ตื่นเถอะ! “ปู-จิตกร บุษบา” ยก 6 เหตุผล ไม่เชื่อ “พท.” จะยื้อหนุน “ก้าวไกล” 10 เดือน รอ ส.ว.หมดอายุ “พุทธะอิสระ” ยกทุกข์ชาวบ้าน รอไม่ได้ จวกยับ “ฝันไปหรือเปล่าเด็กน้อย” นักวิชาการ สงสัย “เพื่อไทย” รออะไรอีก
น่าสนใจอย่างยิ่ง วันนี้( 24 ก.ค.) ปู-จิตกร บุษบา พิธีกรและคอลัมนิสต์ชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีที่มีการเสนอแผนยื้อ 10 เดือน เพื่อรอ ส.ว.หมดอายุ แล้วค่อยโหวตนายกฯและตั้งรัฐบาล ว่า
“#ผมไม่เชื่อในวิธีคิดนี้ เพราะ….1. ใครจะรอ? เพื่อไทยจะรอ ทั้งๆ ที่เสียงน้อยกว่าก้าวไกลแค่ 10 เสียง และไม่ได้มีเรื่อง ม.112 เป็นอุปสรรคอย่างนั้นหรือ? 2. เมื่อเพื่อไทยนัดพรรคต่างๆ ไปปรึกษาหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ก็เห็นไปหาทุกพรรค 3. ถ้าเพื่อไทยเกรงใจก้าวไกล ไม่อยากตั้งรัฐบาล ภูมิใจไทย พรรคอันดับ 3 ก็ตั้งได้ 4. ถ้าโหวตชื่อนายกฯ ในบัญชีที่ยื่นกับ กกต. ไว้ไม่ได้ ก็เข้าชื่อกัน งดเว้นข้อบังคับ ไปโหวตชื่อคนนอก จบ!! 5. ส.ว. เขาจะรอจนถึง 10 เดือนเหรอ? 6.บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร? พ.ร.บ.งบประมาณ ใครจะเป็นคนทำ
“ผมจึงไม่เคยเชื่อในทฤษฎีนี้เลย เพราะไม่มีใครทุ่มเทให้แก่พรรคก้าวไกลขนาดนั้นหรอก” #ตื่นเถอะ”
ขณะเดียวกัน อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” เรื่อง “ฝันไปหรือเปล่าเด็กน้อย” ระบุว่า
“มีคนถามมาว่า พรรคก้าวไกลจะเล่นบทยื้อเวลาเพื่อให้ ส.ว. สิ้นสภาพตามรัฐธรรมนูญที่กำหนด แล้วค่อยรวมแปดพรรค จัดตั้งรัฐบาล จึงอยากบอกว่า เป็นความฝันของเด็กน้อยที่ไม่รู้ประสาอะไรเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่า ตัวเองยังมีคดีติดอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญถึง 2 คดี หรือรู้ แต่คิดว่า ใครก็ทำอะไรกูไม่ได้ เพราะกูมีพลังด้อมส้มคอยหนุนหลังอยู่
อยากบอกพรรคเด็กน้อยว่า ต่อให้พยายามยื้อเวลาเพื่อรอให้ ส.ว.สิ้นสภาพ แต่ความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ที่วันคืนผ่านพ้นไปโดยไม่มีอะไรคืบหน้าจากผู้ที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาให้แก่พวกเขา แต่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล โดยไม่สนใจความทุกข์ยากเดือดร้อนของประเทศชาติ
ไหนจะเกิดจากไม่มีรัฐบาลเสนอขออนุมัติงบประมาณ จากรัฐสภาที่ยังไม่สามารถมีรัฐบาลได้ ไหนพวกนักลงทุนจะชะลอการลงทุน เพราะไม่มั่นใจในนโยบาย นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจต่อนโยบายของรัฐบาลและสวัสดิภาพของการเข้ามาในเมืองไทย
