“ก้าวไกล” ยับเยิน ชวด ปธ.สภา-วืดนายกฯ!?

เมืองไทย 360 องศา

ก็น่าเป็นไปตามคาดหมายตั้งแต่ต้นแล้วว่า พรรคก้าวไกลจะไม่ได้เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขณะเดียวกัน แม้ว่าในที่สุดแล้ว พรรคเพื่อไทย ก็จะไม่ได้เก้าอี้ตัวนี้ก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่หมายความว่า พ่ายแพ้ หรือเสียหาย เพราะฝ่ายที่เสียหายขาดทุน ก็คือ พรรคก้าวไกล นั่นเอง เพราะนอกจากไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาแล้ว ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คือ วันที่ 13 กรกฎาคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก็จะชวดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตามมาอีกด้วย

แม้ว่าจนถึงขณะนี้ก่อนถึงเวลานัดหมาย 20.00 น.วันที่ 3 มิถุนายน ทั้งสองพรรคคือ ก้าวไกล และ เพื่อไทย จะแถลงเหตุผลรวมถึงระบุตัวบุคคลที่มีความเห็นร่วมกันว่าจะเสนอชื่อให้ได้รับการโหวตเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีชื่อตรงกันคือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ โดยทางฝ่ายเพื่อไทยอ้างว่าเพื่อตัดปัญหาความขัดแย้ง และไม่ต้องฟรีโหวต จนสร้างความผิดหวังให้กับประชาชน

มีรายงานว่า วันที่ 3 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุม ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีแกนนำพรรค และ ส.ส.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อกำหนดท่าทีต่อการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีกระแสข่าวว่า 8 พรรคเสียงข้างมาก จะเสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้า และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะคนกลาง เพื่อยุติปัญหาระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย

ภายหลังการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง ทีมประชาสัมพันธ์ของพรรคเพื่อไทย ได้แจ้งกับสื่อมวลชนที่มาติดตามการประชุม ว่า “จะไม่มีการแถลงข่าว และจะไม่มีมติเกี่ยวกับการโหวตประธานสภา แต่อย่างใด”

ภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ทยอยเดินทางไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อเตรียมตัวร่วมงานรัฐพิธี เปิดประชุมรัฐสภาในเวลา 17.00 น. ของวันเดียวกัน โดย ส.ส.แต่ละคนปฏิเสธที่จัตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงรายละเอียดของการประชุม

มีเพียง นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า วันนี้หลังรัฐพิธีเปิดประชุมสภาเสร็จสิ้น คณะเจรจาของเพื่อไทยและก้าวไกล จะหารือเพื่อสรุปประเด็นประธานสภากันอีกครั้ง พร้อมแสดงความมั่นใจว่า ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีไม่มีปัญหา

“ขอให้อดใจรอ เรื่องนี้ที่ไม่จบง่ายๆ เพราะต้องคุยกันละเอียด อาจจะเหนื่อยกันหน่อยที่ประชุมกันหลายครั้ง แต่เป็นเรื่องธรรมดาของความเห็นที่ต่าง เชื่อพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) ได้ประธานสภา แน่นอน” นายสุทิน ระบุ

นายสุทิน กล่าวต่อว่า หน้าที่ของ ส.ส.คือ ประชุมเสนอความคิดเห็น วันนี้ได้เสร็จสิ้นแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่กำลังประชุมต่อ ส่วนจะยึดเอามติของวงประชุม ส.ส.หรือไม่ ยังตอบไม่ได้

ขณะที่ปฏิกิริยาจากฝ่ายก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล บอกก่อนเดินทางไปร่วมรัฐพิธี และหลังการประชุม ส.ส.ของพรรคก้าวไกล เสร็จสิ้น ถึงประเด็นความชัดเจนตำแหน่งประธานสภา ว่า ขอให้รอการแถลงข่าวร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย ส่วนจะเป็นเมื่อไร สถานที่ไหนจะแจ้งเวลาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับการติดต่อมาจากทางพรรคเพื่อไทย หรือยัง นายชัยธวัช ตอบว่า จริงๆ มีการพูดคุยกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

ส่วนจะเป็น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ หรือไม่นั้น ก็ขอให้รอดูการแถลงข่าวทีเดียว และการแถลงครั้งนี้ จะเป็นข้อยุติที่ดีที่สุด

