เพจเฟซบ๊ก The METTAD โพสต์ภาพ เสื้อแดง สกรีน “เราหมดศรัทธาใน อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” ระบุ เกิดอะไรขึ้น “โบว์” ซัด พวกอยากได้การเมืองใหม่ “น้ำเน่า” เสียเอง “ดร.กิตติธัช” ชี้ บล็อกเชนไม่เหมาะ แจกเงินดิจิทัล
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (10 ก.ย. 66) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพ เสื้อแดง สกรีนตัวหนังสือ “เราหมดศรัทธาใน อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” พร้อมระบุว่า
“เกิดอะไรขึ้นครับ 😂😂😂😂😂”
ขณะเดียวกัน Karn Karn เข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมโพสต์ภาพประกอบ ระบุว่า
อ่อ.................................😚
ขณะเดียวกัน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ “โบว์” พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ระบุว่า
“รัฐบาลยังไม่ทันเริ่มนับหนึ่งจากการแถลงนโยบาย การเมืองสาดโคลนก็บังเกิด เหมือนบางคนยังไม่ปรับโหมดจากช่วงหาเสียง มองข้ามเรื่องดี หาเรื่องจับผิด ลืมไปว่าที่นั่งลงตัวหมดแล้วด้วยความร่วมมือของทุกพรรค พร้อมทำงานเดินหน้าประเทศ หลายคนยังอยู่ในโหมดแย่งชิงความนิยม ยกตนข่มท่าน ดิสเครดิตกันรายวัน
ล่าสุด สื่อใหญ่ที่ใครก็รู้ว่าเชียร์พรรคไหน ทำภาพ graphic ล้อเลียนไปถึงอัตลักษณ์และสภาพร่างกายของสองรัฐมนตรีที่ไปนั่งบริหารกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรผิด และต่างใส่ใจในหน้าที่ ทันท่วงทีกับความทุกข์ร้อนที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นข่าวใหญ่
กลายเป็นว่า กลุ่มคนที่อวดอ้างอยากได้การเมืองใหม่ กลับเป็นคนดึงสังคมกลับไปสู่การเมืองน้ำเน่าเสียเอง และพรรคการเมืองที่ไม่เคยอวดตัวว่าเก่งและดีกว่าใครแบบภูมิใจไทย กลายเป็นพรรคที่ไม่เคยให้ร้ายระรานใครตลอดมา แม้แต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งจนถึงวันนี้
ตัวตนของคนเราไม่ได้เกิดจากฉลากอวดอ้างสรรพคุณที่แปะให้ตัวเอง แต่เกิดจากการกระทำที่คงเส้นคงวา.”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
“ผมยังยืนยันคำเดิมว่า Blockchain ไม่เหมาะสำหรับนำมาแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ประชากรจำนวนกว่า 50 ล้านคน มันมีการรับส่งข้อมูลที่เยอะเกินไป หนัก และสิ้นเปลือง ยกเว้นเสียแต่จะทำเพื่อหากินกับงบประมาณในการทำโครงการอันมหาศาล (ทั้งที่ใช้แอพเป๋าตังได้) ยังไม่นับเรื่องการใช้ได้แค่ 4 กม.ที่ในเขตชนบท ซึ่งบางพื้นที่แทบจะไม่มีร้านค้าอะไรให้ใช้งานเลย
ส่วนเรื่องการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต้นปีหน้านั้น แม้จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ถือว่าเป็นนโยบายที่เพื่อไทยหาเสียงมาแล้ว ก็ไม่ว่ากัน ทั้งนี้ถ้าอยากจะแจกเงินดิจิทัล อยากให้ทบทวนถึงรูปแบบและกระบวนการที่เหมาะสม อย่าห่วงแต่เพียงเรื่องว่าจะไม่ได้พัฒนาแอพของตัวเอง หรืออดเงินงบประมาณในการพัฒนาแอพและระบบที่มีมูลค่ามหาศาล แต่อาจใช้งานไม่คุ้มค่า เลยครับ เพราะเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญออกมาทักกันเยอะ ไม่ต่างจากตอนจำนำข้าวเลย และพรรคก้าวไกลเองก็เล่นพรรคเพื่อไทยในเรื่องนี้อยู่เช่นกัน และพวกเขาก็วิเคราะห์และวิพากษ์ได้ดีด้วย
ดังนั้น หากทำแล้วมีปัญหา สุดท้ายเพื่อไทยก็จะเสียคะแนนต่อสาธารณชน ขณะที่ก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคการเมืองเดียวในเวลานี้ที่ออกมาแอคชั่นคัดค้าน ก็จะได้คะแนนไปเต็มๆ
อยากให้พรรคเพื่อไทยลองคิดดูอีกทีนะครับ ว่าสิ่งที่ทำนั้นเหมาะสมหรือไม่ทั้งในเชิงงบประมาณแผ่นดิน และในเชิงการเมือง”