ศาล รธน.อนุญาตให้ “พิธา-ก้าวไกล” ขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดี ม.112 อีก 30 วันตามคำขอ พร้อมแจ้งอภิปรายต่อคดีสถานะรัฐมนตรี “ศักดิ์สยาม”
วันนี้ (16 ส.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า ในคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ...เพื่อยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่นั้น ศาลได้พิจารณาคำร้องของนายพิธา และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 และ 2 ลงวันที่ 15 ส.ค.ขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาครั้งที่สอง ออกไปอีก 30 วัน นับถัดจากวันครบกำหนดขยายระยะเวลาครั้งแรกแล้ว มีคำสั่งอนุญาตตามคำขอ
นอกจากนี้ ยังแจ้งว่า ศาลฯ ได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยต่อในคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวจากเหตุนายศักดิ์สยาม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้นายศักดิ์สยามเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนเป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 187 ประกอบ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี 2543 มาตรา 4(1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามอาจสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ด้วย