“ธีระชัย” เตือนรัฐบาลใหม่รับมือความท้าทาย 2 ด้าน ทั้งการบริหารหนี้สาธารณะที่ต้องเพิ่มขึ้นเพราะรายจ่ายด้านสัวสดิการตามนโยบายพรรค และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เสี่ยงกระทบการคลังไทยครึ่งหลังปี 66 แนะให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ ไม่ควรเน้นแจกเงินอย่างเดียว แต่กระตุ้นให้ประชาชนปรับตัวเพิ่มความสามารถการแข่งขัน
วันนี้(28 พ.ค.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ MGROnline เกี่ยวกับงานด้านการคลังของพรรคก้าวไกลที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายธีระชัยกล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยที่จะเป็นประเด็นท้าทายต่อรัฐบาลหน้ามีอยู่ 2 ด้าน ด้านที่หนึ่ง คือความท้าทายในการบริหารหนี้สาธารณะในขณะที่ต้องเพิ่มรายจ่ายด้านสวัสดิการตามนโยบายของพรรค และด้านที่ 2 คือเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัว และพายุสมบูรณ์แบบที่กำลังตั้งเค้าในตลาดโลก
รัฐบาลหน้าจะต้องรับมรดกหนี้สาธารณะซึ่งใน 8 ปีรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เพิ่มขึ้นดับเบิ้ลจาก 5 ล้านล้านบาทเป็น 10 ล้านล้านบาท และส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่สนับสนุนการอุปโภคบริโภคซึ่งไม่ได้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของคนไทย จึงไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้อนาคตแบบยั่งยืนที่จะเป็นเครื่องมือช่วยแก่รัฐบาลหน้า
สำหรับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะทำงบประมาณจากฐานศูนย์ ส่วนหนึ่งเพื่อเกลี่ยการใช้จ่ายจากกระทรวงต่างๆ มาสนับสนุนเรื่องรัฐสวัสดิการ รวมถึงการลดขนาดกองทัพและการเลิกโครงการที่ไม่จำเป็นนั้น นายธีระชัยเห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดีแต่อาจจะได้เงินเกลี่ยเพียงจำกัด เพราะถึงแม้จะสามารถตัดงานของบางกระทรวงลดลงได้ แต่งบประมาณที่เป็นเงินเดือนข้าราชการจะยังคงอยู่
สำหรับแนวคิดที่จะเพิ่มแหล่งรายได้แก่รัฐบาล โดยการเก็บภาษีที่ดินแบบรวมแปลง เพื่อแก้ปัญหาที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เอื้อความสะดวกให้แก่เจ้าของที่ดินในนามบุคคลธรรมดาสามารถโยกที่ดินออกไปกระจายใส่ไว้ในชื่อบริษัทนั้น เป็นแนวคิดที่ดีที่จะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ
แต่นายธีระชัยเห็นว่าควรจะขยายไปเก็บภาษีและค่าใช้จ่ายจากการบริโภคแบบอวดรวย เช่น ผู้ที่ใช้ซูเปอร์คาร์ระดับแพง รวมทั้งควรมีการขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีกด้วย เช่น สินค้าทั่วไป เพิ่มจาก 7% เป็น 8% สินค้าฟุ่มเฟือย เพิ่มเป็น 10%
ในเรื่องการลดราคาพลังงานเพื่อช่วยประชาชนต่อสู้กับค่าครองชีพสูงนั้น นายธีระชัยกล่าวว่า แนวคิดของพรรคก้าวไกลในการจัดลำดับสิทธิ์ในการใช้ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ยังไม่ครอบคลุม
รัฐบาลหน้าควรแก้ปัญหาโครงสร้างธุรกิจพลังงานทุกด้านเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนมากขึ้น โดยเลิกอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์และราคาก๊าซซาอุดิอาระเบียทันที รวมทั้งจัดตั้งองค์กรรัฐวิสาหกิจใหม่เพื่อบริหารทรัพยากรพลังงานของชาติ
ปัญหาด้านการคลังที่ยากกว่าสำหรับรัฐบาลหน้า ก็คือปัญหาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะนี้ได้แสดงอาการต่อธนาคารทั้งในสหรัฐและในยุโรปแล้ว นายธีระชัยคาดว่าปัญหานี้จะก่อให้เศรษฐกิจหลายประเทศในโลกที่เป็นลูกค้าส่งออกของไทย ชะลอตัว และจะสร้างความเสี่ยงให้แก่ระบบการเงินของไทยในครึ่งปีหลัง 2566
สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือการวางจุดยืนท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมไปถึงการวางบทบาทที่เหมาะสมสำหรับรัฐบาลไทย ในการศึกษาร่วมกลุ่มกับประเทศที่ขายวัตถุดิบ กลุ่ม BRICS ที่ประสงค์จะพัฒนาสกุลเงินที่ใช้แทนดอลลาร์สหรัฐ
นายธีระชัยเห็นว่า รัฐบาลหน้าจะต้องให้ความสำคัญแก่นโยบายสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนด้วย และเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะสนับสนุนให้ประชาชนติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน
แต่เห็นว่ารัฐบาลหน้าควรเพิ่มโครงการ หนึ่ง อบต.หนึ่งโซลาร์ฟาร์ม เพื่อกระจายรายได้เม็ดเงินลงไปในมือชุมชนเช่นเดียวกับโซล่าเซลล์บนหลังคาบ้านสำหรับคนในเมือง แต่โครงการนี้จะสร้างเม็ดเงินให้แก่ชุมชนใน อบต. ที่จะใช้พัฒนาเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของชุมชน
นายธีระชัยแนะนำว่า รัฐบาลหน้าไม่ควรเน้นการแจกเงินให้แก่ประชาชนอย่างเดียว แต่ควรเน้นกระบวนการกระตุ้นให้ประชาชนปรับตัวเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ทั้งความสามารถส่วนตัวและความสามารถของชุมชน ซึ่งแนวนโยบายของพรรคก้าวไกลยังไม่เด่นชัด