ข่าวปนคน คนปนข่าว
**สองนายกฯเจอกัน "ลุงตู่-น้องนิด" ยลทำเนียบฯ หวานเจี๊ยบ "เศรษฐา" ชม "ประยุทธ์" น่ารัก ลุงนะจ๊ะบอก "ฉันยังไม่ได้ไปไหนหรอกนะ"!!
ภาพการพบกันของสองนายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผู้กำลังจะกลายเป็นอดีต กับ “เศรษฐา ทวีสิน” ผู้ที่กำลังจะมาบริหารประเทศ ปรากฏต่อสายตาผู้คน เมื่อวาน (24ส.ค.) ก็ต้องบอกว่า "หวานเจี๊ยบ" และ "ชื่นมื่น"
ว่ากันว่า การมาของ “เศรษฐา”ได้สร้างบรรยากาศจากความเงียบเหงาเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของทำเนียบรัฐบาลให้กลับมาคึกคัก
นายกฯคนที่ 29 "ลุงตู่" ให้การต้อนรับ มอบแจกันดอกไม้แสดงความยินดีกับ “เศรษฐา”นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ใช้เวลาพูดคุยกันกว่า 1 ชั่วโมง
ภายหลังการพูดคุย “ลุงตู่” พา “น้องนิด” เดินทัวร์ห้องต่างๆ ภายในตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมเยี่ยมชมห้องทำงาน และเก้าอี้นายกฯ แวะชมภาพอดีตนายกฯ และพาไปเยี่ยมชมตึกภักดีบดินทร์ แนะนำอาคารต่างๆ ภายในทำเนียบฯ
จากนั้น นายกฯตู่ ก็เดินมาส่งนายกฯเศรษฐา ขึ้นรถที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้าต่างฝ่ายต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจากกันไป
ว่ากันว่า นี่เป็น "มิติใหม่" ที่สองนายกฯ ได้เจอกันก่อนช่วงจะเปลี่ยนตัว เก่าจะไป ใหม่จะมา
ทว่า พวกที่คิดมากก็จับไปเป็นประเด็น เห็นว่า เป็นการมาขอบคุณ หรือรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชา อ๊ะป่าว? หลังจากที่ “สว.สายลุงตู่” เทคะแนนโหวตจนได้เป็นนายกฯ
บ้างก็ว่า จากสว.สายลุงตู่ เปิดสวิตช์ ให้ เศรษฐานี่แหละ"นอมินี" ของลุงตู่ ดีลลับที่แท้ทรู ได้นั่งนายกฯ ก็เพราะลุงตู่!!
มโนโซเชียลฯ ก็ว่ากันไป..จน “เศรษฐา” มาบอกภายหลังว่า ไปเข้าพบ “ลุงตู่” ก็ในฐานะผู้น้อย เพื่อพูดคุย และเรียนสอบถาม มีคำแนะนำ หรือต้องการฝากฝังประเด็นใดหรือไม่
แน่นอนว่า “ลุงตู่” มีคำแนะนำให้ “เศรษฐา” ว่ามาจากภาคเศรษฐกิจ การบริหารงานย่อมแตกต่างกัน มีหลายภาคส่วนที่ต้องคำนึงถึง จึงฝากให้ระวัง ใจเย็น อดทน ยึดมั่น ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และฝากดูนโยบายของรัฐบาลเดิม สิ่งไหนดี อยากให้ดูแลต่อไป
นายกฯคนที่ 30 ยังย้ำว่า เจอกับ “ลุงตู่” เพียงแค่พูดคุยกันธรรมดา ในเรื่องที่จะทำให้บ้านเมืองเดินต่อได้ ส่วนตัวมองว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ และยังน่ารัก พาเดินชมห้องทำงาน แต่ไม่ได้ลองนั่งเก้าอี้
“เศรษฐา” ยอมรับว่า เรื่องความขัดแย้งในอดีต เป็นเรื่องยากที่จะขจัดไปได้ หลังจากพบกันเพียงครั้งเดียว ต้องให้เวลาและการกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่อย่างน้อย ก็ได้ทราบเจตนารมณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นห่วงบ้านเมือง
