"ชัชชาติ" พอจะอวดว่ามีผลงาน ก็ดันมี "ภาพหลุด" ว่อนเน็ต ดรามามาขโมยซีน **เพื่อไทยยังวุ่น “เศรษฐา” เบรก “อดิศร” ด้อยค่าก้าวไกล ห่วงดีลตั้งรัฐบาลล่ม “เหลิม” ฟันเปรี้ยงไม่กลัวพัง นายกฯต้องคนของเพื่อไทย!!

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**"ชัชชาติ" พอจะอวดว่ามีผลงาน ก็ดันมี "ภาพหลุด" ว่อนเน็ต ดรามามาขโมยซีน

เพิ่งจะตีปิ๊บโชว์ผลงานว่า ทำแล้ว ทำอยู่ และจะทำต่อ มีอะไรบ้างในวาระครบ 1 ปีที่อยู่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ สำหรับ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ...แบบว่ายังมิทันจะให้คนกทม.ขี้สงสัยว่า ที่หาเสียงไว้ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” นั้นเป็นอย่างไร ดรามา ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับตำแหน่งพ่อเมืองกทม. ก็โผล่มาให้เป็นขี้ปากชาวเน็ตซะงั้น

เรื่องที่ว่า เป็นภาพหลุดหญิงสาวปริศนากำลัง “จูจุ๊บปาก” กับชายที่ดูคล้าย “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯกทม.ออกมาสะพัดในโลกออนไลน์ จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่ว

ร้อนถึง “ชัชชาติ”บุรุษผู้แกร่งสุดในปฐพี ต้องออกมาชี้แจงแถลงไข ว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่ หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนกัน แกล้งกันเฉยๆ!!

ความจริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ดังว่า ซึ่ง “ชัชชาติ” บอกตัวเองก็ไม่ได้อยากจะพูดถึง แต่ก็ยอมรับว่า ชายในภาพนั้น คือฉันเอง ที่ต้องบอกแบบนี้ เพราะกลัวพี่ชายฝาแฝดจะเดือดร้อน


สำหรับเหตุการณ์หวิวที่เกิดขึ้นในภาพ ถ่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ในงานวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง จัดในพื้นที่ส่วนตัว มีเพื่อนฝูงมาร่วมงานจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็มีการ "เซอร์ไพรส์" โดยที่เหตุการณ์จริงจะไม่เหมือนกับในภาพ

ผู้ว่าฯกทม.ยังยืดอก บอกแบบแมนๆว่า หากดูแล้วไม่เหมาะสมก็ต้องขอโทษด้วย ธรรมเนียมฝรั่ง เรื่องจูจู๊บ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่เป็นประเด็นเพราะคนที่มาจูบ ไม่ได้เป็นคนที่สาธารณะ ถือเป็นบทเรียนที่ตัวเองต้องระวัง คิดไม่ถึงจะมีภาพว่อนเน็ต จนเกิดดรามา

ดรามายังลุกลามไถ่ถามแกมคาดคั้นว่า หญิงสาวปริศนาผู้นี้ มีสัมพันธ์อย่างไรกับ “ชัชชาติ” สนิทสนมถึงขั้นเรียกคนรู้ใจ หรือไม่ ?

ขณะที่ “ชัชชาติ” ยืนยัน อย่าพูดเลย เป็นเรื่องที่คนอื่นเกี่ยวข้อง และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผู้ว่าฯกทม. บอกได้เพียงว่า สถานะของหัวใจตัวเองตอนนี้มีเพียง "แสนดี" ลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น

งานนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องดรามาส่วนตัว มากลบเรื่องผลงาน อย่างที่ผู้ว่าฯกทม.ว่าไว้ ไม่เกี่ยวอะไรกับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.อะไรเลย เพราะฉะนั้นชาวบ้านทั้งหลายควรแยกย้าย แล้วกลับมาว่าด้วยการทำงานดีกว่ามั้ย?

**เพื่อไทยยังวุ่น “เศรษฐา” เบรก “อดิศร” ด้อยค่าก้าวไกล ห่วงดีลตั้งรัฐบาลล่ม “เหลิม” ฟันเปรี้ยงไม่กลัวพัง นายกฯต้องคนของเพื่อไทย!!


เรื่องพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล ใครควรจะได้เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่จบ และเป็นที่วิพากวิจารณ์อย่างมาก กับคำพูดของ“อดิศร เพียงเกษ” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่ยืนกรานว่า ตำแหน่งนี้ต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย เพราะก้าวไกล ได้โควตานายกรัฐมนตรีไปแล้ว

โดยเฉพาะประโยคเด็ด กับท่าทีที่แข็งกร้าวว่า ถึงอย่างไรเราก็ไม่ยอมให้ตำแหน่งประธานสภาฯ กับพรรคก้าวไกล ถ้าเกิดความขัดแย้ง ก็โหวตกันในสภาฯ ผมยืนยันในศักยภาพของเรา เรามีบุคลากรที่เหมาะสม ผมไม่อยากเห็นเณร เห็นพระบวชใหม่ มาเป็นเจ้าอาวาส เรามีบุคลากรเยอะแยะ อย่าไปยอมให้เขาง่ายๆ...การทำงานการเมือง ต้องอย่าอ่อน แข็งต้องแข็ง!!

