ข่าวปนคน คนปนข่าว
** แค่เริ่มก็ร้าวแล้ว!! กองเชียร์เพื่อไทยยุ ฉีกเอ็มโอยู หากก้าวไกลจะกินรวบ ควบทั้งเก้าอี้นายกฯ -ประธานสภา
หลัง 8 พรรคร่วม เซ็นเอ็มโอยู จัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำ และมี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี
“ปิยบุตร แสงกนกกุล”เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็โพสต์เฟซบุ๊กบอกว่า ในการเจรจาต่อรองเพื่อกำหนดเนื้อหาใน MOU นั้น ก้าวไกล ยอมถอยในหลายเรื่อง หลายประเด็นให้กับพรรคร่วม เมื่อถึงเวลาตั้งรัฐบาลก็จะต้องยอมเฉือนกระทรวงเกรด เอ ให้กับพรรคร่วมรัฐบาลอีก ดังนั้นเก้าอี้ "ประธานสภาผู้แทนราษฎร" ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล เพราะตำแหน่งนี้ต้องเป็นของพรรคอันดับ 1 เพื่อเป็นกลไกในการผลักดันกฎหมาย คุมวาระ และญัตติต่างๆ เพื่อไม่ให้เจอปัญหา อุปสรรคเหมือนที่ผ่านมา
ขณะที่ “หมอชลน่าน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งคนในพรรคเล็งเอาไว้ว่า น่าจะเหมาะสมกับตำแหน่งประธานสภา ก็ออกมาสวนว่า การที่ “ปิยบุตร” ออกมาแสดงท่าทีเช่นนี้ เหมือนเป็นการกดดัน ปิดช่องการเจรจา ทั้งที่พรรคก้าวไกล ได้ตำแหน่งนายกฯ ที่เป็นประมุขของฝ่ายบริหารไปแล้ว ตำแหน่งประธานสภา ก็ควรเป็นของพรรคเพื่อไทย... “หมอชลน่าน”ยังด้อยค่า ไม่ให้ราคา “ปิยบุตร” ว่าเป็นแค่เห็นความเห็นของคนนอก
“อดิศร เพียงเกษ” ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาในเชิงข่มขู่เลยว่า พรรคก้าวไกล จะกินรวบทุกตำแหน่ง โดยเข้าใจว่าตัวเองเป็นเสียงข้างมาก ความเป็นจริงมีแค่ 152 เสียง ยังไม่เกินครึ่งเสียด้วยซ้ำ
“เพื่อไทย” ยินดีสนับสนุน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”เป็นนายกฯ แต่ไม่ใช่ว่าได้ฝ่ายบริหารแล้ว ยังจะคุมนิติบัญญัติอีก...ถ้าพรรคก้าวไกล ยังดื้อดึงดัน สมมุติว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกล ก็เดินไปไม่ได้อยู่ดี!!
เจอคำขู่เข้าไปอย่างนี้ ก้าวไกลก็ยังไม่ลดละ ส่ง “ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาตอกย้ำยืนยันว่า ตำแหน่งประธานสภา ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล ด้วยเหตุผล ความจำเป็น 3 ประการคือ ...หนึ่ง ผลักดันกม. 45 ฉบับตามนโยบายพรรค และกฎหมายที่เสนอโดยประชาชน... สอง เพื่อผลักดันวาระแก้รธน. เปิดทางให้มีการร่างรธน.ใหม่ โดยส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง... สาม ผลักดันให้เกิดรัฐสภาโปร่งใส เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน เกิดสภาเยาวชน เพื่อรับฟังเสียงของเยาวชน และให้มีที่ทางได้แสดงออก
...เราไม่มีความเชื่อใดๆว่า พรรคเพื่อไทยจะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล หลังจากได้พูดคุยกันหลายครั้ง เรายังเชื่อมั่นว่า เพื่อไทย จะไม่ถอนตัว จะอยู่ร่วมกับเราต่อไป ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภา หรือไม่ก็ตาม!!