ขณะที่ “ลุงตู่” ตอบสายมโนโซเชียลฯ ที่ตั้งข้อสังเกตว่า “เศรษฐา” ได้เป็นนายกฯเพราะลุงจัดให้ว่า ก็อย่าไปมองอย่างนั้น รัฐบาลมาตามขั้นตอนและกระบวนการ เรื่องต่างๆ ในสภาฯก็เป็นเรื่องของรัฐสภา ตอนนี้อย่าไปสร้างประเด็น หรือคิดเอาเองกัน ขัดแย้งกันไม่ได้แล้ว อย่าไปมองว่าสีไหนเป็นสีไหน เลิกแบ่งสีได้แล้ว
ความเคลื่อนไหวของ “ลุงตู่” เมื่อวานก็ต้องบอกว่าอยู่ในความสนใจของสื่อเพราะเป็นช่วงท้ายๆที่จะลงจากตำแหน่ง
ฟังว่า ภายหลังการประชุมสภากลาโหม “พล.อ.ประยุทธ์” ได้ถ่ายรูป และเซลฟี่กับสื่ออย่างชื่นมื่น ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ พร้อมทั้งกล่าวหยอกล้อว่า “ฉันยังไม่ได้ไปไหนหรอกนะ”
สื่อมวลชนได้ร้องเพลง “แม้ไม่ใช่คนโปรด อย่างคนอื่นเขา” ทำให้ “ลุงตู่” ยิ้มพร้อมทั้งว่า “ร้องเพลงให้ นายกฯคนนี้แล้ว ก็ให้ไปร้องเพลงนี้ให้ นายกฯคนใหม่ด้วย”
ก่อนจาก “ลุงตู่” ยังโบกมือให้สื่อมวลชนพร้อมทั้งกล่าวว่า “ยังไม่ได้ไปไหนสักหน่อยนึง วันนี้ข้าราชการอำลาเกษียณฯ 60 ฉันเกษียณฯ 70 “แต่จากนี้ไปจะไปทำอะไรดี “ลุงตู่”กลับบอกว่า “พักผ่อน”
เก่าไปใหม่มาก็จบลงด้วยประการฉะนี้ แยกย้ายได้ ไม่มี "นอมินี" นะจ๊ะ!.
**ปชป.ชักธงรบ!! “ชวน”กรีดส.ส.งูเห่าในพรรค ดิ้นรนเป็นรัฐบาล แอบไปเจรจาแต่เขาไม่รับ น่าอายนัก “เดชอิศม์” สวนอย่าเอาแค้นของรุ่นเก่า มายัดเยียดเป็นมรดกให้รุ่นใหม่
จากผลคะแนนของสมาชิกรัฐสภาที่โหวตหนุน “เศรษฐา ทวีสิน” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างท่วมท้นถึง 482 คะแนนนั้น ส่วนหนึ่งมาจากพรรคร่วมรัฐบาลกว่า 300 เสียง ยังมีส.ว.ในสาย “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยเทคะแนนให้ และที่เป็นประเด็นคือ มีส.ส.ประชาธิปัตย์ ในกลุ่ม “เดชอิศม์ ขาวทอง” ส.ส.สงขลาและรองหัวหน้าพรรค อีก 16 เสียง รวมอยู่ด้วย
การโหวตของส.ส.ประชาธิปัตย์ นอกจากจะแตกเป็น 3 ทิศทาง คือมีทั้ง เห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และ งดออกเสียง แล้วยังทำเอาพรรคแทบแตกตามไปด้วย
เพราะก่อนการโหวตนายกฯ 1 วัน พรรคได้เรียกประชุมส.ส. หารือถึงทิศทางในการโหวต ซึ่งที่ประชุมพรรคมีมติให้งดออกเสียง เพราะประชาธิปัตย์ ไม่ได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทยให้เข้าร่วมรัฐบาล... แต่ “ชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรค ได้ขอต่อที่ประชุมว่า ตนเองจะขอโหวต“ไม่เห็นชอบ” เพราะได้ต่อสู่กับพรรคเพื่อไทยมายาวนาน ตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย
และในการโหวตเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ปรากฏว่า ชวน หลีกภัย กับ บัญญัติ บรรทัดฐาน โหวตไม่เห็นชอบ... กลุ่มจุรินทร์ลักษณวิศิษฎ์ รวม 6 คน งดออกเสียง ขณะที่กลุ่มของ “เดชอิศม์ ขาวทอง” 16 คน สวนมติพรรคด้วยการโหวต เห็นชอบ โดยมีรายงานข่าวว่า กลุ่ม 16 เสียงของ ปชป. ขอเป็นอะไหล่ กรณีถ้าพรรคภูมิใจไทยต่อรองเก้าอี้ จนทำให้เสียงสนับสนุนรัฐบาลมีปัญหา ...
