xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” ย้ำตั้ง รบ.ไร้ ก.ก.ไม่ขัดไม่มีพรรค 2 ลุง ถอนฟ้อง “เศรษฐา” แล้ว พท.พลิ้ว “ไล่หนูตีงูเห่า” แค่หาเสียง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนุทิน” ย้ำกลางแถลงตั้ง รบ.ต้องไร้ ก.ก. ไม่เกี่ยงหากไร้พรรค 2 ลุง ถอนฟ้อง “เศรษฐา” โจมตีนโยบายกัญชาแล้ว “ชลน่าน” ชี้ 212 เสียง ถือว่าตั้งต้นคุยพรรคอื่นต่อ ยันวาระแรก ครม.ชงแก้ รธน.ตั้ง ส.ส.ร. พลิ้วแคมเปญ “ไล่หนูตีงูเห่า” แค่ใช้หาเสียง ไม่เคยเป็นศัตรู

วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค ให้การต้อนรับแกนนำพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และ นายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย บุตรชายของ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรค โดยแกนนำทั้ง 2 พรรคได้หารือร่วมกันประมาณ 30 นาที

จากนั้นเวลา 16.35 น. ทั้ง 2 พรรคได้ร่วมกันแถลงจัดตั้งรัฐบาล โดย นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ตอบรับการเข้าร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1. ไม่แตะต้องประมาลกฎหมายอาญามาตรา 112, 2. ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และ 3. ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล ร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทย ได้เห็นพ้องในแนวทางเดียวกัน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เพื่อการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศพรรคภูมิใจไทย ให้คำยืนยันว่า ถ้ายังไม่เชิญพรรคอื่นมาหารือ ให้ถือว่า พรรคเพื่อไทย สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลโดยมี 212 เสียง คือ พรรคเพื่อไทย 141 เสียง และพรรคภูมิใจไทย 71 เสียง มั่นใจว่า มีเสียงรัฐบาลเกินกึ่งหนึ่งแล้วแน่นอน ถ้าได้รับสัญญาณจากพรรคเพื่อไทย จะหาเสียงจาก ส.ส. และ ส.ว. เพื่อให้ทุกอย่างเป็นกระบวนการเพื่อได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งในรัฐสภา ส่วนการเสนอชื่อนายกฯ จะยึดตามแนวทางของ พรรคเพื่อไทย ที่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่า ไม่มี 188 เสียง หรือขั้วรัฐบาลเดิมแล้ว หมายความว่าอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า คำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้ว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายร่วมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะไม่มีความมั่นคง ไม่มีประโยชน์ คำว่า 188 เสียง จึงไม่มีในสมการจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า การจับมือกับพรรคเพื่อไทยจะมีพรรคลุงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีเพียง 3 เงื่อนไข ส่วนอื่นเป็นดุลพินิจของ พรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อะไรที่นอกเหนือจาก 3 ประการ เราคงไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า การร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะจับมือกันจนกว่าจะได้นายกฯ ไม่มีการเปลี่ยนขั้วแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง เพื่อประเทศชาติ การพูดอะไรผูกมัดเกินไปอาจทำให้เกิดทางตัน วันนี้เอาบ้านเมืองเป็นหลัก เชื่อว่าจะเดินไปได้

เมื่อถามว่า ได้มีการถอนฟ้องกรณีพรรคภูมิใจไทย ฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน กรณีที่ปราศรัยโจมตีนโยบายกัญชาว่ามอมเมาประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า “ถอนไปแล้วครับ”

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่รับคำเชิญมาจัดตั้งรัฐบาล โดยมาเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลของ พรรคภูมิใจไทย เรารับได้ทั้งหมด ขอขอบคุณคำว่า 212 เสียงของนายอนุทินในวันนี้ จะเป็นเสียงตั้งต้นในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ และ ส.ส.จากหลายพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. และ ส.ว.เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นในครั้งนี้ แม้จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังต้องการการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากปัญหาของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญอยู่นี้ มีความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามีความประสงค์จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งในสังคม และวิกฤตรัฐธรรมนูญก่อตัวเป็นปัญหาของประเทศ และประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เราจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองให้มาสนับสนุนนายกฯจากพรรคเพื่อไทย โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก อาทิ เมื่อฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุน นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เห็นว่าทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ จึงกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้ 1. ยึดวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย นำความปรองดอง สมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ 2. จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวาระแรก จะมีมติให้ทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร.