“เจี๊ยบ” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำพรรคก้าวไกล ก็โพสต์เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ว่า “ประธานสภา” กระดุมเม็ดแรกของก้าวไกล เพื่อผลักดัน กม.ก้าวหน้า
ขณะที่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยยกเอาเนื้อเพลงของ “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ ว่า...จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน เหมือนว่าไม่มีวันจะพรากไป ทำอะไรได้ดังฝันใฝ่ถ้าเราร่วมใจ จุดหมายที่ฝันกันไว้ก็คงไม่เกินมือเรา...
ด้านเพื่อไทย พรรคตัวแปร ก็มีสัญญาณเปิดหน้าสู้ ต้องเอาตำแหน่งประธานสภา มาให้ได้เช่นกัน !!
ในทวิตเตอร์ @Thaksinlive ของ “ทักษิณ ชินวัตร” มีการรีทวิตข้อความจาก ทวิตเตอร์ @DuangritBunnag ของ “ดวงฤทธิ์ บุนนาค” สถาปนิกและแกนนำกลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ผู้สนับสนุนทักษิณ ที่ระบุว่า
“ต้องทนให้คนที่เรียกตัวเองว่าเพื่อน เอาตีนถีบหน้าอยู่ทุกวันจริงหรือครับ เพื่อนที่โกหก คอยแทงข้างหลังตลอด แต่ต้องช่วยมัน เพราะลำพังตัวเองมันไปเองก็ไม่รอด ไม่ช่วยมันกูก็ผิด ช่วยมันกูก็เจ็บ #ความอดทนบางทีแม่งก็มีขีดจำกัด”
พร้อมกับทวีตข้อความสั้นๆ ว่า “Sound Familiar krub” หรือแปลเป็นไทยว่า “รู้สึกคุ้นๆนะครับ”
คงไม่จำเป็นต้องบอกว่า ถ้อยคำที่ดุเดือดนี้ จงใจสื่อไปถึงพรรคก้าวไกลโดยตรง !!
“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกว่าในวันที่ 22 พ.ค.ที่ 8 พรรคการเมือง ร่วมลงนามเอ็มโอยูนั้น พรรคเพื่อไทย ได้แจ้งความประสงค์ไปยังแกนนำพรรคก้าวไกลแล้วว่า ต้องการตำแหน่งประธานสภา ซึ่งพรรคก้าวไกล ก็บอกว่าขอเวลาอีก 2-3 วัน จะเอาคำตอบมาให้ และขณะนี้ ก็รอคำตอบจากพรรคก้าวไกลอยู่ ซึ่งเราก็อยากให้บรรยากาศการทำงานร่วมกันเป็นไปได้ด้วยดี เพราะได้ลงนามเอ็มโอยู ไปแล้ว ไม่อยากให้เรื่องบางเรื่องมาเป็นอุปสรรค
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องมีการพูดคุยกันให้ชัดเจน เพราะหากปล่อยให้ต่างฝ่ายออกมาพูด ก็ไม่จบ และยิ่งนานไปก็ไม่เป็นผลดี แต่ถ้าคุยกันแล้ว ก้าวไกลไม่ยอม ทางเพื่อไทยก็ต้องกลับมาหารือกันอีกครั้ง ว่าจะเอาอย่างไร
“สมคิด เชื้อคง” อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ออกมาบอกเลยว่า หากถูกบีบคั้นขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยควรจะแยกออกมาเป็นฝ่ายค้านเสียเลยดีกว่า
ส่วน “ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์” รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความลงในทวิตเตอร์ “Dr.Ying Rinthipond Varinvatchararoj” ว่า “#ประธานสภา # พรรคเพื่อไทย หากเคารพในในหลักการ ประชาธิปไตยกันอย่างแท้จริง เมื่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องเข้าไปตัดสินด้วยการโหวตในสภา และเคารพเสียงข้างมากนะคะ
...ถ้ามองกันแบบมิตรจริงๆ และเชื่อใจกัน ประมุขฝ่ายบริหาร เป็นของพรรคแกนนำอันดับ 1 และ ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นของพรรคร่วม ก็ไม่น่ามีความกังวลใจใดถ้ามองอย่างมิตร ยกเว้นว่าคุณไม่เคยมองเราเป็นมิตร
...การยอมเสียสละก็เพื่อรักษาไว้ซึ่งบางสิ่ง อย่ามองว่าเสียสละกว่าใคร พรรคเพื่อไทยก็ถอยจนสุดแล้วเช่นกัน!!
ขณะเดียวกันทางเพจเฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ขึ้นไปล่อเป้าว่า
"ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งอันดับสอง เราพร้อมที่จะสนับสนุนพรรคที่ชนะอันดับหนึ่งเสมอ เราไม่มีรอหวังส้มหล่น เราจะช่วยให้พรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ...
ปรากฏว่า ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นแบบเดือดดาล แทนพรรคเพื่อไทย พร้อมเสนอให้ ฉีกเอ็มโอยู ถอนตัวออกมา หากมันไปด้วยกันไม่ไหว!!
กระแสของกลุ่มผู้สนับสนุนเพื่อไทยในตอนนี้ จึงกลายเป็นว่า เพื่อไทยควรถอนตัว อย่าปล่อยให้ก้าวไกลกินรวบ !!
แต่มองอีกมุมหนึ่ง จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ถ้า “พิธา” ไปไม่ถึงเก้าอี้นายกฯ แต่ “อุ๊งอิ๊ง” หรือ “เศรษฐา”ได้นั่งแทน แล้วตำแหน่งประธานสภา ก็เป็นของเพื่อไทยอีก เมื่อนั้นก็จะกลายเป็นว่า ก้าวไกล ไม่เหลืออะไรเลย โดนเพื่อไทยกินรวบ!!
**ช่องข้าผิดตรงไหน? "เจ๊ปอง" ไม่ทน "อีเจี๊ยบ เลียบด่วน" บูลลี่ สื่อ โดน คุม !!
ศึกครั้งนี้ต้องบอกว่า ระหว่างพิธีกรฝีปากกล้ากับเซเลบโซเชียลปากกาคม ใครจะอยู่ใครจะไป เมื่อ "เจ๊ปอง" อัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวชื่อดังประจำช่องท็อปนิวส์ อดรนทนไม่ไหวกับโพสต์ข้อความของ "อีเจี๊ยบ เลียบด่วน" อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่มีผู้ติดตามกว่า 3.5 ล้านบัญชี
เรื่องเริ่มจาก “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” โพสต์ข้อความระบุว่า "สื่อ โดน คุม !! ประชาชนไม่รู้ความจริง" หรือ พี่เปิดแช่แต่ช่องทับนิวส์ เอาดีๆ"
หลังจากที่ “อีเจี๊ยบ” โพสต์ออกไปก็ปรากฏมีชาวโซเชียลฯ เข้ามาแสดงความเห็นล้นหลามตามเคย
แน่นอน ที่ “อีเจี๊ยบ”ระบุในข้อความไม่ได้มีคำว่า "ท็อปนิวส์" โต้งๆ หากแต่คำ "ทับนิวส์" ของอีเจี๊ยบ ชาวเน็ตเขาตีความว่าเป็นช่องไหนไม่ได้ นอกเสียจาก "ท็อปนิวส์" ช่องที่ก็รู้กันอยู่ ฝั่งเชียร์ “ลุงตู่-ลุงป้อม” และมีเอฟซีลุงติดตามจำนวนมากนั่นเอง
ความครื้นเครงเจือปน"บูลลี่"ซ้ำ ตอกย้ำว่า ทับนิวส์=ท็อปนิวส์ ก็ตามมาจากบรรดาเซเลบขาร่วมด้วยช่วย "เผือก"
อย่างเช่น เฟซบุ๊ก Seth Dejsupa ของ เศรษฐ์ เดชสุภา เจ้าของเพจสัตว์เลี้ยงชื่อดัง Ninja And The Gang ระบุว่า "ป้าข้างบ้านกูบอกว่า ทับนิวคือสื่อน้ำดี นี่ได้แต่คิดในใจ งั้นน้ำคลองข้างบ้านกูคงแดกได้แหล่ะแบบนั้น" โดยที่ เพจ "อีเจี๊ยบ เลียบด่วน" ตอบกลับไปว่า "มึงบูลลี่น้ำคลอง !!!"
