“พร้อมพงศ์” สวดยับหลายกลุ่มจ้องทำลาย “ทักษิณ” แขวะคงกลัวบ้านเมืองสงบแล้วไม่มีงานทำ ไม่แปลกใจสอบตกไม่เหลือสักคน ปรามทบทวนพฤติกรรมตัวเองบ้าง ให้เข้าใจถนนแห่งการให้อภัย เป็นหนทางสู่ความสงบปรองดอง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมารับโทษและต่อสู้คดีตามกฎหมายว่า ภายหลัง นายทักษิณ กลับมารับโทษแล้ว แต่ปรากฏว่า ยังมีกลุ่มแก๊งออกมาต่อต้าน อาทิ พรรคไทยภักดี กลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อหลากสี คัดค้านขัดขวางรังควาน นายทักษิณทุกรูปแบบในลักษณะเอาเป็นเอาตาย
“กลุ่มคนเหล่านี้ พยายามจ้องทำลายอดีตนายกฯทักษิณ เหมือนต้องการจุดประเด็นความขัดแย้งแตกแยก เพราะถ้าสงบแล้วอาจไม่มีงานทำ” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นานพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุตรสาวนายทักษิณ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่ รพ.ตำรวจ เมื่อวันที่ 28-29 ส.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯส่งตัว นายทักษิณ ไปมารักษาอาการป่วย ซึ่งก็พบว่า นายทักษิณ มีอาการเครียด เพลีย ไม่สดชื่น เพราะไม่คุ้นชินสภาพแวดล้อมหลายสิ่งหลายอย่าง อย่าลืมว่า 17 ปีแล้วที่ นายทักษิณ ไม่ได้อยู่ประเทศไทย อยู่แต่ต่างประเทศ ตอนนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากในปรับตัว ไม่ว่าใครถ้าต้องเปลี่ยนที่อยู่แบบนายทักษิณ จากที่เคยอยู่ข้างนอก พื้นที่โล่งๆ แล้วต้องมาอยู่ในกรมราชทัณฑ์ อยู่โรงพยาบาล ท่ามกลางสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ก็คงมีอาการไม่มากก็น้อย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ลองคิดว่าเป็นพ่อเป็นแม่เป็นญาติพี่น้องเราบ้างจะรู้สึกอย่างไร บางคนแค่นั่งเครื่องบินไปกลับต่างประเทศไม่นานมายังเกิดอาการเจ็ตแล็ก จึงอยากให้คนในสังคมบางส่วนที่กำลังกดดันไล่ล่านายทักษิณ พร้อมตั้งข้อสงสัยต่างๆนานาในเชิงการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เหมือนค้านตะบันราด ต่อต้านทุกเรื่องที่เกี่ยวกับนายทักษิณ หยุดเสียที การไปห้ามขอพระราชทานภัยโทษ เป็นเรื่องไม่บังควร และยังถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้ต้องขังด้วย
“ท่านนายกฯทักษิณ ยอมกลืนเลือด กลับมารับโทษในคดีที่เกิดจากผลพวงเครือข่ายแห่งการรัฐประหาร ถือว่ากล้าหาญแค่ไหน ยอมแค่ไหน เป็นผู้ต้องโทษคดีการเมือง ไม่ได้ไปฆ่าคนตาย หรือไปก่ออาชญากรรมที่ไหน ก่อนหน้านี้ พยายามแหกปากเรียกร้องให้เขากลับมาจนหนวกหูรำคาญ พอกลับมาแล้วก็ยังไม่พอใจ ยังไม่หยุดอีก กลุ่มคนพวกนี้ชีวิตนี้คงก้าวไม่พ้นนายทักษิณ เหมือนต้องการล้างแค้นไม่จบไม่สิ้น ลองหยุดคิด มองอีกแง่มุมดูบ้าง อยากถามว่าใจแคบเกินไปหรือไม่ ไร้มนุษยธรรมเกินไปหรือเปล่า เคยมีหัวใจที่เคยรัก ห่วงใยใส่ใจเพื่อนมนุษย์บ้างไหม ไม่แปลกใจทำไมถึงไม่มีใครเลือกมาสักคน เพราะหลักคิดเป็นแบบนี้ กลับไปทบทวนพฤติกรรมตัวเองบ้าง จะได้เข้าใจว่าถนนแห่งการให้อภัยคือหนทางสู่ความสงบปรองดอง ในอดีตประธานาธิบดีเนลสัน เมลเดลลา เคยทำให้ทั้งโลกยอมรับมาแล้ว ยอมติดคุก 27 ปี ทั้งที่ไม่ได้ผิดอะไร ยินยอมเสียสละ จนเกิดสันติภาพขึ้นทั่วโลก” นายพร้อมพงศ์ ระบุ