รองประธานสภา เผย ฉีก MOU พรรคร่วมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทีมเจรจา รับเสียดายไม่ได้บรรจุวาระแก้ “ม.272” หลังงดประชุมรัฐสภา สงวนความเห็นยื้ออีก 10 เดือน เลือกนายกฯ
วันนี้ (26 ก.ค.) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.ค. ที่มีการเลื่อนออกไป ว่า ในส่วนนี้เป็นส่วนของการประชุมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ได้หารือกัน แต่ไม่ได้มีการเรียกรองประธานสภาทั้ง 2 คน เข้าไปหารือด้วย แต่เราก็เคารพการตัดสินใจ ซึ่งวาระที่น่าเสียดาย คือ วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ทำให้ไม่ได้มีการพิจารณาไปด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการเสนอให้ฉีกเอ็มโอยูของ 8 พรรคร่วม ให้พรรคเพื่อไทยร่างเอ็มโอยูขึ้นมาใหม่ เพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มองเรื่องนี้อย่างไร นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ เพราะพรรคการเมืองหรือทีมเจรจาจะมีการพูดคุยกัน ส่วนสัญญาณว่าพร้อมหรือไม่พร้อม เพราะเป็นการหารือร่วม เวลาเราจะเลือกประชุมในวาระเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อมีความซับซ้อนในเรื่องของผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญ เราจำเป็นต้องตั้งวาระอย่างรอบคอบขึ้น รอดูความพร้อมจากทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า การที่จะประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไปยื่นคำร้องก่อนหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ต้องถามประธานรัฐสภา ยืนยันว่า ในขณะที่การเลือกนายกรัฐมนตรียังไม่เรียบร้อย กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติก็จะเดินหน้าได้ ตนก็จะรับผิดชอบในเรื่องการบรรจุร่างพระราชบัญญัติ พระราชกำหนดต่างๆ ต่อ
ส่วนที่มีกระแสว่าให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตอบแทนพรรคได้ ดูจากท่าทีแกนนำพรรคหลายคน ก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ว่าจะทำอะไรก็ได้ ให้ได้เป็นรัฐบาล เพราะทุกพรรคมีจุดยืนชัดเจน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเสนอให้เลื่อนการโหวตเลือกนายกฯ ไปอีก 10 เดือน เพื่อให้ ส.ว. หมดวาระ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ขอสงวนไว้สำหรับความเห็นของประธานรัฐสภา