พุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส. โพสต์ข้อความร่ายยาวเห็นใจ 14 ล้านเสียงที่เลือก "พิธา" ชี้้เป็นต้นเหตุทำเศรษฐกิจเสียหายเป็นแสนล้าน ถามหาวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาปากท้อง เจอแต่จ้องจะหาเรื่องสถาบัน
หลังรัฐสภาไทยปฏิเสธนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตจากพรรคก้าวไกลในเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จนทำให้กลุ่มแฟนคลับหรือที่เรียกกันว่า "ด้อมส้ม" เกิดความไม่พอใจเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค. เพจ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" ได้ออกมาโพสต์ข้อความไปถึงทั้ง 14 ล้านเสียงที่เลือก "พิธา" ชี้ทำเศรษฐกิจเสียหายเป็นแสนล้าน โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
"สงเอย สงสารนัก คราวที่แล้วแสดงความสงสารต่อทานอคพิโอที่ถูก ส.ส. และ ส.ว. รุมด่าไปแล้ว วันนี้มาขอแสดงความสงสารต่อ 14 ล้านเสียงที่ไปเลือกทานอคพิโอเข้ามา
นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศก็พากันชะลอการลงทุนจนทำให้แรงงานพากันตกงานเป็นทิวแถว เศรษฐกิจเสียหายเป็นแสนล้าน การส่งออกก็ชะลอตัว พ่อค้าแม่ขายต่างพากันนั่งตบยุง ไล่แมลงวันกันเป็นทิวแถว มีของขายแต่ไม่มีใครซื้อ แถมน้ำมันก็ดันมาแพงไปทั่วโลก
หมูก็ขึ้นราคา
ไก่ก็ขึ้นราคา
ไข่ก็ขึ้นราคา
ค่าครองชีพก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง
แต่ค่าแรงยังไม่ได้ขึ้น และก็ไม่รู้ว่าจะได้ขึ้นเมื่อไหร่ ทุกปากท้องกำลังจะอดอยาก ขาดแคลน แทนที่ว่าที่นายกรัฐมนตรีจะเข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน กลับเอาแต่จ้องหาเรื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความแตกแยก จนเป็นเหตุให้ ส.ว.ไม่เห็นชอบในการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศ
อย่างนี้จะไม่เรียกว่า น่าสงสารพวก 14 ล้านเสียง แล้วจะเรียกว่าอะไร อีกกลุ่มบุคคลที่น่าสงสารก็คือ ส.ว. และ ส.ส. ที่ยกมือสนับสนุนให้ทานอคพิโอเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้อยู่ว่าพรรคก้าวไกลโดยทานอคพิโอมีเจตนาจะละเมิดรัฐธรรมนูญแก้กฎหมาย 112 สร้างความไม่มั่นคงให้แก่สถาบันพระมหากษัตริย์ และประเทศชาติ ทั้งยังเข้าข่ายล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หากกรณีนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติชี้มูลความผิดอย่างชัดเจน กลุ่มบุคคลที่ยกมือสนับสนุนพิทาน้อยและพรรคก้าวไกล ก็เข้าข่ายเป็นตัวการร่วมรู้เห็นเป็นใจสนับสนุนให้กัดกร่อน บ่อนแซะทำลายสถาบัน ซึ่งปรากฏอยู่ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 19/2564
เหล่านี้คือกลุ่มบุคคลที่ควรจะต้องแสดงความน่าสงสารที่อาจจะถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา หากมีผู้ไปร้องให้ยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมือง และจะตามมาด้วยคดีอาญาอีกเป็นเข่ง เช่นนี้จะไม่สงสาร แล้วจะเรียกว่าอะไร
อีกกลุ่มบุคคลที่น่าสงสาร คือ ผู้ก่อตั้งพรรคที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดี 112 และ 116 มาวันนี้ ปิยบุตร ออกมาเรียกร้องให้พรรคก้าวไกลถอยมาเป็นฝ่ายค้าน แล้วให้รอแลนด์สไลด์อีก 4 ปีข้างหน้า บุตรเขาพูดเหมือนกับตัวเองและพวกจะอยู่จนถึงได้เลือกตั้งในอีก 4 ปีข้างหน้า ก็หวังว่าคงจะไม่ติดคุกหรือหนีออกทางช่องทางธรรมชาติไปอาศัยที่ฝรั่งเศสกันเสียก่อนที่จะถึงเวลาเลือกตั้งนะบุตร ฉ้อ ทอน วันนี้ขอระบายความสงสารไว้แค่นี้ เอาไว้วันหน้าจะมานั่งเขียนระบายความสงสารให้อ่านกันใหม่
พุทธะอิสระ"