xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจฯไทยเจ้าภาพประชุมกลุ่มเอเชียสถาบันผู้ตรวจฯระหว่างประเทศ ลงนามดูแล ปชช.พำนักชาติสมาชิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ตรวจการแผ่นดินไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกลุ่มภูมิภาคเอเชียของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ หลังมีการลงนามต่างช่วยกันดูแลประชาชนที่พำนักในประเทศสมาชิก

วันนี้ (11 ก.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะประธานภูมิภาคเอเชียของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (IOI) พร้อมด้วยนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมการประชุมกลุ่มภูมิภาคเอเชียของ IOI ในฐานะเจ้าภาพการประชุมครั้งแรกหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ย้ำจุดยืนร่วมกันของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินในภูมิภาคเอเชียในการยืนหยัดในฐานะกลไกในการตรวจสอบอำนาจรัฐ อย่างเป็นกลาง เป็นธรรม

นายสมศักดิ์ เผยว่า การประชุมครั้งนี้เปิดโอกาสให้หน่วยงานสมาชิกของ IOI จาก 9 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวม 11 หน่วยงาน ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมบทบาทและความสำคัญขององค์กรผู้ตรวจการแผ่นดินในภูมิภาคเอเชียให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบความต้องการในด้านต่างๆ ของ IOI ในหมู่หน่วยงานสมาชิกในภูมิภาคเอเชีย พบว่า ยังต้องการการสนับสนุนด้านงบประมาณ โดยเฉพาะด้านการดำเนินการวิจัยพัฒนาระบบการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงภายใต้สถานการณ์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเวทีย่อยในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมความร่วมมือเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความเป็นธรรมแก่ประชาชนของแต่ละประเทศได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาผู้ตรวจการแผ่นดินได้ลงนามความร่วมมือระหว่างผู้ตรวจการแผ่นดินไทยกับประเทศต่างๆ ตามกรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีกับประเทศต่างๆ 8 ประเทศ ติมอร์-เลสเต, อุซเบกิสถาน, จีน, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เครือรัฐออสเตรเลีย, สาธารณรัฐเกาหลี และ อินโดนีเซีย ซึ่งหลังจากที่มีการลงนามความร่วมมือร่วมกับคณะกรรมาธิการต่อต้านการทุจริตและส่งเสริมสิทธิพลเมือง สาธารณรัฐเกาหลี ก็ได้ดำเนินการร่วมกับ ACRC และกระทรวงแรงงานของประเทศไทยในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ในการแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในการลักลอบเข้าประเทศเกาหลี และการต่ออายุผู้ใช้แรงงานชาวไทยที่มีคุณภาพ ซื่อสัตย์ เป็นที่ต้องการของนายจ้างแต่มีอายุเกิน 40 ปี ได้ทำงานต่ออีก 4 ปี 10 เดือน ซึ่งกฎหมายแรงงานของสาธารณรัฐเกาหลีกำหนดให้จ้างแรงงานต่างชาติได้แค่อายุ 40 ปี เท่านั้น ส่งผลให้ผู้ใช้แรงงานกว่า 17,000 คน ได้ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป รวมถึงประสานหน่วยงานประกันสุขภาพแห่งสาธารณรัฐเกาหลีให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานไทยในกรณีที่นายจ้างไม่ทำประกันสุขภาพให้

นอกจากนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินยังร่วมมือกับผู้ตรวจการแผ่นดินอินโดนีเซีย ให้ความช่วยเหลือนักศึกษาไทยในสาธารณรัฐอินโดนีเซียที่จบการศึกษาให้ได้การรับรองปริญญาเภสัชศาสตร์ ซึ่งแต่เดิมไม่สามารถเทียบวุฒิการศึกษาในสาขาวิชาเภสัชกรรมระหว่างมหาวิทยาลัยของสาธารณรัฐอินโดนีเซียและมหาวิทยาลัยของประเทศไทยได้ รวมถึงประสานศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในการจัดทำหลักประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุให้นักศึกษาไทยในสาธารณรัฐอินโดนีเซียเพื่อรองรับค่ารักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉิน รวมถึงให้ ศอ.บต.ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานนักศึกษาไทยให้ข้อมูลความรู้ตั้งแต่ก่อน-ระหว่างเดินทางไปศึกษา จนกระทั่งเรียนจบและเทียบวุฒิการศึกษา รวมถึงจัดทำเว็บไซต์เป็นฐานข้อมูลนักศึกษา โดยที่ผ่านมามีนักศึกษาลงระบบไปกว่า 3,700 คน

นอกจากนี้ ในปี 2565 ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับ ผู้ตรวจการแผ่นดินอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จัดตั้งเวทีผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAOF) เพื่อขยายขอบเขตแนวร่วมการบูรณาการการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ยกระดับคุ้มครองคนอาเซียน อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงจุดยืนขององค์กรผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมิได้มุ่งให้ความเป็นธรรม หรือดูแลเฉพาะประชาชนทุกคนที่พำนักในประเทศตนเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาชนของตนที่พำนักในประเทศสมาชิกอื่นด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น