xs
xsm
sm
md
lg

“ชัยธวัช” ให้สิทธิ พท.บอกหย่าก่อนหากไปไม่รอด อย่าเพิ่งสรุป 8 พรรคแตก รอดูก่อนหลังมีกระแสฉีก MOU

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาฯ ก้าวไกล ให้สิทธิ “เพื่อไทย” ตัดสินใจบอกหย่าก่อน หากไปต่อไม่รอด ขออย่าเพิ่งสรุปข้าวต้มมัด 8 พรรคร่วมฯ ปริแตก ลั่นขอรอฟัง “เพื่อไทย” ดีกว่า หลังมีกระแสภายในให้ฉีก MOU ไม่กังวลสิทธิตั้ง รบ.ตกเป็นของพรรคอันดับสาม บอกพลิกขั้วยาก ถ้า “ก้าวไกล-เพื่อไทย” จับมือแน่น

วันนี้ (25 ก.ค.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ที่อาคารไทยซัมมิท ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เลื่อนการประชุมแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อไทย ว่า ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมีไม่มากเท่าที่ควร ส่วนจะมีการนัดหมายกันอีกครั้งเมื่อไร ทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้แจ้ง เนื่องจากคิดว่าน่าจะมีการเลื่อนการประชุมรัฐสภาในสัปดาห์นี้ เพราะล่าสุด ได้รับแจ้งจากสภา ว่า การประชุมวิป 3 ฝ่ายพรุ่งนี้ ได้ของดไปแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ที่ประธานสภา จะงดประชุมในวันที่ 27 ก.ค.ไปด้วย ส่วนด้วยเหตุผลอะไรยังไม่ได้รับแจ้งมา

เมื่อถามว่า ตอนนี้เริ่มมีท่าทีอย่างพรรคไทยสร้างไทยออกมาพูดว่าไม่สนับสนุนให้แก้ ม.112 จะถือเป็นสัญญานอะไรหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ เพราะสิ่งที่เราได้คุยกันมาโดยตลอดตั้งแต่ทำ MOU ก็คือ ม.112 ไม่ได้เกี่ยวข้องในการร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า 8 พรรคการเมืองยังจับมือกันแน่นอยู่หรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่า ข้าวต้มมัดเริ่มปริ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งสรุปแบบนั้น

เมื่อถามว่า กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขอให้เพื่อไทยเป็นแกนนำ ทำ MOU ใหม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ขอให้รอฟังพรรคเพื่อไทยดีกว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ส่งสัญญาณมา

ส่วนพร้อมหรือไม่หากมีการทำ MOU ใหม่นั้น ก็ต้องไปดูในรายละเอียด ตนคิดว่า การที่พรรคเพื่อไทยขอเลื่อนประชุม สะท้อนว่า มีการพยายามหาทางออกให้ดีที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน และตอนนี้ทางฝั่งตนได้พูดคุยกับทาง ส.ว.ที่คราวที่แล้วไม่ได้โหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งตอนนี้ก็มีสัญญาณจากหลายคนว่าพร้อมจะโหวตให้ หากมีการเปลี่ยนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้พรรคเพื่อไทยทำทุกอย่าง หรือทางฝั่งพรรคก้าวไกลต้องมีเงื่อนไขอะไรไปแลกหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า การประชุม 8 พรรคครั้งที่แล้ว พรรคก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยได้ให้พรรคเพื่อไทยหาแนวทางออกมานำเสนอในที่ประชุม

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยังไว้ใจพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังมีความไว้วางใจ ส่วนจะต้องบอกกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่า ไม่เอาพรรคสองลุง นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็น่าจะทราบจากข่าวอยู่แล้วว่า มติที่ประชุม ส.ส.เป็นอย่างไร ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลยังยึดมั่น ในเป้าหมายสำคัญที่สุด คือ การพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้พื้นฐานของ 8 พรรคการเมือง ให้สำเร็จตามเจตจำนงที่ประชาชนได้ให้ไว้แล้วภายหลังการเลือกตั้ง

ส่วนการร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ก็คงต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคเพื่อไทยแม้จะมีการเชิญมาพูดคุยกัน แต่ไม่ใช่เชิญมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่เป็นการรับฟังความคิดเห็น
ส่วนแกนนำพรรคเพื่อไทยจะต้องนัดแนะพูดคุยกันหรือไม่เพื่อให้ความชัดเจน นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็ต้องพูดคุยกันในเวลาที่จำกัด เพียงแต่ว่าเมื่อพรรคเพื่แไทยไม่พร้อมในวันพรุ่งนี้ ประกอบกับการเลื่อนประชุมรัฐสภาอาจต้องขยับเวลาไปสักเล็กน้อย

เมื่อถามว่า หากสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลตกไปอยู่ที่พรรคอันดับ 3 ก้าวไกลมีความกังวลเรื่องนี้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ค่อยกังวล หากพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจับมือกันแน่น

“การพลิกขั้วรัฐบาลไม่ได้เกิดได้ง่ายๆ ผมคิดว่าต้องพยายาม ผมคิดว่า การที่จะให้พรรคการเมืองจับมือกันแน่นคือประชาชน”

เมื่อถามว่า MOU มีผลหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนั้น และไม่รู้ว่ามีข้อเสนอกี่ตัวเลือกบ้างจากพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีการตอบรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน จะเป็นแนวทางในการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องพูดว่าพรรคก้าวไกลมีจุดยืนมาโดยตลอดว่าอะไรที่เป็นอำนาจของสภาอยู่แล้ว เราก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือสภา เพราะสภามีอำนาจเต็มหลายๆ เรื่อง ยกเว้นกรณีที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญมาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมาชี้ว่าสภาทำอะไรได้หรือไม่ได้ เรามีจุดยืนมาโดยตลอด ถึงสาเหตุที่ทำไม ส.ส.ก้าวไกล ถึงไม่ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีคนแนะนำเยอะมาก และเชื่อว่า สภายังคงมีทางออก หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง สามารถใช้ระบบสภามาหารือร่วมกันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น

กรณีมีข้อเสนอให้รอการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป 10 เดือน หลัง ส.ว.หมดวาระ นายชัยธวัช ระบุว่า เป็นการแสดงออกถึงว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่รอได้ แต่ 10 เดือน มันอาจจะนานเกินไป ทางที่ดีควรมีทางออกโดยที่ไม่ยืดเวลาออกไปนานขนาดนั้น ซึ่งการปลดล็อกข้อบังคับที่ 41 จะช่วยได้มาก

“ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจับมือกันแน่น รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่มีทางเกิดขึ้น และถึงที่สุด ส.ว.อาจจะมีวิจารณญาณทำตามเสียงประชาชน”

เมื่อถามว่า หากถึงที่สุดพรรคก้าวไกลต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน จะเลือกเดินออกไปเอง หรือให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เชิญออก นายชัยธวัช ตอบว่า หากเมื่อถึงสถานการณ์นั้นจริง เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องเลือก ส่วนสิ่งที่พรรคก้าวไกลเลือก พยายามทำให้ดีที่สุด ให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้ตามเสียงของประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น