กับท่าทีดังกล่าวทำให้ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ต้องออกมาเบรก “อดิศร” ว่าไม่ควรใช้คำพูดในเชิงด้อยค่าพรรคก้าวไกล ว่ารับไม่ได้ที่จะเอาเณร เอาพระบวชใหม่ มาเป็นเจ้าอาวาส เพราะจะทำให้เสียบรรยากาศการเจรจาระหว่างทั้งสองพรรค ที่จะร่วมหัวจมท้าย จับมือกันตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย


อย่างไรก็ตาม กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว “อดิศร”ได้ออกมากล่าวคำขอโทษ ที่พาดพิงพรรคก้าวไกลไปเช่นนั้น พร้อมชี้แจงว่า เป็นการพูดเปรียบเทียบในภาษาอีสาน ว่า พระบวชใหม่ สามเณรบวชใหม่ ไม่ควรมาเป็นเจ้าอาวาส แต่ตามกติกาแล้ว ทุกคนก็เป็นประธานสภาฯได้ เพราะเป็นส.ส.ที่ประชาชนเลือกมาแล้ว

แต่ “อดิศร” ก็ยังมั่นคงในจุดยืนเดิมคือ ตำแหน่งนี้ต้องเป็นของเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเกือบ100% ก็เห็นเช่นนี้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ คงต้องใช้ที่ประชุมสภาหาทางออก คือโหวตให้เห็นดำเห็นแดงกันไปเลย

ด้าน“ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่เข้ามารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทน หลังจากได้กลับเข้าสภาฯ อีกครั้ง ในรอบหลายปี และถือโอกาสพา ‘กาโม่ อาชวิน’ หลานรักที่เพิ่งกลับจากอังกฤษ มาโชว์ตัวด้วย

“ร.ต.อ.เฉลิม” ให้ความเห็นในเรื่องประธานสภาฯว่า การที่เพื่อไทย ส่งตัวแทนไปเจรจากับก้าวไกลนั้น จริงๆแล้วตัวแทนไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ เมื่อเจรจาแล้วต้องกลับมาถามพรรค ถามส.ส.หรือถามตนเองว่า เห็นด้วยหรือไม่ ไม่ใช่ว่าไปตกลงกัน ขอตำแหน่งนี้เพื่อไปทำกฎหมายของตนเอง อย่างนี้ไม่ได้

ต้องแข่งกันในสภาฯ ไม่ใช่พรรคเสนอมาแล้ว เป็นแม่บัวลอย ไม่ใช่ ต้องแข่งกันในสภาฯ


...ส่วนเรื่องประธานสภาฯ พรรษาน้อยไม่เป็นปัญหา ถ้าเก่งเป็นได้ แต่อย่าพูดว่าประธานสภาฯ เป็นของพรรคของผม หรือของพรรคไหน แบบนี้ไม่รู้การเมือง เลอะเทอะ ทำให้คนสับสน เขาเป็นประธานของสภาฯ ประธานรัฐสภา เป็นของทุกพรรค ไม่ใช่ของผม จะเอาแต่พรรคผม การเสนอกฎหมายคนเดียวกฎหมายก็ไม่ผ่าน ที่พูดมานั้นโง่!!

...ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า หากตำแหน่งประธานสภาฯไม่ลงตัว อาจทำให้การตั้งรัฐบาลยากขึ้น “ร.ต.อ.เฉลิม”บอกว่า ไม่มีรัฐบาลไหนตั้งง่าย ยากทั้งนั้น ไม่ใช่การร้องเพลง ดีด สี ตี เป่า การตั้งรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้น การรายงานตัวส.ส.ยังไม่หมด จะบอกว่าเป็นรัฐบาล มีตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ ขอให้ใจเย็น คนหนุ่มมักใจร้อน แต่คนแก่ก็คิดเป็น...

ต่อกระแสข่าวที่ว่า จะมีผู้เสนอชื่อ “สุชาติ ตันเจริญ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้าชิงประธานสภาฯด้วยนั้น “ร.ต.อ.เฉลิม” ยิ้มมุมปากก่อนบอกว่า ไม่กล้าพูด เพราะใหม่ไป หากพูดไปจะรู้มากไป ขอให้ประชุมพรรคก่อน

ไม่เพียงเท่านั้น “ร.ต.อ.เฉลิม”ยังทิ้งหมัดเด็ดส่งท้าย เมื่อถูกถามว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นคนรุ่นใหม่ เหมาะเป็นนายกฯ หรือไม่

...ผมจะเห็นพรรคอื่นเป็นนายกฯได้อย่างไร ต้องเห็นคนของพรรคเพื่อไทยสิ เล่นการเมืองต้องเล่นให้เป็น ถ้าเห็น พิธา ดีกว่า ก็ไม่ใช่เฉลิม อยู่บำรุง!!

เป็นไง มี “เหลิม” เข้ามาแจมอีกคน งานนี้บอกได้คำเดียวว่าวุ่น!!