ส.ส.ก้าวไกล เผย ประเด็นเปลี่ยนวันชาติ เป็นการเสวนาเชิงวิชาการ เน้นเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์ แต่มีการนำมาโจมตีทางการเมือง ชี้ ยังมีหวังโหวตนายกฯ ส่วน ส.ว. เชื่อ หากตามข่าวจะเข้าใจ
วันนี้ (4 ก.ค.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้เห็นต่างทางการเมือง เข้ายื่นหนังสือถึงสมาชิกวุฒิสภาขอให้ไม่โหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยใช้เหตุผลเรื่องการแก้ไข ม.112 และเรื่องที่เจ้าตัวพูดในงานเสวนาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เกี่ยวกับประเด็นเปลี่ยนวันชาติ โดยระบุว่า หากดูแล้วจะเห็นว่า เป็นการพยายามทุกวิธีในการโจมตีพรรคก้าวไกล ส่วนตัวยืนยันว่า งานวันนั้นเป็นการเสวนาวิชาการ และข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ แต่มีการนำมาโจมตีทางการเมือง ทั้งเรื่องฐานทัพหรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่พยายามเตะตัดขาพรรคก้าวไกล
เมื่อถามเรื่องดังกล่าวจะกระทบกับการโหวตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้เรื่องการโหวตประธานสภา ก็เรียบร้อยดี เรามองอย่างมีความหวัง
ในส่วนประเด็นที่ ส.ว. จะเข้าใจเรื่องนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ ระบุว่า ถ้าติดตามข่าวสาร สิ่งที่เราคิดหวัง คือ ทุกคนจะสามารถแยกแยะได้ สุดท้ายจะนำไปสู่จุดนั้นไหม ก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม การโหวตนายกฯ ครั้งนี้ เป็นการโหวตครั้งประวัติศาสตร์ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่า เสียงของเขาได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่า ความคิดเห็นของ ส.ว. ให้พรรคก้าวไกล ลดเพดานลง ส่วนตัวมีความเห็นอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส.ว. 250 ดำรงตำแหน่งมา 4 ปี แต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกัน แต่อาจเปลี่ยนแปลงไป ขึ้นอยู่กับการโหวตครั้งสุดท้ายว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า เชื่อมั่นในเสียง ส.ว. ที่มีอยู่หรือไม่ นายรังสิมันต์ ตอบว่า ทุกเสียงมีคุณค่า และเป็นเสียงที่ดัง พร้อมคาดหวังว่า ทุกฝ่ายควรยอมรับ และคิดว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุด และเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศไทย ถ้าทุกฝ่ายยอมรับเราจะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไป