xs
xsm
sm
md
lg

นพ.รุ่งเรือง เผย “แก๊งปากแจ๋ว” คดีบุกทำลายพระบรมรูปฯ-ด่ากราด สธ. จ่อติดคุก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ ได้เดินทางมาเป็นพยานศาลของคดี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 เมื่อกลุ่มนักกิจกรรม “ไพร่พล” และ “เด็กปากแจ๋ว” ได้เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข แล้วจัดกิจกรรมทางการเมือง โจมตีการทำงานของข้าราชการ ทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการการเมือง รวมถึงกล่าวโจมตีแผนการจัดการปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล โดยในวันดังกล่าว ผู้จัดกิจกรรมได้เทสีแดงใส่หุ่นจำลองรูปร่างคล้ายศพ ราดน้ำมัน และจุดไฟเผา นอกจากนั้น ยังมีความเสียเกิดขึ้นที่พระบรมรูปอนุสาวรีย์ สมเด็จพระราชบิดา สมเด็จย่า กรมหลวงชัยนาทนเรนทร ก่อนที่กลุ่มดังกล่าวจะถูกดำเนินคดีในที่สุด

นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวว่า วันนี้ ได้มาขึ้นศาลจังหวัดนนทบุรี ในคดีที่มีกลุ่มคนมาทำลายพระบรมรูปอนุสาวรีย์ สมเด็จพระราชบิดา สมเด็จย่า กรมหลวงชัยนาทนเรนทร ด้วยการสาดสีแดง เอาเชือกดึงอนุสาวรีย์ท่านให้พังลงมา ซึ่งท่านเป็นศูนย์รวมดวงใจของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคน นอกจากนี้ กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้มาประท้วงทำลายข้าวของ ทำลายสถานที่กระทรวงสาธารณสุข ด้วยการสาดสีแดง

ในวันนั้น ออกไปรับม็อบ และพยายามเจรจาด้วยสันติวิธีแต่ไม่เป็นผล กลุ่มบุคคลดังกล่าวทั้งด่ากระทรวงสาธารณสุข ด่าผู้บริหารระดับสูง โจมตีด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หลอกลวงพี่น้องประชาชนให้หลงเชื่อ รวมถึงใช้คำหยาบคาย ด่าบิดามารดาของตน ด้วยคำหยาบคายมากๆ ซึ่งคดีดังกล่าว ตนได้ติดตามทำงานร่วมกับตำรวจ จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด และส่งฟ้องศาล เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน และพี่น้องประชาชน พบว่า มีความเกี่ยวข้องกันหมดทั้งคดีบุกด่าบุคลากรในกระทรวง และเรื่องทำลายพระบรมรูปอนุสาวรีย์

ในตอนนี้ สามารถบังคับใช้กฎหมายจนผู้กระทำผิดถูกลงโทษ น่าจะถึงขั้นจำคุก แม้ว่าจะเหนื่อยมากๆ นับตั้งแต่วันที่เริ่มรวบรวมพยานหลักฐาน ตามจับกุมผู้ต้องหา จนถึงส่งฟ้องศาล เพราะผู้กระทบความผิดมีการแบ่งงานกันทำ ต้องไล่ติดตามรายคน แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรปล่อยให้คนผิดลอยนวล ต่อไปจะเป็นเยี่ยงอย่าง แล้วสังคมจะอยู่ได้อย่างไร

ขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยให้กับทางกระทรวงสาธารณสุข จนถูกทำร้ายร่างกายไปด้วย จนถึงการทำงานอย่างจริงจังของตำรวจ การรวบรวมพยานหลักฐาน และจับตัวผู้กระทำผิดส่งฟ้องศาลจนศาลลงโทษผู้กระทำผิดสำหรับตนแล้ว การปราบคนพาล อภิบาลคนดี ดูแลส่งเสริมคนดี และอย่าให้คนชั่ว คนพาล มีอำนาจหรือลอยนวลจากการกระทำความผิดเป็นเรื่องที่ระลึกและต่อสู้มาโดยตลอดชีวิตข้าราชการตั้งแต่เป็นตำรวจจนมาเป็นหมอในปัจจุบัน ที่สุดแล้ว อยากฝากถึงทุกๆ ท่าน ตามพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่หมอยึดมั่นปฏิบัติเสมอมา พระองค์ทรงพระราชทานไว้ว่า

“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น