“วันนอร์” รอตั้งรัฐบาลเสร็จ เล็งหารือวิป 3 ฝ่าย อภิปรายนโยบาย “เศรษฐา 1” ย้ำ ผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นหัวหน้าพรรค-ส.ส. หากก้าวไกลไม่รับก็เป็นของพรรคถัดไป
วันนี้ (28 ส.ค.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเตรียมข้อซักถามนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่า คิดว่า เมื่อพร้อมจะมีการแจ้ง คิดว่าเมื่อพร้อมจะแจ้งวิป 3 ฝ่าย ในการอภิปราย ส่วนจะอภิปรายกี่วันจะต้องดูจากการอภิปรายในอดีตและรับฟังวิปแต่ละฝ่ายทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ว่าต้องการเวลาเท่าไร รวมทั้งฝ่ายรัฐบาลก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการชี้แจง
สำหรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหลังพรรคก้าวไกลไม่ลาออกจากรองประธานสภา คนที่ 1 นายวันมูหะมัดนอร์ ว่า ตามปกติรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระบุชัดว่า พรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และไม่มีตำแหน่งประธานและรองประธานสภา หัวหน้าพรรคที่มีจำนวน ส.ส. มากที่สุดจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน โดยสภาจะทูลเกล้าฯ รายชื่อ แต่เมื่อพรรคก้าวไกลประสงค์จะดำรงตำแหน่งรองประธาน คนที่ 1 ก็ต้องแจ้งเพื่อสละสิทธิ์ให้พรรคฝ่ายค้านลำดับรองลงไป เพราะจะเป็นต้องมีผู้นำฝ่าย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสภาและคัดเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. และ กกต. จะต้องมีผู้นำฝ่ายค้านในคณะกรรมการสรรหา รวมทั้งกรรมการจริยธรรมในสภาผู้แทนราษฎรด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีกรอบเวลาในการทูลเกล้าฯ ชื่อผู้นำฝ่ายค้านขึ้นอยู่กับความพร้อม แต่ขณะนี้มีรัฐบาลแล้วก็ต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน เพราะมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้ นายมูหะมัดนอร์ ย้ำว่า ผู้ที่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคเท่านั้น และต้องเป็น ส.ส.ในสภา แต่ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ต้องเปลี่ยน ซึ่งเชื่อว่าพรรคการเมืองจะจัดการเรื่องนี้ได้ เหมือนกรณีของพรรคเพื่อไทยที่มีการเปลี่ยนผู้หน้าพรรค ก็ต้องเปลี่ยนผู้นฝ่ายค้าน
ส่วนเรื่องการจัดสรรตำแหน่งใน กมธ. สามัญของสภา ประธานสภา กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มแต่ตังได้แล้วว่า พรรคใดบ้างที่เป็นรัฐบาล พรรคใดเป็นรองประธาน ซึ่งตนได้หารือกับ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ไว้บ้างแล้ว และคงตัดนัดคุยกันในสัปดาห์นี้ ซึ่งไม่ยาก เพราะทุกพรรคสามารถจัดสรรหา กมธ. ตามสัดส่วน ส.ส. แต่ที่ต้องคุยคือพรรคใดจะเป็นประธาน กมธ. ตามสัดส่วน น่าจะใช้เวลา 2-3 วัน อยากให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ กมธ. ไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มีมากขึ้นทุกวัน ส่วนกมธ. วิสามัญจะตั้งตามวาระที่เสนอตามปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น