ตามมาด้วย เฟซบุ๊กเพจ "The METTAD" (เดอะ เมตตาดี) ซึ่งเป็นเพจล้อเลียนการเมืองชื่อดัง ได้แชร์โพสต์ดังกล่าว พร้อมกับแท็กไปยัง "สันติสุข มะโรงศรี" และ "กนก รัตน์วงศ์สกุล" ระบุข้อความว่า "ทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ส่วนผม แค่ช่วยหารายได้ให้ Top News เพราะทุกคำด่า มีราคาที่ต้องจ่าย"
งานนี้ต้องถึง "เจ๊ปอง" อัญชะลี ไพรีรัก ออกมาเคลื่อนไหว พูดในรายการTOPข่าวเที่ยง ระบุว่า พวกเราเป็นคนใจดี เราก็เคยคุยกัน ไม่รู้เขามีแอดมินกี่คน แต่ตอนตั้งเพจ "สมรัก พรรคเพื่อเก้ง" เรารู้จักเขา ก็เขียนทางอินบอกซ์เสมอ
พูดตรงๆ ตอนที่เป็นเพจ "อีเจี๊ยบ เลียบด่วน" ก็เคยคุย แต่ตอนหลังๆ ไม่ได้คุยกัน อาจจะอินบอกซ์เยอะ แล้วเรานั่งอ่าน ก็เข้าไปกดไลค์ กดนั่นกดนี่ การโพสต์ข้อความดังกล่าว แปลว่า คนที่เขาเปิดแต่ช่องท็อปนิวส์ทั้งหมด ชาวบ้านที่เขาเปิดแต่ช่องท็อปนิวส์ 5 วัน
คำถามของ “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” ซึ่งเป็นเซเลบคนสำคัญมากในโลกออนไลน์ เธอตั้งโพสต์นี้ขึ้นมาต้องการอะไร เจี๊ยบ เลียบด่วน เธอต้องการสื่อเรื่องอะไร เธอบอกพี่มาตรงๆ จะเขียนตอบพี่ก็ได้ หรือจะอินบอกซ์มาหาพี่ก็ได้ หรือจะมาหาพี่ที่ทำงานพี่ก็ได้ หรือจะเรียกพี่ไปหาก็ได้
ในฐานะที่เราเคยรู้จักกันมานาน พี่ถามเจี๊ยบตรงๆ เจี๊ยบเขียนอย่างนี้เพราะอะไร เจี๊ยบต้องการอะไรกันแน่ สื่อโดนคุม ประชาชนไม่รู้ความจริง หรือพี่เปิดแช่ แต่ช่องท็อปนิวส์ เอาดีๆ
คนเปิดแช่ช่องท็อปนิวส์ ผิดไหม? ฉันเป็นคนที่ชื่นชมเธอมาก เขียนเก่ง เพราะฉะนั้นเธอเขียนสาม-สี่-ห้าบรรทัดนี้ ด้วยสาเหตุอะไร คิดอะไร เพื่ออะไร ตอบ!
“เจ๊ปอง”อัญชะลี ร่ายยาวถึง อีเจี๊ยบ ทำนองช่องข้าผิดตรงไหน ? ที่มีคนเปิดแช่...
งานนี้ต้องตามดูว่า “อีเจี๊ยบ” จะนิ่ง หรือจะสวน น่าสนใจว่าดรามานี้จะไปจบที่ตรงไหน!!