม้จะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น แต่ดิฉันมีความรู้สึกผิด ติดค้าง คิดว่าสมควรต้องออกมาขออภัยอย่างจริงใจต่อ toxic ในสังคมออนไลน์ ที่ตัวเองมีส่วนสร้างขึ้นเมื่อวานนี้

“ดิฉันยืนยันว่า ได้ใช้วิจารณญาณ และสัญชาตญาณในฐานะมนุษย์ ใช้พื้นฐานประสบการณ์และข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินว่าสิ่งไหนคือ “ภัยสังคม”

ภัยสังคม ย่อมหมายถึงตัวเองไม่ได้เป็นผู้รับผลกระทบแต่เพียงลำพัง แต่เป็นภัยที่ชาวโลกออนไลน์ประสบร่วมกัน การกระทำตามวิจารณญาณส่วนตัวนั้นจะผิดถูกดีเลวอย่างไร ดิฉันยินดีรับผิดชอบทั้งทางสังคมและทางกม.ทุกประการ ดิฉันก็จะพิทักษ์สิทธิตัวเองตาม กม.ต่อไปเช่นเดียวกัน จากนี้ต้อง move on เพื่อไม่เพิ่ม toxic ให้สังคมออนไลน์อีกต่อไป ที่เกิดไปแล้วต้องขออภัยซ้ำอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ในทางส่วนตัวดิฉันรู้สึกเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า ทุกการตัดสินใจมีต้นทุน มีราคาที่ต้องจ่ายอยู่แล้วอันนี้ทราบดีอยู่

อนึ่ง ขอยืนยันว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 นั้น เป็นไปอย่างสุภาพ มีเหตุผล ไม่มีสิ่งใดเลยที่ใกล้เคียงกับคำว่าข่มขู่คุกคามตามที่พยายามมี “กระแสปั่น” พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ไม่มีศักยภาพข่มขู่บังคับใครแน่นอน หากบุคคลที่ 3 ที่เกี่ยวข้องมิได้เห็นพ้องด้วย

กรณีที่เกิดขึ้นแม้แต่ นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำประเทศไทย ยังต้องโพสต์ข้อความ ว่า สิทธิมนุษยชนไม่มีสี ไม่มีฝ่าย พรรคก้าวไกล ไม่ควรเพิกเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งละเมิดหลักการเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ ที่พรรคยึดถือ การใช้ศาลเตี้ยล่าแม่มดคุกคามกันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และผิดกฎหมาย ถ้าใครได้รับความเสียหายจากสิ่งที่ ปีใหม่เขียน ควรแจ้งความดำเนินคดีตามสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่ใช่ทำแบบนี้

อย่างไรก็ดี สำหรับ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำพรรคก้าวไกล คนนี้ หากใช้ศัพท์แสงในยุคใหม่ก็ต้องบอกว่าเป็น “ตัวตึง” คนหนึ่งก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นในพรรค ในสภา เมื่อครั้งยังเป็น ส.ส.ในสมัยที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องการอภิปรายที่หลายครั้งมีการพาดพิงทำให้เกิดการโต้เถียงกันร้อนแรง รวมไปถึงเคยมีการโพสสต์ที่โฉบเฉี่ยวเกี่ยวกับสถาบันฯ หลายครั้ง ล่าสุด ไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เพิ่งยอมรับว่า มีความรู้จักกับกลุ่ม “ทะลุวัง” ที่เป็นนักเคลื่อนไหว และถูกดำเนินคดีใน มาตรา 112 หลังจากมีการถูกตั้งข้อสังเกตทำนองว่า ให้การสนับสนุนอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่

เมื่อกรณีของ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ประดังเข้ามาในช่วงเวลาแบบนี้ อีกทั้งกรณีของเธอถูกวิจารณ์อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในโลกโซเชียลฯ แม้ว่าคู่กรณีของเธอในมุมหนึ่งจะมีการให้ข้อมูลว่าเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และชื่นชม นายทักษิณ ชินวัตร ก็ตาม แต่หลายคนมีความเห็นตรงกันว่า หากนางอมรัตน์ เห็นว่าถูกให้ร้าย หรือถูกด่าทอที่ไม่ถูกต้อง ก็สมควรใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการได้อย่างเต็มที่

อีกทั้งในเมื่อตัวเองเป็นนักการเมือง ในสังกัดพรรคที่มักวิจารณ์ฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง บางครั้งก็เข้าข่ายหยาบคาย มักชอบแอบอ้างในเรื่อง“สิทธิมนุษยชน” หรือแม้กระทั่งรณรงค์ในเรื่องแก้ไข มาตรา 112 ที่มีการพูดถึงเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ บางครั้งการที่โดนเข้ากับตัวเองแบบนี้ ทำให้หลายคนบอกว่า น่าจะเข้าใจหัวอกคนอื่นที่ถูกวิจารณ์ได้บ้างเหมือนกัน
กรณีของ นางอมรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เวลานี้เหมือนกับว่ากำลัง “สะสมแต้มด้านลบ” เข้ามาเรื่อยๆ หลายอย่างเหมือนกับประดังเข้ามา ขณะเดียวกัน หากสังเกตให้ดีเวลานี้เป้าหมายหรือกลายเป็น “คู่ปรับ” กันอย่างชัดเจนแล้วก็คือ ระหว่าง พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย แต่ในทางสังคมภายนอก ทั้งคู่กำลังถูกวิจารณ์และถูกจับตาเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับพรรคก้าวไกล แทนที่จะได้ทำแต้มอย่างต่อเนื่อง แต่กลายเป็นว่า “หยุดนิ่งเอาดื้อๆ” มาตั้งแต่การอภิปรายในฐานะฝ่ายค้านครั้งแรก แต่เมื่อประเมินผลงานแล้ว ก็ไม่ได้ปังอย่างที่คิด มีแต่พ่นวาทกรรมน่ารำคาญ จุดเด่นกลับไปอยู่ที่ “มวยรอง” อย่างพรรคประชาธิปัตย์ มากกว่า
ขณะที่การเคลื่อนไหวนอกสภาเวลานี้ก็เหมือนกับหยุดนิ่ง ส่วนสำคัญอาจเข้าใจได้ว่าเวลานี้หลังจาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางมือกลับบ้าน “บรรยากาศเผด็จการ” บรรยากาศการกดขี่ ที่เคยนำมาสร้างอารมณ์ร่วมก็ลดทอนลงไป ไม่เชื่อก็ลองหลับตานึกภาพรัฐบาลเพื่อไทยที่มีคนเสื้อแดงจำนวนมากหนุนหลังอยู่ อารมณ์ย่อมต่างกับรัฐบาลชุดก่อนอย่างสิ้นเชิง และยังอาจต้องเจอกับคนแบบ “ปีใหม่” อีกหลายคนก็ได้ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น