หลังการโหวต ก็มีเสียงวิพากวิจารณ์ตามมาอื้ออึง ทั้งจากคนในพรรค นอกพรรค พร้อมเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องร้ายแรง ตามข้อบังคับถึงขั้นขับส.ส.กลุ่มนี้พ้นพรรคได้
“ชวน หลีกภัย” ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า ตอนที่ตนขอโหวตไม่เห็นชอบนั้น “เดชอิศม์” ยังประกาศว่า ผู้ใดฝืนมติพรรค จะให้ลาออกจากพรรค ซึ่งเชื่อว่ามีเจตนามุ่งมาที่ตนเองเพราะไม่เห็นด้วยที่จะให้ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล ต่างกับจุดยืนของกลุ่ม16 ส.ส. ที่ต้องการร่วมรัฐบาล แล้วส.ส.กลุ่มนี้ก็ฝืนมติพรรคเสียเอง
“การดิ้นรนอยากเป็นรัฐบาล ถ้าเป็นมติพรรคนั้นไม่ได้เป็นปัญหา ทำได้ แต่ไม่ใช่แอบไปเจรจาแล้วเขาไม่รับ” ชวน ตวัดมีดโกนกรีด... เพราะก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันว่า “เดชอิศม์” บินไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ฮ่องกง เพื่อเจรจาขอร่วมรัฐบาล
“ไม่อายหรือ ที่ไปเสนอตัว เพราะนายเศรษฐา เคยประกาศแต่แรกว่าจะไม่เชิญประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล แต่ยังไปติดต่อด้วยตัวเอง ไปเจรจากับนายทักษิณ ด้วยตัวเอง ซึ่งการดิ้นรนนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสียหาย”
ด้าน “เดชอิศม์” พร้อมส.ส.ในกลุ่มได้ออกมาแถลงข่าวโต้ตอบว่า ความจริงประชาธิปัตย์ ไม่มีเอกภาพมาตั้งแต่การประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว เพราะมีกลุ่มคนที่เจตนาที่จะทำให้องค์ประชุมล่ม
ที่ทางกลุ่มโหวตหนุน “เศรษฐา” ก็เพื่อให้การตั้งรัฐบาลมาบริหารบ้านเมืองเดินไปได้ ส่วนคนที่ “ไม่เห็นชอบ” ก็จะยกเอาเรื่องความขัดแย้งในอดีต ความโกรธในอดีต มาเป็นข้ออ้าง
... พวกเราเป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ไม่เคยใส่เสื้อเหลือง ไม่เคยใส่เสื้อแดง ไม่เคยมีความขัดแย้ง เราไม่ควรจะมารับมรดกความขัดแย้งต่อจากรุ่นเก่าๆ เราถามกันทุกคน ซึ่งทุกคนมีความเห็นว่า ขอให้ชาติเดินไปข้างหน้าได้ เราควรสนับสนุนให้เขาเป็นนายกฯ แม้ตัวพวกเรายังเป็นฝ่ายค้าน แต่เปิดโอกาสให้เขาได้ทำหน้าที่ นั่นคือเหตุผลที่เราโหวตให้นายเศรษฐา...