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า 3. ดำเนินงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ สิ่งใดที่เป็นปัญหาจะต้องถูกตรวจสอบและเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง 4. จัดตั้งรัฐบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และ 5. การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้เปิดกว้างให้ ส.ส. และ ส.ว.มีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่าทางตันระบบการเมืองของประเทศ และฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน

“หลังจากนี้ เราจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้ง ส.ส. ส.ว. เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกำหนดเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ จึงร้องขอการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่าย ทุกคน มาร่วมกันกอบกู้วิกฤตของประเทศในครั้งนี้” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีพรรคไหนร่วมรัฐบาลอีกบ้าง และมีเงื่อนไขอะไรอีกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะพบปะกันทั้งหมด จะมีการทาบทามพรรคอื่นๆ มาร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่า โฉมหน้ารัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลสนามฉันท์หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่สามารถทำตามเจตนารมณ์ประชาชนได้ การหันมาเข้าหากันตั้งรัฐบาลจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เมื่อถามว่า จะมีการจับมือกับพรรคสองลุง และให้พรรคก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในแถลงการณ์บอกชัดเจนว่าไม่มี 2 ลุง แต่ไม่ปฏิเสธเงื่อนไข ถ้าจะ ส.ส. ส.ว. เป็นบุคคล หรือกลุ่มบุคคลมาสนับสนุนนายกฯของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นเอกสิทธิของแต่ละบุคคล

เมื่อถามว่า จะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้อย่างไรถึงการจับมือร่วมกันระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะต่อรองขอคุมกระทรวงเดิมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการลงรายละเอียดเรื่องการต่อรองกระทรวงแต่ทุกฝ่ายต้องกันหน้าเข้าหากัน ส่วนที่ผ่านมาในการหาเสียงที่ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย อาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง เช่น กรณีไล่หนูตีงูเห่า ถือเป็นวิถีการหาเสียง แต่พรรคเพื่อไทย ไม่เคยประกาศเป็นศัตรูกับใคร เป็นเทคนิคการหาเสียงที่ทุกพรรคเป็นคู่แข่งทางการเมือง หลังจากประชาชนมอบอำนาจให้เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาทำตามมติของประชาชน ถ้าสามาถร่วมทำงานกันได้ ก็มาเป็นรัฐบาลร่วมกันได้

เมื่อถามว่า ส่วนแคนดิเดตนายกฯยังเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน อยู่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สื่อรับรู้ทั่วไปว่าเป็นเช่นนั้น และยืนยันว่ายังเป็นนายเศรษฐาอยู่

เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย จับมือด้วยกันไปได้ตลอด ถ้าเทียบการจับมือของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ในช่วงที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลมีข้อกำจัดตามรัฐธรรมนูญที่ไม่ยึดเอาเสียงของประชาชนเป็นหลัก เพราะการเลือกนายกฯต้องอาศัยเสียง ส.ว. ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคก้าวไกล ได้ เพราะเราไม่ได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. และพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชน ส่วนการจับมือกับพรรคภูมิใจไทย นั้น พรรคภูมิใจไทย ได้เสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับสาม และพรรคภูมิใจไทย​ พรรคเพื่อไทย มีเสียงสนับสนุนจากประชาชน ถือเป็นความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง เราเชื่อมั่นในการจับมือกับพรรคภูมิใจไทย ว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ เชื่อมั่นว่าจับมือกับพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสสูงที่จะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ

ด้าน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในเกือบทุกวันของสัปดาห์นี้จะเห็นภาพการจับมือตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองเพิ่มขึ้น และไม่ได้ปิดโอกาสเสียงจากรายบุคคลที่จะสนับสนุนนายกฯพรรคเพื่อไทย ขอให้มั่นใจว่าจะมีเสียง ส.ส. สนับสนุนเกินครึ่ง ส่วนการขอเสียงส.ว. อยู่ระหว่างการดำเนินการ และมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีทุกส่วน.


กำลังโหลดความคิดเห็น