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าพอใจทุกฝ่าย พรรคก้าวไกลพอใจหรือไม่ นายชัยธวัช ตอบว่า รอแถลงทีเดียว ก่อนจะขึ้นรถออกจากอาคารไทยซัมมิท ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคทันที

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประชุมหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. ในพรรคเพื่อไทย เรื่องตำแหน่งประธานสภา จนได้ข้อสรุปว่าจะเสนอ นายวันมูหะมัดนอร์ เป็นประธานสภา นั้น ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทราบแล้วหรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า ยังไม่ทราบ แต่ก็เห็นข่าวว่า จะมีการแถลงในเย็นวันนี้ ซึ่งตนยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ตนเองทราบเพียงแค่ว่า วันนี้มีประชุมกันทั้งสองพรรค

ส่วนเรื่องความพร้อมในการเป็นประธานสภานั้น นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า “พร้อม” เมื่อมีความจำเป็น จะต้องรักษาความเป็นประชาธิปไตยของประชาชนให้เดินหน้าไปได้ ถ้าเราไม่ยอมรับ ปัญหาอุปสรรคข้างหน้าเราก็ไม่รู้จะโทษใคร เพราะเราพยายามอย่างที่สุดแล้ว เพื่อให้ระบบนี้เดินไปให้ได้ จึงต้องช่วยกัน แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ผมไม่ใช่คนที่ไปแย่ง หรืออยากได้ตำแหน่งประธานสภา

“เป็นทางออกที่เราไม่เคยนึกมาก่อน เปรียบเสมือนการซื้อหวย ที่ซื้อไม่ถูก เพราะเราพยายามให้มันออกตัวเลขอื่น แต่ก็มาลงที่เรา เชื่อว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนด”

พิจารณาจากท่าทีและความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาทั้งหมด ถือว่า “ครบองค์ประกอบ” ทำให้เป็นไปได้สูงมาก ที่ว่า ฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้รับการโหวตเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ อ้างว่าเป็น“คนกลาง” และลดความขัดแย้ง ซึ่งทางฝ่ายพรรคฝ่ายค้านหลายพรรค ก็มีท่าทีสนับสนุนด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นคนมีประสบการณ์ เคยทำหน้าที่ประธานสภามาแล้ว และมีความเป็นกลางมากกว่า เมื่อเทียบกับรายชื่อคนอื่นที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล

ขณะเดียวกัน เมื่อพูดถึงพรรคก้าวไกล เมื่อแนวโน้มสูงที่รายชื่อมาลงที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ แทนที่จะเป็น นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ หากออกมาแบบนี้ ถือว่า สำหรับพรรคก้าวไกลเสียหาย และ “เข้าเนื้อ” อย่างแรง เพราะในที่สุดแล้ว จะไม่ใช่เสียแค่ตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ในวันข้างหน้า จะต้องเสียตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแคนดิเดตอยู่ในเวลานี้อีกด้วย แล้วจะไม่เรียกว่า “ขาดทุนป่นปี้” ได้อย่างไร

สำหรับอีกด้านหนึ่งคือ พรรคเพื่อไทย แม้ว่าตามโผดังกล่าวจะไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ ก็ไม่ได้เสียหาย อาจจะเรียกว่า “ขาดทุนกำไร” นิดหน่อยเท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาเป้าหมายหลักเอาไว้ได้อย่างมั่นคง เป็นการโยนความกดดันไปให้พรรคก้าวไกล รับไปเต็มๆ หลังจากเสนอชื่อแคนดิเดตประธานสภา ล้ำหน้าขึ้นมาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี เป้าหมายหลักที่ “ซ่อน” เอาไว้คือ นายกฯยังไม่ไปไหน เพราะคาดหมายได้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า นายพิธา ไม่ผ่านแน่นอน ไม่ว่าจะเสนอกี่ครั้งก็ไม่มีทางผ่าน ถึงตอนนั้นก็ย่อมมองออกกันอยู่แล้วว่าจะเข้าทางใคร
และที่สำคัญ เมื่อถึงเวลา “ไคลแม็กซ์” ที่ต้องตัดสินใจชี้ขาดก็จะเข้าใจทันทีว่าใคร คือ “ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจ” แท้จริงในพรรคเพื่อไทย ให้ดูชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายภูมิธรรม เวชยชัย และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เข้าไปหารือขั้นสุดท้าย กับตัวแทนพรรคก้าวไกลล่าสุด ก็แล้วกัน !!