...ในวันโหวต เรานั่งคุยกันกับส.ส.ประชาธิปัตย์ ประมาณ 20 คน พอมีการโหวต เรานั่งดู 3 คนแรกของพรรคที่โหวต คือ นายจุรินทร์ งดออกเสียง นายบัญญัติ โหวตไม่เห็นชอบ นายชวน ก็โหวตไม่เห็นชอบ นี่คือสามเสาหลักของพรรคในเวลานี้ เมื่อลงคะแนน ไม่เหมือนกัน อย่างนี้เรื่องงดออกเสียง ก็ไม่ใช่มติพรรคแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงโหวต เห็นชอบ
ส่วนที่พรรคจะตั้งกรรมการสอบ หรือจะมีมติขับพ้นพรรคนั้น ต้องไม่ลืมว่า การขับออกจากพรรคต้องมี ส.ส.ร่วมกับกรรมการบริหารพรรค และเป็นมติ 3 ใน 4 แต่ดูไปดูมา ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่อยู่ตรงนี้หมดแล้ว ไม่รู้ว่าใครจะขับใครกันแน่ !!
เรียกได้ว่า รุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ปะทะคารมกันแบบไฟลุก
เมื่อเจอการตอบโต้ และท้าทายแบบนี้ “ชวน หลีกภัย” จึงได้ออกมาชี้แจงซ้ำ ถึงเหตุผลที่ต้องโหวตไม่เห็นชอบ เพราะ
ได้ต่อสู้กับพรรคการเมืองเหล่านี้ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนมาพรรคเพื่อไทย สู้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ประกาศว่า จะพัฒนาจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ที่หลัง ซึ่งเป็นผลกระทบกับจังหวัดในภาคใต้มาก ตนจึงทั้งต่อสู้ ทั้งขอร้องประชาชน อย่าเลือกพรรคที่แกล้งเรา และชาวบ้านก็ปฏิบัติตาม คือไม่เลือกพรรคเพื่อไทยมาหลายสมัย จะเห็นได้ว่าไม่ได้ ส.ส. ภาคใต้เลย 3 สมัย ดังนั้นหากเราทำสิ่งใดที่เป็นการสนับสนุนพรรคนี้ ก็เหมือนกับเราทรยศคนใต้
“ต้องยอมรับว่าตอนที่เราสู้กับพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตรนั้น นายเดชอิศม์ ก็อยู่ในพรรคนั้นด้วย เราเรียกร้องความเป็นธรรมว่า คนภาคใต้ถูกกลั่นแกล้ง ฉะนั้นความคิดจึงต่างกันตั้งแต่ต้น เราสู้เพื่อขอความเป็นธรรมให้ภาคใต้ ที่ถูกเลือกปฏิบัติ ผมจึงขอทำหน้าที่ ไม่ทรยศต่อคนภาคใต้”
“ชวน”กรีดซ้ำว่า ได้ถามในที่ประชุม ถึงกระแสข่าวที่นายเดชอิศม์ เดินทางไปพบกับนายทักษิณ ที่ฮ่องกงว่าจริงหรือไม่ ซึ่งนายเดชอิศม์ ยอมรับว่าไปฮ่องกงจริง แต่ไม่ได้เดินทางไปพบนายทักษิณ เพียงแต่เมื่อนายทักษิณ ทราบว่า นายเดชอิศม์ไปฮ่องกง จึงเรียกไปพบ ซึ่งนายเดชอิศม์ ยืนยันว่าไม่ได้ไปเพื่อเจรจาร่วมรัฐบาล...
รบกันดุเดือดขนาดนี้ แม้มองจากภายนอกว่าพรรคแค่ปริ ยังไม่แตก แต่ภายในนั้นเละแล้ว ก็ต้องรอดูตอนจบจะเป็นอย่างไร !!