ภาคแรงงานและผู้ประกอบการ ก็ยืนอยู่บนความไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะปลดคนงานออกเมื่อไหร่ ส่วนคนงานก็ไม่รู้ว่าจะตกงานหรือไม่ การจับจ่ายใช้สอยก็ต้องกระเหม็ดกระเเหม่ มัธยัสถ์ ประหยัด ไม่กล้าซื้อ ไม่กล้าจ่าย มีแต่คนขายของ แต่ไม่มีคนซื้อของ ทุกอย่างที่มันควรจะขับเคลื่อนไปข้างหน้ากลับต้องมาสะดุด หยุดอยู่กับความเห็นแก่ตัวของพวกนักการเมือง และพรรคการเมือง ที่จะจัดตั้งรัฐบาล
นี่แหละธรรมชาติ สันดานของพวกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของคน 14 ล้านเสียง ใครที่ไปเลือกมันเข้ามาจะรับผิดชอบอย่างไร ทีนี้ลองหันมาดูว่า ความเพ้อฝันที่พรรคก้าวไกลจะพยายามยื้อเวลาจนกว่า ส.ว.จะหมดอายุตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แล้วแปดพรรคเดิมที่ทำเอ็มโอยู ค่อยร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลมันทำได้จริงหรือไม่ พรรคเด็กน้อยคงจะลืมไปแล้วว่า เมื่อถึงเวลาที่ ส.ว. หมดอายุการทำหน้าที่ไปแล้วนั้น พวกตนจะอยู่ในสภากันหรือเปล่า
เพราะนอกจากคดีถือหุ้นสื่อแล้ว ยังมีคดีที่มีโทษหนักกว่าอีก 1 คดี ที่ค้างอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ คือ คดีร่วมกันล้มล้างการปกครอง ซึ่งมีโทษหนักถึงกับติดคุกและยุบพรรค ตัดสิทธิการเล่นการเมือง10 ปี แล้วเช่นนี้จะไม่เรียกว่า มโน เห็นแก่ประโยชน์ตัวเองแล้วจะเรียกว่าอะไร คนที่ขยันคิดแต่เรื่องชั่วๆ ก็จักมองไม่เห็นต้นสายปลายเหตุที่ตนทำเอาไว้ วันๆ ก็ร่ำร้อง เพ้อฝัน แต่ผลรับที่ตนอยากได้ เหมือนกับเด็กที่ร่ำร้องอยากได้ของเล่น พอไม่ได้ดังใจก็ฟูมฟาย โวยวาย โทษนั่นโทษนี่แต่ไม่เคยโทษตนเองเลย คนพวกนี้ไม่รู้ว่าพ่อแม่เขาสอนกันมาอย่างไร”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith ระบุว่า
“เพื่อไทยจะถ่วงเวลาไปอีกทำไม ในเมื่อวันนี้ทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้แล้ว และมันมาถึงทางแยกที่ไม่มีวันกลับมาได้แล้ว
ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ค่อยเดินเกมทีละฉาก ด้วยการเชิญทีละพรรคมาพูดว่า “ไม่เอาการแก้ไข-ยกเลิก ม.112 และพรรคก้าวไกล” โดยอ้างตลอดว่า ไม่ได้เป็นการชวนร่วมรัฐบาล แต่แค่ 8 พรรคให้มาสอบถาม (แต่พรรคก้าวไกลไม่ทราบและไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้) ก่อนที่เพื่อไทยจะเดินหมากขั้นต่อไป ให้คนค่อยๆ รับได้ และเพื่อไทยไม่ดูแย่ในสายตามวลชน แต่เมื่อหันมามองนักการเมืองฝ่ายก้าวไกลที่เรียงหน้าออกมาป่าวประกาศแต่ละคน…
– พิธา : ผมไม่ยอมให้ใครถีบผมลงจากเรือ
– วิโรจน์ : กูไม่ออก
– อมรัตน์ : โพสต์รูปผีขี่คอในชัตเตอร์กดติดวิญญาณ
– ใบตองแห้ง : อำลา VoiceTV เพราะรับไม่ได้กับดีลนี้
ไปจนถึงการรับรู้ของมวลชนก้าวไกลในโลกออนไลน์ ที่ออกมาด่าเพื่อไทย และตัดสินไปชัดเจนแล้วว่า เพื่อไทยกำลังทำอะไรอยู่
ก็แค่สงสัยเพื่อไทยจะ “เอื้อนเอ่ย ชะเอิงเอิงเอย” ไปอีกนานแค่ไหน ในเมื่อคนที่คุณคิดว่าจะให้เขาค่อยๆ ปรับอารมณ์ได้ เขาตัดสินคุณไปเรียบร้อยแล้ว…”