ไฟเขียว! ร่างจัดสรรเงินเหมาจ่ายรายหัว รับกระบวนการถ่ายโอน รพ.สต. ปี 67 ฉบับคณะทำงานจัดบริการสาธารณสุข เสนอ “งบฯผู้ป่วยนอก + งบฯบริการขั้นพื้นฐาน” ใช้กลไก “กสพ.” ทำแผนการใช้งบประมาณ พร้อมเสนอ “กรมบัญชีกลาง” เร่งรัดแก้ไขปัญหา “โรงพยาบาลแม่ข่าย” ปรับปรุงระเบียบเอื้อคนทำงานในพื้นที่
วันนี้ (15 มิ.ย. 2566) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ครั้งที่ 2/2566
เห็นชอบ ร่างข้อเสนอรูปแบบการจัดสรรงบกองทุน (UC ) งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (งบบริการผู้ป่วยนอก (OP) + งบบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคขั้นพื้นฐาน (PPB) “การจัดสรรเงินเหมาจ่ายรายหัว” สำหรับถ่ายโอนปี 2567
ตามข้อเสนอของคณะทำงานประสานและจัดทำข้อเสนอ “การจัดสรรเงินเหมาจ่ายรายหัว” ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ สอน. และ รพ.สต.
คณะทำงานฯ มีความเห็นว่า ควรจัดสรรเงินกองทุน UC ในรูปแบบการจ่ายแบบเครือข่ายเหมือนเดิมในปี 2566 เนื่องจากตามศักยภาพของจังหวัดไม่เท่ากัน
และเห็นว่า การจ่ายในรูปแบบเครือข่าย จะดำเนินการได้ดีกว่า หากโอนตรงให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ยังไม่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการดำเนินการ
สำหรับ ร่างข้อเสนอรูปแบบการจัดสรรงบกองทุน UC ประกอบด้วย ให้เสนองบประมาณสำหรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่เป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ (PPA) จำนวน 4 บาทต่อประชากรรายหัว
โดยเสนอให้การบริหารจัดการจากเดิมที่ให้เขตสุขภาพ เปลี่ยนเป็นให้คณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่ (กสพ.) เป็นผู้บริหารจัดการและเสนอแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้ส สปสช.ระดับเขต อนุมัติ
ให้มีการศึกษาและเตรียมพร้อมต้นทุนในการจัดบริการและสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ปีงบประมาณ 2566 และ 2567 เพื่อวางแผนการใช้งบประมาณในปี 2568 และปรับระบบปฐมภูมิทั้งระบบที่ไม่ใช่ถ่ายโอนเท่านั้น
ให้เสนองบค่าเสื่อมหักงบบริการผู้ป่วยใน (IP) ของโรงพยาบาล ให้เหลือเฉพาะ งบบริการผู้ป่วยนอก (OP) และงบประมาณสำหรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่เป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ (PP) ของ รพ.สต.ถ่ายโอน โดยใช้กลไก กสพ. ทำแผนการใช้งบประมาณเสนอต่อกลไก สป.สช.ระดับเขต พิจารณาอนุมัติ
ทั้งนี้ ที่ประชุม ให้นำข้อสังเกตของ นายเลอพงศ์ ลิ้มรัตน์ ประธานอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอน ด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
เกี่ยวกับการจัดสรรงบ กองทุน UC ซึ่งต้องเป็นไปตามแนวทางการถ่ายโอนฯ แนบท้ายประกาศ ก.ก.ถ. หรือจัดทำเป็นเกณฑ์กลางในการจัดสรรงบประมาณของกองทุน สปสช.
เพื่อเป็นแนวทางให้กับ อปท.ที่ได้รับการถ่ายโอนไปจัดทำข้อตกลงร่วมกับโรงพยาบาลแม่ข่าย และมอบหมายฝ่ายเลขานุการแจ้ง สปสช.พิจารณา
ข้อสังเกต เรื่องของรายได้จากหน่วยบริการแม่ข่าย ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุน UC โดยหน่วยบริการประจำแม่ข่าย จะจัดสรรให้ตามเกณฑ์ที่แต่ละเครือข่ายได้ข้อตกลงกำหนดไว้
โดยต้องไม่แตกต่างจากแนวทางการจัดสรรงบประมาณ ก่อนการถ่ายโอนภารกิจให้แก่ อบจ. และต้องมีความเสมอภาคและความเท่าเทียมกับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ ข้อเสนอในการจัดสรรเงินเหมาจ่ายรายหัวของกองทุน UC จะต้องสอดคล้องกับแนวทางดังกล่าว ดังนั้น ควรจัดให้มีเกณฑ์กลางสำหรับการจัดสรรงบประมาณของกองทุน UC
เพื่อเป็นทางเลือกให้คณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่ (กพส.) พิจารณา นำไปจัดทำเป็นข้อตกในการจัดสรรงบประมาณกองทุน UC
โดยข้อตกลงของการจัดสรรงบประมาณของหน่วยบริการประจwที่เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ที่จะจัดสรรให้กับ รพ.สต. ที่ถ่ายโอน ต้องไม่ต่ำกว่าเกณฑ์กลางที่กำหนดไว้”
ทั้งนี้ ยังขอให้ “กรมบัญชีกลาง” เร่งรัดการแก้ไขปัญหา ปรับปรุงระเบียบที่เอื้อต่อการทำงานของคนในพื้นที่ ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะ รพ.สต.ที่ถ่ายโอนไปให้กับ อบจ.เท่านั้น
ซึ่งขณะนี้ ก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกันกับ รพ.สต. ที่ได้ถ่ายโอนให้กับเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ก่อนหน้านี้ด้วย
ก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลแม่ข่ายในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถโอนจัดสรรงบประมาณให้กับ รพ.สต.ที่ถ่ายโอนให้เทศบาลกับ อบต.ได้
และมีมติเพิ่มเติม มอบหมาย “กรมบัญชีกลาง” เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ และให้ข้อมูลประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะได้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบให้คลอบคลุมกับภารกิจถ่ายโอน
ให้รายงาน ก.ก.ถ.และคณะรัฐมนตรี รับทราบ โดยขอให้นายเลอพงศ์ พิจารณารายละเอียดข องรายงานการประชุมร่วมกับฝ่ายเลขานุการด้วย
ขณะเดียวกัน คณะทำงานแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นผู้ปฏิบัติงาน ต่อระเบียบ มท. 2 ฉบับ เป็นอย่างน้อย โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าอีกครั้ง ในการประชุมครั้งถัดไป วันที่ 18 ก.ค. นี้